ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยว ในสปป.ลาว

กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวและบริษัท Amazing Lao Sole จำกัด ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) เพื่อวางแผนบริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวที่จะให้คำแนะนำแก่ธุรกิจที่พิจารณาลงทุนด้านการท่องเที่ยวในสปป.ลาว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติวัฒนธรรมประวัติศาสตร์และเกษตรกรรมและศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวของสปป.ลาวนอกจากนี้ยังมุ่งปรับปรุงมาตรฐานของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมทั้งดึงดูดการลงทุนในการพัฒนาการท่องเที่ยวมากขึ้น ภายใต้ MOU ทั้งสองฝ่ายจะหาแหล่งเงินทุนตลอดจนหน่วยงานด้านเทคนิคและธุรกิจเพื่อลงทุนในการท่องเที่ยว โดยจะจัดทำแผนการพัฒนา การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวและกำหนดแผนการตลาดการท่องเที่ยว จะร่วมกันจัดทำแคมเปญข้อมูลการท่องเที่ยวในสปป.ลาวสำหรับนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศซึ่งจะสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Public232.php

สปป.ลาวกำลังให้ความสำคัญกับการขายไฟฟ้าให้กัมพูชามากขึ้น

แขวงจำปาสักในสปป.ลาวอาจขยายการผลิตการไฟฟ้าให้กัมพูชาได้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการในการพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ชายแดน Mr. Bounleud Keophasouk เจ้าหน้าที่สถานีย่อยหาดในเขตโขงกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่าน “ปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กัมพูชาอาจเพิ่มขึ้นในอนาคตเนื่องจากสายส่งที่มีอยู่มีความสามารถในการบรรจุพลังงานได้มากขึ้น แต่ผมไม่สามารถพูดได้ว่าในเวลานี้จะมีมากน้อยเพียงใด” ผู้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐคือ บริษัท Mega First Corporation Berhad ซึ่งเป็น บริษัท สัญชาติมาเลเซียซึ่งมีส่วนแบ่งร้อยละ 80 ในขณะที่ EDL-Gen (Electricite du Laos Generation Public Company) ที่เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจถือหุ้นร้อยละ 20 การร่วมมือของบริษัทแนวหน้าจะทำให้การผลิตไฟฟ้าของสปป.ลาวมีกำลังมาขึ้นและเป็นส่วนช่วยที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังน้ำของสปป.ลาวกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2548 มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพียง 9 แห่งทั่วประเทศมีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 680 เมกะวัตต์ผลิตไฟฟ้าได้ 3,237 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันเขื่อน 78 แห่งเปิดให้บริการโดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 9,972 เมกะวัตต์ซึ่งสามารถผลิตได้ 52,211 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos231.php

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานส่งเสริมการพัฒนาทักษะจำเป็นต่อแรงงาน

ปัญหาด้านแรงงานถือเป็นความท้าทายที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นการพัฒนาทักษะของแรงงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดจึงเป็นสิ่งท้าทายต่อรัฐบาลเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและพัฒนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมกล่าวว่า “ทางการจะช่วยเหลือแรงงานสปป.ลาวให้ประสบความสำเร็จและความพยายามในการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานรวมถึงการพัฒนาแรงงานเพื่อให้มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิผลต่อระบบเศรษฐกิจ” โครงสร้างแรงงานในปัจจุบันของสปป.ลาวขาดความชัดเจนขณะที่การพัฒนาทักษะและกลไกการจ้างงานยังไม่ครอบคลุมและระบบข้อมูลแรงงานยังไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังไม่มีการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับสิทธิของแรงงานอีกด้วย การพัฒนาทักษะและส่งเสริมสวัสดิการแรงงานให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นส่วนขับเคลื่อนให้ตลาดแรงงานของสปป.ลาวมีการพัฒนา

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Improvement_230.php

รองผู้ว่าการแขวงจัดทำแผนแก้ไขปัญหาความยากจนของเด็ก

รองผู้ว่าการจาก 18 แขวงในสปป.ลาวได้มีการประชุมกัน ณ เมืองหลวงเวียงจันทน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการ “Lao Generation 2030” ในที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการปฏิบัติโดยเฉพาะการพัฒนาข้อผูกพันตามบริบทที่มุ่งเน้นการลดความยากจนของเด็กในหลายมิติในระดับชาติผ่านแผนปฏิบัติการและงบประมาณ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองประธานคณะกรรมาธิการแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของสตรีแม่และเด็ก Mr.Alounkeo Kittikhoun กล่าวว่า“ เมื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมในสปป.ลาวเราจะเห็นว่าประเทศมีความก้าวหน้าอย่างมากในการลดความยากจน ในช่วงทศวรรษ      ที่ผ่านมาข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความยากจนทางการเงินปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 18 และจำนวนเด็กที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเหล่านี้อยู่ที่ร้อยละ 17 เปอร์เซ็นต์อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องทำเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของเด็กดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงมีความสำคัญเช่นเดียวกับแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในระดับแขวงทั้ง 18 แขวง” ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องจัดทำแผนเฉพาะสำหรับแต่ละแขวงและจัดสรรทรัพยากรเพื่อนำไปสู่การปฎิบัติได้จริงและเด็กเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด

ที่มา :    http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Deputy_229.php

บริษัท สตาร์เทเลคอม (Unitel) เริ่มใช้ใบแจ้งหนี้ที่พิมพ์ด้วยตัวเองในการขายกิจกรรมการบริการ

ตามใบอนุญาตเลขที่ 3127 / TCT ที่ออกเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2020 กรมภาษีอากรได้ยอมรับคำขอของบริษัท สตาร์เทเลคอม (Unitel) ในการอนุญาตให้พิมพ์ใบแจ้งหนี้ด้วยตนเองสำหรับกิจกรรมการขายและบริการใบแจ้งหนี้ที่พิมพ์ด้วยตนเองคือใบแจ้งหนี้ที่ บริษัท สตาร์เทเลคอม พิมพ์บนคอมพิวเตอร์เครื่องบันทึกเงินสดหรือเครื่องจักรอื่น ๆ เมื่อขายสินค้าหรือให้บริการ การใช้ใบแจ้งหนี้ที่พิมพ์ด้วยตนเองจะช่วยสนับสนุนความพยายามของ Unitel ในการจัดทำใบแจ้งหนี้เชิงรุกด้วยการที่ยูนิเทลเป็นองค์กรที่มีศูนย์บริการจำนวนมากใน 18 สาขาทั่วประเทศการพิมพ์ใบแจ้งหนี้ด้วยตนเองจะช่วยให้ผู้นำควบคุม บริษัท ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้แผนกการเงินที่สำนักงานใหญ่ยังสามารถควบคุมการทำและการพิมพ์ใบแจ้งหนี้เพื่อลดต้นทุนและรองรับการผลิตและการดำเนินธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิถือเป็นต้นแบบบริษัทที่มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในอนาคตหากมีบริษัทในสปป.ลาวนำระบบดังกล่าวไปใช้จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาไปอีกขั้นของบริษัทในสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Unitel_228.php

สปป.ลาวจับมือพันธมิตรเปิดตัวระบบนวัตกรรมการเกษตร

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปและสถาบันวิจัยเกษตรและป่าไม้แห่งชาติ เปิดตัวโครงการใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ ซึ่งโครงการพัฒนาขีดความสามารถในระบบนวัตกรรมการเกษตรของการขยายกรอบแพลตฟอร์มเกษตรเขตร้อน (TAP AIS) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิผลความสามารถในการแข่งขัน TAP-AIS เป็นโครงการระดับโลกที่เป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มของสหภาพยุโรป“ การพัฒนานวัตกรรมอัจฉริยะผ่านการวิจัยด้านการเกษตร (DeSIRA): สู่ระบบเกษตรและนวัตกรรมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ”  จะนำไปสู่การส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงการเกษตรและระบบอาหารที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ โดยการพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงการร่วมมือกันในการจัดการการผลิตที่ดีขึ้นและการเข้าถึงตลาดใหม่  การใช้เมล็ดพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์ใหม่เพื่อผลิตมากขึ้นโดยใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลง มีคุณภาพดีขึ้น ช่วยให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจ สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยทางโภชนาการ ทั้งนี้โครงการ TAP-AIS ในสปป.ลาวยังมุ่งเน้นไปที่วิธีการในการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถทั้งสามมิติสำหรับนวัตกรรมทั้งในระดับบุคคล ระดับองค์กรและสภาพแวดล้อม

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_228.php

NA อนุมัตินโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและกฎหมายเพิ่มเติม 5 ฉบับ

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติสมัยที่ 10 (NA) สมัยสามัญครั้งที่ 8 สิ้นสุดลงในวันอังคารหลังจากอนุมัตินโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและกฎหมาย 5 ฉบับ ช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาสมาชิกสภานิติบัญญัติได้ถกเถียงหารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาล รวมถึงเรื่องภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจากดำเนินนโยบายต่างๆในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19  ในปีนี้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19  และคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3 อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.72 ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลยังได้รับการร้องขอของสมาชิกให้เพิ่มการผลิตทางการเกษตรเพื่อการส่งออกในขณะที่ลดการนำเข้าให้น้อยที่สุดเพื่อเป็นการบรรเทาอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมกฎหมาย 5 ฉบับเพื่อให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_NA_225.php

Xaignavong Group Sole Company Limited ตั้งเป้าขยายอุตสาหกรรมท่อเฟส 2

15 ปีที่ผ่านมาของการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับท่อไปยังสปป.ลาวมีมูลค่ามหาศาล นาย Langkone ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Xaignavong สังเกตเห็นว่ามีเงินตราต่างประเทศจำนวนมากไหลออกจากประเทศในขณะเดียวกันความต้องการสินค้าเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเจตนารมณ์ในการลดการไหลออกของเงินตราต่างประเทศและช่วยสนับสนุนการพัฒนาที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการปรับปรุงอุตสาหกรรมให้ทันสมัยจึงเกิดการก่อตั้ง Toyo Industry Lao Factory Company Limited หรือ Toyo Pipe Factory ในปี 2559 ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Xaignavong Group Sole Company Limited ปัจจุบัน Xaignavong Group กำลังจะมีการลงทุน 20 พันล้านกีบในเฟสที่สองของการก่อสร้างโรงงานท่อ นาย Langkone ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Xaignavong กล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์สเมื่อวานนี้ว่าการก่อสร้างคาดว่าอุตสาหกรรม Toyo ใหม่จะแล้วเสร็จภายในแปดเดือนการผลิตทุกขั้นตอนจะทันสมัยเทียบเท่ามาตรฐานกอุตสาหกรรมท่อในภูมิภาคอาเซียนซึ่งในระยะสองจะมีการขยายพื้นที่ของโรงงานจาก 2 เฮกตาร์เป็น 3 เฮกตาร์ การลงทุนครั้งใหม่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในเวียงจันทน์และในประเทศอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือการสร้างโรงงานใหม่ในระยะที่สองจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นทำให้ บริษัทต้องกำชับการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้และปฏิบัติตามนโยบายการพัฒนาสีเขียว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xaignavong_224.php

DHL Express เพิ่มการลงทุนในเอเชียรองรับอีคอมเมิร์ซขยายตัว

บริษัท DHL Express ลงทุนเกือบ 750 ล้านยูโรเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายทั่วโลกในอีกสองปีข้างหน้า โดย 60 ล้านยูโรจะขยายเครือข่ายการบินในเอเชียแปซิฟิกและเปิดตัวเส้นทางบินตรงที่เชื่อมต่อศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคไปยังย่างกุ้งและเวียงจันทร์ของสปป.ลาว DHL คาดว่าปริมาณการจัดส่งในเอเชียแปซิฟิกจะสูงกว่าช่วงพีคของซีซั่นในปีที่แล้วถึง 30-40% ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวและเส้นทางการบินใหม่จะได้ประโยชน์จากตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตและการค้าข้ามแดนในระยะยาว ตั้งแต่ต้นปี 63 DHL ประสบปัญหาการจัดส่งสินค้าออนไลน์ในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 50% (ไม่นับรวมจีน) นอกจากนี้ยังลงทุน 25 ล้านยูโรเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในบังกลาเทศซึ่งจะรวมสำนักงานและศูนย์บริการบนพื้นที่ 10,000 ตร.ม. โรงงานแห่งใหม่นี้จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 35% และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 65 นอกจากนี้ยังจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ ในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ อีกทั้งเครือข่ายสายการบินใหม่จะขยายไปยังปักกิ่งและย่างกุ้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/dhl-express-raises-investment-asia-e-commerce-expands.html

ผู้นำกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงกระชับความสัมพันธ์ผ่านการประชุมสุดยอด Mekong-ROK

ความร่วมมือระหว่างประเทศในลุ่มน้ำโขงและสาธารณรัฐเกาหลี (ROK) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ความร่วมมือระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงและญี่ปุ่นก็ขยายวงกว้างขึ้นเช่นกัน ในการประชุมสุดยอด Mekong-ROK สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำจากสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ไทย เวียดนามและเกาหลีใต้ ได้ทบทวนความร่วมมือที่ผ่านมาตามแผนงานความร่วมมือระยะเวลาตั้งแต่ปี 2560-2563 กรอบความร่วมมือได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้ 3 เสาหลักและลำดับความสำคัญ 7 ประการในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเกษตรและการพัฒนาชนบท การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาวได้ดำเนินโครงการ 4 โครงการโดยได้รับการสนับสนุนจาก Mekong-ROK Cooperation Fund มูลค่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐโครงการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านทรัพยากรมนุษย์และแก้ปัญหาความยากจนในสปป.ลาว สปป.ลาวได้รับประโยชน์จากโครงการความช่วยเหลือหลายโครงการภายใต้ความร่วมมือแม่โขง – ญี่ปุ่นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการก้าวสู่การเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Leaders_223.php