ตัวแทนหน่วยงานสหรัฐสนับสนุนการเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่า ในสปป.ลาว 617,744 เหรียญสหรัฐ

สำนักงานลดภัยคุกคามด้านการป้องกันแห่งสหรัฐอเมริกาได้ให้เงินสนับสนุนมากกว่า 5.4 พันล้านกีบ (617,744 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาโครงการเครือข่ายเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่าแห่งชาติในสปป.ลาว MOU ได้มีการลงนามระหว่างรองหัวหน้าภาควิชาปศุสัตว์และประมงกระทรวงเกษตรและป่าไม้และผู้อำนวยการสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าสู่สปป.ลาว ภายใต้โครงการซึ่งดำเนินไปจนถึงเดือนธันวาคม 65 สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจะทำงานร่วมกับหน่วยงานลดภัยคุกคามเพื่อสร้างขีดความสามารถภายในหน่วยงานภาครัฐและสถาบันต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังสุขภาพสัตว์ป่าระดับประเทศที่มีประสิทธิภาพ ระเบียบด้านสุขภาพ (IHR2005) และองค์การโลกสำหรับแนวทางสุขภาพสัตว์ การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่าและการตอบสนองที่เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มนี้จะสนับสนุนรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นใหม่ต่อสุขภาพของประชาชนความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการนี้นำโดยห้องปฏิบัติการสุขภาพสัตว์แห่งชาติสปป.ลาว มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถภายในรัฐบาลเพื่อดำเนินการเฝ้าระวังสัตว์ป่าในระดับประเทศ งานนี้จะค้นหาเชื้อโรคที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของสัตว์และผู้คนตามลำดับความสำคัญที่กำหนดโดยรัฐบาล

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/us-agency%E2%80%99s-617744-supports-lao-wildlife-disease-surveillance-105666

Moody’s ยังคงจัดอันดับของกัมพูชาไว้ที่ B2

Moody’s ยังคงยืนยันจัดอันดับเครดิตผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาวไว้ที่ระดับ B2 ของกัมพูชาจากการเติบโตของ GDP ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง รวมถึงหนี้สินภาครัฐที่ค่อนข้างต่ำ โดยมองว่าการลดทอนสิทธิประโยชน์ทางภาษี (EBA) จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกทั้งสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเสถียรภาพได้ คือการขาดดุลทางการคลังเล็กน้อยเนื่องจากส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายทางด้านภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรักษาระดับการชำระภาษีให้สูงและหนี้สินภาครัฐในระดับที่ต่ำ โดยเชื่อว่าการเติบโตที่ชะลอตัวในจีนอาจนำความเสี่ยงต่อเนื่องมาถึงกัมพูชาเนื่องจากมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ซึ่ง Moody’s ได้คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไว้ที่ 7% ภายในปี 2562 และ 5.5% สำหรับปี 2563 จาก 7.5% ในปี 2561 ซึ่งอัตราการเติบโตอาจจะดูชะลตัวลงแต่กัมพูชาก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูง โดยการปรับอันดับเครดิตอาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างที่ชี้ไปที่ความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นและเป็นการลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจและรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648299/moodys-maintains-cambodias-b2-rating-says-outlook-stable/

การจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิทัลของกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวง เพื่อทำงานในการรวบรวมร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายรัฐบาลดิจิทัล โดยคณะกรรมการนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเป็นประทานในการประชุม ซึ่งคณะกรรมการได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หลักในการรวบรวมและร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและกรอบนโยบายดิจิทัลเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อตรวจสอบการอนุมัติ โดยคณะกรรมการจะจัดตั้งคณะทำงานแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือด้านนโยบายเศรษฐกิจนำโดยสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสูงสุดและอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ด้านนโยบายรัฐบาลนำโดยกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ซึ่งมองว่ากัมพูชากำลังจะเริ่มนำวิธีการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดมาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น รวมถึงมีนวัตกรรมมามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งขึ้น แรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางดิจิทัลมากขึ้นและเศรษฐกิจที่มั่นคงมากขึ้น โดยจะมีการเชื่อมต่อรวมถึงการสร้างเครือข่ายข้อมูลการบริหารระดับชาติที่เชื่อมต่อทุกสำนักงานของเมืองหลวงแต่ละแห่งใน 25 จังหวัดภายใต้กรอบรัฐบาลดิจิทัล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648297/digital-economy-committee-formed/

เวียดนามเกินดุลการค้ากับอิสราเอล เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเวียดนามยังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องราว 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศ (การค้าแบบทวิภาคี) มีมูลค่า 677 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากความตึงเครียดของสถานการณ์ทางการเมือง และความมั่งคงทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้ส่งออกเวียดนามเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว รวมไปถึงข้อกำหนดมาตรฐานอาหารปลอดภัยที่เข็มงวดในภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอิสราเอลมีความสนใจในการนำเข้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากเวียดนาม ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เครื่องแต่งตัว รองเท้า และผลแปรรูป

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7992302-vietnam-continues-to-enjoy-trade-surplus-with-israel.html

รีสอร์ทอสังหาฯ ดิ่งลง

อุปทานและความต้องการซื้อคอนโดเทล (Condotels) และรีสอร์ตวิลล่า ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 เนื่องมาจากอยู่ในช่วงเดือนสารทจีน (Ghost months) ทำให้เกิดการชะลอตัวของนักลงทุน โดยจากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ DKRA Vietnam เปิดเผยว่าในช่วงเวลาดังกล่าว มีโครงการวิลล่าริมทะเลราว 3 โครงการที่ได้เปิดตัวสู่ตลาด และมีนิววิลล่าจำนวนทั้งหมด 86 หลัง ลดลงร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งในข้อมูลดังกล่าวข้างต้น มีการซื้อที่พักเพียง 58 หลัง โดยจะกระจุกตัวอยู่ในทางตอนกลางของจังหวัดบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) และทางตอนใต้ของจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (Ba Ria – Vung Tau) ในขณะเดียวกัน จากรายงาน DKRA ระบุว่าการชะลอตัวชองภาคธุรกิจอสังหาฯ ในกลุ่มรีสอร์ท เป็นไปตามผลของฤดูกาล ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เนื่องมาจากอยู่ในช่วงวันสารทจีน ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าใหม่ๆ หรือทำธุรกิจกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงโชคร้ายที่ตามมา และจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้าย

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/resort-real-estate-plunges-3992364.html

Sumitomo Corporation เริ่มโครงการสถานีรถไฟย่างกุ้งปลายปี 62

Sumitomo Corporation บริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นกำลังเตรียมการเพื่อสร้างโครงการสถานีรถไฟย่างกุ้งในปลายปี 62 แทนที่บริษัท ชิโน เกรท วอลล์ ที่ล้มละลายในสงครามการค้าของสหรัฐฯ และจีน Oxley Holdings ชนะการประกวดราคาเพื่อปรับปรุงโครงการ กุมภาพันธ์ปี 61 เป็นองค์กรที่ บริษัท Min Dhama ของเมียนมาและ Sino Great Wall ของจีนที่ทำงานร่วมกัน เมื่อเสร็จโครงการจะมีรายรับ 4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เพียงพอสำหรับการซื้อหัวรถจักรที่จำเป็น Myanma Railway (MR) ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่บริษัทญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอเนื่องจาก Oxley Holdings Company ได้ส่งการออกแบบไปยัง MR ในปี 57 โครงการมีพื้นที่ประมาณ 63.5 เอเคอร์และจะรวมถึงโรงแรม สำนักงาน และคอนโด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/sumitomo-corporation-makes-preparations-for-beginning-yangon-railway-station-project-late-2019

การรถไฟเมียนมาให้บริการพิเศษย่างกุ้งไปพุกามในช่วงวันดะติงจุด

การรถไฟเมียนมา (MR) จะให้บริการรถไฟพิเศษสำหรับผู้แสวงบุญที่กำลังจะไปเที่ยวพุกามในช่วงวันหยุดของวันดะติงจุด บริการรถไฟพิเศษ ได้แก่ เนปิดอร์-ย่างกุ้ง และ ย่างกุ้ง-เนปิดอร์ และให้บริการรถไฟพิเศษย่างกุ้ง – พุกาม MR จะติดตั้งตู้โดยสารเพิ่มในรถไฟไปรษณีย์และรถไฟโดยสารเพื่อวิ่งบนเส้น Kyimyindine ไป Pyay และ Kyimyindine ไป Tharawall และจะให้บริการรถไฟพิเศษสำหรับข้าราชการที่จะเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง ลงรถไฟพิเศษ เนปิดอร์-ย่างกุ้ง โดยออกจาก เนปิดอร์ เวลา 7.30 น. ในวันที่ 10 ต.ค.62 ส่วนรถไฟพิเศษย่างกุ้ง ไป เนปิดอร์จะออกจากย่างกุ้งเวลา 20.00 น.

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/mr-to-provide-special-train-service-for-yangon-bagan-during-thadingyut-holidays

กรีนลีดเดอร์สร้างโรงงานมะม่วงอบแห้งแห่งที่สาม

กรีนลีดเดอร์โฮลดิ้งกรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงประกาศว่าจะเพิ่มการลงทุนในตลาดท้องถิ่น โดยการสร้างโรงงานแปรรูปมะม่วงแห่งใหม่ในจังหวัดทงบังคำของกัมพูชา ซึ่งแต่ละแห่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตรและสามารถผลิตมะม่วงอบแห้งได้มากถึง 2,000 ตันต่อปี โดยการผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังประเทศจีนและได้ทำการตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกมะม่วงอบแห้งถึงปีละ 10,000 ตันต่อปีไปยังประเทศจีน ซึ่งบริษัทซื้อมะม่วงสดเกรด 2 ที่เป็นวัตถุดิบจากเกษตรกรผ่านโครงการทำสัญญาและแปรรูปเพื่อส่งออกไปยังตลาดจีน โดยเชื่อว่าการลงทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปรรูปวัตถุดิบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อการส่งออก ซึ่งบริษัทกล่าวว่าโรงงานใหม่แห่งนี้จะสามารถผลิตและแปรรูปแป้งได้มากถึง 130,000 ตันต่อปี โดยใช้มันสำปะหลังจากเกษตรกรในท้องถิ่นถึง 500,000 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648298/green-leader-to-build-third-dried-mango-plant/

ราคาข้าวนำเข้าถูกกว่าข้าวที่ปลูกในสปป.ลาว

ราคาข้าวที่ปลูกในสปป.ลาวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่เคยมีการลดราคาเลย เหตุผลนี้เป็นเพราะพื้นที่เพาะปลูกข้าวจำนวนมากมักไม่สามารถสร้างผลผลิตที่คาดหวังได้เนื่องจากความแห้งแล้งหรือน้ำท่วมเป็นเวลานาน ดังนั้นบางส่วนของประเทศไม่สามารถปลูกข้าวได้อย่างเพียงพอและผู้ขายใช้โอกาสในการขาดแคลนเพื่อขึ้นราคาขาย ในบางปีพื้นที่ทั้งหมดของประเทศมีการเก็บเกี่ยวที่ดีและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แต่ถึงกระนั้นราคาก็ยังสูง สิ่งนี้ทำให้ผู้กำหนดนโยบายและกระทรวงคิดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าราคาข้าวที่นำเข้าจากเวียดนามและไทยนั้นถูกกว่าข้าวที่ปลูกในสปป.ลาว รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงที่เกี่ยวข้องควรทำการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการทำราคาข้าวที่ปลูกเองราคาถูกกว่าข้าวนำเข้า หากเราปลูกข้าวเพิ่มขึ้นแน่นอนว่าราคาน่าจะลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลลดราคาไฟฟ้าให้เกษตรกรและจัดให้มีการยกเว้นภาษีสำหรับปุ๋ยและสิ่งจำเป็นทางการเกษตรอื่น ๆ ที่นำเข้ามา  แต่รัฐบาลจะต้องมุ่งเน้นที่การลดราคาของข้าวเหนียวเพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจการใช้จ่ายของผู้คนและได้รับวัตถุดิบปริมาณที่เพียงพอในราคาที่เหมาะสม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/editorial-imported-rice-cheaper-rice-grown-laos-105519

ราคาเชื้อเพลิงในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ราคาน้ำมันในประเทศลดลง 40 จัตต่อลิตรในรอบเก้าวันผลจากราคาทั่วโลกลดลงไป 52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับ 76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 61 ราคาเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่มขึ้น 160 จัตเป็น 255 จัตต่อลิตรในเรอบหกเดือนจากเดือน ม.ค. – พ.ค. คิดเป็น 18 % ถึง 36 % จากนั้นลดลง 11 %เป็น 14% จากวันที่ 30 พ.ค.ถึง 21 มิ.ย.จากวันที่ 21 มิ.ย.ถึง 19 ก.ค.ราคาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 11% เป็น 14 % ราคาลดลง 3% ถึง 5% จากวันที่ 19 ก.ค.ถึง 10 ส.ค. ตั้งแต่วันที่ 15 ส.คราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ราคาน้ำมันของปั๊มน้ำมันท้องถิ่นอยู่ที่ดีเซล 920 จัต/หนึ่งลิตร (4,182 จัตต่อแกลลอน), 930 จัตสำหรับน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมหนึ่งลิตร (4,227 จัตต่อแกลลอน), 825 จัตต่อหนึ่งลิตรสำหรับ 92 รอนออกเทน (3,750 จัตต่อแกลลอน) และ 915 จัตต่อลิตรสำหรับ 95 รอนออกเทน (4,159 จัตต่อแกลลอน) ราคาลดลง 40 จัตต่อลิตรเมื่อเทียบกับราคาในวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/local-fuel-prices-see-continuous-fall-over-a-week