กระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชาเปิดตัวแอปพลิเคชั่นการท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นมือถือที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกัมพูชาได้อย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชั่นนี้ถูกเรียกว่า “Kingdom of Wonder” โดยได้มีการสัมมนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกัมพูชาด้วยระบบดิจิทอล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นประธานในพิธี โดยแอปจะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับกัมพูชาที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องรู้เพื่อเตรียมตัวการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงประวัติ ภาษา ภูมิอากาศ ศาสนา และประชากร นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำเหตุการณ์ในประเทศและเทศกาลที่พักร้านอาหารตัวเลือกการขนส่งแลกเปลี่ยนเงินตราสถานทูตและเที่ยวบิน สามารถใช้ได้สำหรับ Android และ iOS

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50625009/ministry-launches-tourism-app/

หอค้าไทยรอพบ รมว.พณ.ใหม่ หารือพลิกแผนฟื้นส่งออก ห่วงค่าแรง 400 กระทบเอสเอ็มอี

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าไทยและประธานกรรมการบริษัท ศรีไทยซูเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความชัดเจนแล้วแต่ภาคเอกชนยังรอการแถลงนโยบายของรัฐบาล และตรียมเข้าพบ รมว.กระทรวงพาณิชย์เพื่อเสนอแนวทางให้ผลักดันผ่านสมุดปกขาวที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยอยากให้หาตลาดส่งออกใหม่ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน หนุนการลงในต่างประเทศของผู้ประกอบการ ส่วนนโยบายค่าแรง 400 บาทต่อวัน อาจปรับได้ไม่เร็วนักเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวและธุรกิจต้องปรับตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ SME โดยตรงเพราะใช้แรงงานเยอะส่งผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ต้องปรับตัวมากขึ้นเพราะใช้เครื่องจักรและระบบอัตโนมัติมาทดแทนแรงงาน

ที่มา: https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1581567

โอกาสทางการค้าการลงทุนจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนาม-รัสเซีย

จากคำแถลงของพรรคสหรัสเซีย (The United Russia Party: ER) เกี่ยวกับการลงนามข้อลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนาม และรัสเซีย ได้มีการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเวียดนาม (VNA) ในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ นครวลาดิวอสต็อก (Vladivostok) โดยให้ประเด็นที่น่าสนใจว่าเวียดนามเป็นประเทศแรกที่ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) และรัสเซีย ซึ่งทางผู้นำของรัสเซียให้ความสนใจกับเขตสหพันธ์ตะวันออกไกล และพร้อมให้โอกาสกับต่างชาติในการลงทุนในเขตภูมิภาคนี้ รวมไปถึงความพร้อมของสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจกรรมการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งด้านกฎหมาย ภาษีและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เป็นต้น จากสถิติการลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการใหม่กว่า 1,600 โครงการ ด้วยมูลค่ารวม 8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสามารถสร้างงานประมาณ 37,000 ตำแหน่งอีกด้วย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/bright-prospects-for-vietnamrussia-cooperation-highlighted/156083.vnp

โครงการท่าเรือคาลาดันเชื่อมเมียนมา – อินเดีย เสร็จสมบูรณ์

จากข้อมูลของสถานทูตอินเดียเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ณ เมืองย่างกุ้ง การก่อสร้างท่าเรือน้ำของซิตตเวและปะและวะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการขนส่งหลายรูปแบบระหว่างเมียนมากับรัฐบาลอินเดียในโครงการ Kaladan Multi-Modal โดยใช้งบลงทุน 484 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะเชื่อมโยงกัลกัตตาไปยังซิตตเวในรัฐยะไข่แล้วเชื่อมโยงซิตตเวผ่านเส้นแม่น้ำไปยังปะและของรัฐชินถึง เมือง Zorinpui ในรัฐมิโซรัมทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียได้แล้วเสร็จลง ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียยังได้เชิญองค์กรหรือบริษัทที่สนในลงทุนด้านท่าเรือการซ่อมบำรุง ส่วนถนนของโครงการจากปะและวะ ถึงเมือง Zorinpui ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้าทวิภาคีระหว่างเมียนมาและอินเดีย โครงการนี้เริ่มในปี 2551 จากการลงนามในข้อตกลงของทั้งสองประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/kaladan-projects-port-and-river-terminal-completed.html

การปล่อยสินเชื่อของธนาคารชะลอตัวท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจใน สปป.ลาว

การอัดฉีดสินเชื่อของธนาคารเข้าสู่เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวแม้จะมีมาตรการของรัฐบาลในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนสำหรับภาคเอกชน จากรายงานของรัฐบาลการเติบโตของสินเชื่อชะลอตัวลงเหลือ 3.13% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้คิดเป็นเพียง 46.32 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี การเติบโตของสินเชื่อ ต่ำกว่าเป้าหมาย 55% ของจีดีพีที่ได้รับอนุมัติจากสมัชชาแห่งชาติและหลังจากจุดสูงสุดเมื่อหลายปีก่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแผนการและการลงทุนมีสาเหตุมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่ลดลงเป็น 3 ปัจจัย สิ่งแรกคือเงินทุนไม่เพียงพอโดยธนาคารพาณิชย์บางแห่งและแนวทางปฏิบัติในการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีประสิทธิภาพ ธนาคารบางแห่งมีหนี้สินมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประการที่ 2 ธนาคารของรัฐทั้งสองมีผลงานไม่ดีและไม่สามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์เอกชนได้และปัจจัยที่ 3 เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการปล่อยสินเชื่อนอกระบบ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/bank-lending-slows-amid-economic-downturn-laos-100123

กัมพูชาเตรียมใช้ร่างกฎหมายอีคอมเมิร์ซเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

คณะรัฐมนตรีกัมพูชาได้อนุมัติร่างกฎหมายสองฉบับซึ่งเป็นร่างยุทธศาสตร์ระดับชาติสำหรับการรวมกันทางการเงินและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการโดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 140 เมกะวัตต์ ซึ่งร่างกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคและอีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งในร่างกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติในระหว่างการประชุมโดยคณะรัฐมนตรีในวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้เป็นประธาน แถลงข่าวรายละเอียดผลการประชุมเต็มรูปแบบ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เพียง แต่ปกป้องผู้บริโภคจากผู้ค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ในการขายสินค้าและบริการในราคาที่ไม่เป็นธรรม แต่ยังกำหนดข้อมูลที่จำเป็นจะต้องให้แก่ผู้บริโภคและอนุญาตให้ผู้ควบคุมดูแลเตรียมกฎระเบียบที่เกี่ยวกับมาตรฐานข้อมูลที่ผู้ค้าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ได้จัดตั้งไว้ ที่มา:https://www.phnompenhpost.com/national/breaking-consumer-protection-e-commerce-draft-laws-adopted

พาณิชย์ จับมือกรมศุลฯ ร่วมมือพัฒนาระบบ-การให้บริการในอาเซียน

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับกรมศุลฯ ในการพัฒนาสมรรถนะ โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CLMV) ในหลักสูตร “National Single Window & Thai Customs Electronic System for CLMVT Contries” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจการดำเนินการนำ National Single Window มาใช้ในการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงเรียนรู้ขั้นตอน กฎระเบียบ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน โดยผู้แทนศุลกากรได้ร่วมศึกษาระบบงานการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนินสินค้าและการเชื่อมโยงข้อมูลหนังสือรับรองในรูปแบบ e-From D ซึ่งในกรณีที่ ผู้ประกอบการได้ส่งคำขอและเอกสารพร้อมกับข้อมูลที่ส่งผ่านระบบ Digital Signature จะใช้เวลาพิจารณาคำขอฯ ภายใน 15 นาที/ฉบับ โดยผู้ประกอบการสามารถขอหนังสือรับรองได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศทั้ง 3 จุด โดยไทยจัดเป็น 1 ใน 7 ประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียนที่ได้เชื่อมโยง e-Form D ไปแล้ว ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, บรูไน และกัมพูชา ในขณะที่เมียนมา, ลาว และฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเชื่อมโยงให้แล้วเสร็จในปี 2562

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3013841

เวียดนามส่งออกปลาสวายพุ่งไปยังมาเลเซีย

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกปลาสวายเวียดนาม (Pangasius) ไปยังตลาดอาเซียนสูงกว่า 87.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตลาดมาเลเซียเป็นหนึ่งในกลุ่มสมาชิกอาเซียนที่มีการนำเข้าของปลาสวายสูงที่สุดจากเวียดนาม และในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มาเลเซียมีมูลค่าการนำเข้าปลาสวายกว่า 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 47.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในส่วนของการนำเข้าปลาสวายของไทย พบว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกปลาสวายไปยังไทยกว่า 32.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับปี 2561

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7682902-vietnamese-tra-fish-exports-to-malaysia-rise-sharply.html

เมียนมาอนุญาต 5 บริษัทลงทุนในประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและบริหารบริษัท (DICA) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาอนุญาตให้องค์กรธรกิจ วิสาหกิจการลงทุนทั้งในและต่างประเทศจำนวนห้าแห่งเข้ามาลงทุนในประเทศ ประกอบด้วยในประเทศ 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต่างประเทศที่มีทุนจดทะเบียน 93.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถจ้างงานได้มากกว่า 530 ตำแหน่งในท้องถิ่นของภาคการผลิต การก่อสร้าง และการบริการอื่น ๆ จากตัวเลขของ DICA มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ 80.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 1,725 บริษัท นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 ถึงวันที่ 31 พ.ค.ของปีงบประมาณ 2561-2562 โดยน้ำมันและก๊าซสามารถดึงดูดการลงทุน 27.94% ของการลงทุนต่างประเทศทั้งหมดส่วนภาคพลังงาน 26.4% และภาคการผลิต 13.59% ด้านภูมิภาคอย่างย่างกุ้งดึงดูดเงินลงทุน 60% ตามด้วยมัณฑะเลย์ 30% และที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-07/11/c_138218102.htm