UNDP ช่วยเกษตรกรปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สปป.ลาว

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ในสปป.ลาวได้ช่วยเกษตรกรในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการจัดการน้ำฝน เตรียมความพร้อมในภูมิภาคสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การสนับสนุนโครงการที่มอบให้แก่ภาคเกษตรในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง ในรูปแบบของถังบรรจุ 126 ถังซึ่งมีความจุระหว่าง 1,000-1,600 ลิตรต่อคัน สำหรับการกักเก็บน้ำฝน อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 15 แห่งที่มีความจุตั้งแต่ 80 ถึง 7,500 ลูกบาศก์เมตร โดยโครงการนี้จะช่วยเกษตรกรปลูกพืชได้แม้ในฤดูแล้งและถังเก็บน้ำก็มีประโยชน์ในการจัดหาน้ำจืดให้กับชาวบ้าน และช่วยผลักดันโครงการความมั่นคงด้านอาหารของรัฐบาลและขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและป่าไม้รายงานในยุทธศาสตร์ล่าสุดว่ากรมวิชาการเกษตรกำลังมุ่งความพยายามในการช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศให้ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_UNDP.php

อุตสาหกรรมยาสูบของกัมพูชา ลดลงเมื่อปีที่แล้ว

อุตสาหกรรมยาสูบของกัมพูชาลดลงจากการเพาะปลูกเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ากัมพูชาจะได้รับใบอนุญาตปลอดภาษีและการส่งออกโควต้าใบยาสูบไปยังเวียดนามตามรายงานของกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง กัมพูชาผลิตยาสูบได้ 7,454 ตันในฤดูกาลที่แล้วลดลงร้อยละ 18 จากฤดูกาลที่แล้ว 9,089 ตัน ในขณะที่การเพาะปลูกลดลงร้อยละ 16 เป็น 5,7439 ต้น ทั่วประเทศจาก 6,859 ต้น Tbong Khmum เป็นผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่ที่สุดของราชอาณาจักร โฆษกของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากัมพูชายังคงได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดปลอดภาษีสำหรับสินค้าเกษตรซึ่งรวมถึงยาสูบ ในปี 59 กัมพูชาและเวียดนามได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับสินค้าเกษตรข้ามพรมแดนที่ใช้ร่วมกัน ภายใต้ข้อตกลงนี้กัมพุชาได้รับอนุญาตให้ ส่งออกยาสูบแห้ง 3,000 ตัน ไปยังเวียดนามปลอดภาษีเป็นเวลาหนึ่งปีโดยเริ่มในปี 59 ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่าราชอาณาจักรส่งออกยาสูบ 1,200 ตันไปยังเวียดนามในปี 60 มูลค่า 2.37 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 24% จากปี 59 ในปี 59 มีการส่งออก 989.75 ตันมูลค่า 1.91 ล้านดอลลาร์

ที่มา :https://www.phnompenhpost.com/business/kingdoms-tobacco-industry-undergoes-decrease-last-year

เอเจนซี่ไฟฟ้าสปป.ลาวต่ออายุสัญญา ซื้อ-ขายไฟฟ้า

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลงนามในสัญญาซื้อไฟฟ้าเพื่อการซื้อไฟฟ้าต่อเนื่องกับโครงการ Electric de Laos (EDL) เพื่อซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำสองแห่ง ได้แก่ เขื่อนน้ำงึม 1 และเขื่อนไซอัน ซึ่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่มีอยู่สองแห่งจะสิ้นสุดเดือนมีนาคมและหน่วยงานทั้งสองของรัฐได้คำนวณอัตราการจัดซื้อใหม่เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง โดยประเทศไทยจะรับซื้อไฟฟ้าจากสองโครงการที่มีขนาด 300-400 เมกะวัตต์ ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแหน่งชาติจะทำการซื้อในอัตรา 1.8 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อหน่วย ส่วนอัตราการซื้อเฉลี่ยของกฟผ. อยู่ที่ 1.63 บาทต่อหน่วย สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเดิมมีอัตราการซื้อหน่วยละ 1.33 บาท อย่างไรก็ตาม EDL ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสปป.ลาวสามารถขายไฟฟ้าให้กับประเทศของตนได้หากสปป.ลาวมีพลังงานไม่เพียงพอ และภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า EDL สามารถซื้อได้จากกฟผ. ในราคา 1.9 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (หน่วย) ในช่วงเวลาเร่งด่วนและ 1.63 บาทต่อหน่วยในช่วงนอกฤดู ดังนั้นอัตราการซื้อเฉลี่ยของ EDL อยู่ที่ 1.73 บาทต่อหน่วย อัตราใหม่มีให้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/news/1647164/electricity-agency-laos-renew-ppas

โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 150 เมกะวัตต์ในสีหนุวิลล์เพื่อดำเนินการในเดือนก.ย. 62

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการทั่วไปของ EDC ได้ยืนยันข่าวใหม่เมื่อวันจันทร์ ว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 150 เมกะวัตต์ใน Stung Hav ของสีหนุวิลล์จะเปิดตัวในเดือนก.ย 2019 จากโครงการรัตนรักษ์โครงการดังกล่าวได้เริ่มก่อสร้างมานานกว่า 2 ปีแล้วโดย General Electric (GE) และ Toshiba การก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้นลงทุนโดย บริษัท แคมโบเดียนเอ็นเนอร์ยี่ทู จำกัด ซึ่งมี บริษัท จีอีเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโรงงานและเครือข่ายการจัดจำหน่าย

ที่มา:http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/13390-2019-03-18-13-50-29.html

รีสอร์ทหรูเริ่มผุดกลางกัมปอตของกัมพูชา

Amber Kampot รีสอร์ทระดับไฮเอนด์เปิดตัวโครงการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วริมฝั่งแม่น้ำซึ่งนักพัฒนาหวังว่าจะตอบโจทย์ความต้องการภาคการบริการสุดหรูหรา แล้วเสร็จในไตรมาสที่สามของปี 2020 amber International Holdings บริษัทโรงแรมระดับสากล กล่าวว่าทีมที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาได้ผสมผสานความหลงใหลและความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขานานหลายทศวรรษ มารังสรรค์เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างไร้คู่แข่งและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับนักลงทุน กำปอตคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 1.9 ล้านคนและรายรับจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 13 ล้านดอลลาร์ ในปี 62 ขณะที่ท่าเรือกัมปอตกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 442,000 คนในปี 65

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50587657/luxury-resort-breaks-ground-in-kampot/

เชื่อมั่นผู้บริโภคก.พ.แตะ 82.0 ฟื้นต่อเนื่องเดือนที่ 2

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้า เผย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ.อยู่ที่ 82.0ฟื้นต่อเนื่องเดือนที่ 2 เหตุนักท่องเที่ยวจีนช่วยหนุนและเม็ดเงินสะพัดเลือกตั้ง 3-5 หมื่นล้าน จับตา จีดีพี โตต่ำกว่า 4% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.พ.62 เท่ากับ 82.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 2 เป็นผลจากปัจจัยบวก คือ มีการประกาศวันเลือกตั้ง นักท่องเที่ยวจีนฟื้นกลับมา และสัญญาณการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนมีทิศทางที่ดี แต่ยังกังวลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เทรดวอร์ยังยืดเยื้อ และเบร็กซิตไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การเลือกตั้งในเดือนมี.ค.จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัด 3-5 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบ เช่น ส่งออกเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์จากสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่มีการเก็บภาษีสินค้าไปก่อนหน้านี้ทำให้เศรษฐกิจไทยปี 62 อาจโตต่ำกว่า 4%

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/582983

12/03/62

บ้านเรือนประมาณ 130,000 หลัง ถูกทิ้งร้างในมัณฑะเลย์

จากการสำรวจคณะกรรมการพัฒนาเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 พบว่ามีบ้านประมาณ 130,000 หลังในพื้นที่เพราะไม่เสียภาษีหรือไม่ต้องจ่ายภาษี จากข้อมูลของกรมสรรพากรของ คาดว่าจะเก็บภาษีทรัพย์สินได้ 1.8 พันล้านจ้าด ในหกเมืองของมัณฑะเลย์ของปีงบประมาณ 2561-2562 และจะเพิ่มเป็นสองเท่าในปีงบประมาณหน้า หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจ 98% พบบ้านราว 260,000 หลัง ซึ่งจ่ายภาษีอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว การสำรวจได้ดำเนินการในหกเมืองในมัณฑะเลย์เพื่อดูข้อเท็จจริงหรือข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงจำนวนบ้านที่ต้องชำระภาษีหรือธุรกิจขนาดเล็กที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ

ที่มา : https://www.mmbiztoday.com/articles/around-130000-houses-left-untaxed-mandalay

12/03/62

การส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาพุ่ง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ 4 เดือน

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่ากว่า 1.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 61-62 ซึ่งเริ่มในเดือนต.ค เพิ่มขึ้น 81.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าเกษตรส่งออกสำคัญคือข้าว พัลส์ ข้าวโพด ยาง ผลไม้และผักและอื่น ๆ ประธานาธิบดีเมียนมาได้ออกมาส่งเสริมให้เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มเป็นสองเท่าในการส่งออกและให้เกษตรกรมุ่งมั่นเพื่อผลประโยชน์ของชาติและการพัฒนาทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเพราะเมียนมาเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่เดือนต.ค-ก.พ เมียนมามีรายได้จากการส่งออกสินค้าทั้งหมด 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-should-develop-domestic-production-grow-local-economy-czech-republic.html

12/03/62

ไข้หวัดหมูระบาดเมียนมา ระงับการนำเข้าหมูและเนื้อหมู

กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทานระงับการนำเข้าหมูและเนื้อหมูทุกประเภทหลังการระบาดของโรคไข้หวัดหมูในแอฟริกา (ASF) และแนะนำให้เกษตรกรและผู้ค้าหมูทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในฟาร์มและตลาดเป็นประจำและให้ห่างไกลจากบริเวณชุมชน แม้จะไม่มีความเสี่ยงหรือติดต่อต่อมนุษย์ แต่สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมูและผลกระทบทางต้นทุนต่อของผู้เลี้ยงหมู โดยการระบาดเริ่มมาจากจีนใน 20 จังหวัดและทำการกำจัดหมูไปแล้ว 916,000 ตัว จากนั้นเชื้อได้แพร่ระบาดจากยูนนานเข้าสู่เมียนมา ปัจจุบันราคาเนื้อหมูในประเทศยังไม่ได้รับผลกระทบ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/pig-pork-product-imports-remain-suspended-swine-fever-continues-spread.html

13/03/62

รัฐบาลสปป.ลาว พิจารณาภาษีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

อุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะอาจต้องจ่ายภาษีเพิ่มในขณะนี้ที่รัฐบาลสปป.ลาว ได้ใช้ยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวแห่งชาติภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวนายกรัฐมนตรีรับรองเมื่อวันที่ 30 ม.ค กระทรวงการคลังจะกำหนดภาษีเพื่อกีดกันอุตสาหกรรมจากการผลิตมลพิษและขยะอันตรายนอกเหนือจากภาษีคุ้มครองสิ่งแวดล้อมกระทรวงการคลังอาจกำหนดภาษีเพื่อสนับสนุนการประหยัดพลังงานการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและการกระจายความมั่งคั่งที่ยุติธรรมเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ใหม่รัฐบาลวางแผนที่จะดำเนินการตามพระราชดำริตั้งแต่บัดนี้จนถึง 73 เพื่อส่งเสริมการเติบโตสีเขียวกลยุทธ์ให้คำแนะนำแก่กระทรวงการคลังในการลดภาษีหรือเสนอการยกเว้นภาษีให้กับธุรกิจที่นำเข้าเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สปป.ลาวสามารถลดปริมาณความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม
ที่มา: https://www.phnompenhpost.com/business/lao-government-considers-tax-protect-environment

13/03/62