โรงไฟฟ้าใหม่ขนาด 145 เมกะวัตต์ เปิดแล้วที่เจาะแซ

โรงไฟฟ้ากำลังการผลิตพลังงาน 145 เมกะวัตต์เปิดแล้วในเมืองบีลีนและเมืองเจาะแซ ของเขตมัณฑะเลย์ โดยจะใช้ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตภายในประเทศ 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากแหล่งก๊าซนอกชายฝั่ง ประมาณ 90% ของกระแสไฟฟ้าที่จะถูกแจกจ่ายไปยังภูมิภาคมัณฑะเลย์ผ่านทางสถานีย่อยเขตอุตสาหกรรมมัณฑะเลย์และสถานีไฟฟ้าย่อยอองพินแล ซึ่งภูมิภาคนี้เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา ปัจจุบันมัณฑะเลย์ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งหมด 1,396 เมกะวัตต์ ประมาณ 60% สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้มากกว่า 780,000 ครัวเรือน และในปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 65% และจะได้รับกระแสไฟฟ้าเต็มจำนวนภายในปี 2568

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/new-145-mw-power-plant-opens-kyaukse.html

แบงก์ชาติเมียนมาเปิดให้ธนาคารต่างชาติเปิดสาขาอุ้มค้าปลีกในประเทศ

ธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) อนุญาตให้ธนาคารต่างประเทศเปิดสาขาในประเทศเพื่อช่วยให้ธุรกิจในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น โดยไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้ธนาคารต่างประเทศ 13 แห่ง ที่เปิดสาขาในเมียนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการขยายตัว ขยายกิจการและเพื่อปรับปรุงทางการการเงินหรือสภาพคล่อง และธนาคารต่างประเทศยังได้รับอนุญาตให้ลงทุนสูงถึง 35% ของเงินทุนทั้งหมดหากธนาคารพาณิชย์ในประเทศต้องการจัดตั้งกิจการร่วมค้าด้วย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/foreign-bank-subsidiaries-allowed-provide-retail-services.html

ธนาคารแห่ง สปป.ลาว เตือนห้ามใช้ cryptocurrencies

ธนาคารแห่งสปป. ลาวได้เตือนธนาคารพาณิชย์ธุรกิจและประชาชนไม่ให้ซื้อขายหรือใช้เงินดิจิตอลสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินเนื่องจากการกระทำนี้ผิดกฎหมาย ฝ่ายจัดการระบบธุรกรรมของธนาคารกลางได้ออกคำเตือนจากที่รู้ว่า cryptocurrencies เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin ได้รับการโฆษณาเพื่อใช้งานบนโซเชียลมีเดียแม้ว่าจะมีการห้ามใช้สกุลเงินเหล่านี้ก็ตาม ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ภายใต้การบริหารของธนาคารกลางที่จะปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด อีกทั้งไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องผู้ใช้หรือลูกค้าของธุรกรรม cryptocurrency ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันความปลอดภัย นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการการใช้สกุลเงินเหล่านี้เนื่องจากการทำธุรกรรมสามารถทำได้ในลักษณะที่ผู้ส่งและผู้รับของสกุลเงินไม่ปรากฏชื่อ วิธีนี้จะเพิ่มความเสี่ยงของการใช้ cryptocurrencies ในการฟอกเงิน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Don.php

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น เกือบครึ่งล้านในไตรมาส 1

มีการลงทะเบียนซิมการ์ดมากกว่า 330,700 รายการในช่วง3เดือนแรกของปี ขณะที่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มขึ้นเกือบ 490,000 คน จากรายงานล่าสุดของหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของกัมพูชา (TRC)จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์พื้นฐานลดลง 4,791 ราย ขณะที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐานเพิ่มขึ้น 27,688 ราย TRC กล่าว จำนวนการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือขณะนี้เทียบเท่ากับ 121.2% ของประชากรของประเทศ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือคิดเป็น 85.6% ของชาวกัมพูชาทั้งหมด Im ตามรายงานมีการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ 19.7 ล้านในประเทศในขณะที่ประชากรของประเทศคือ 16.2 ล้าน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50606028/internet-users-up-by-almost-half-a-million-in-q1/

วางแผนที่จะส่งออกลำไยไปยังไทย

กัมพูชาหวังที่จะเริ่มส่งออกลำไยมาไทยในอนาคตอันใกล้นี้ โดยทั้งสองประเทศวางแผนที่จะลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านสุขอนามัยพืชลำไย มีความพร้อมที่จะกลายเป็นสินค้าเกษตรที่สองส่งออกอย่างเป็นทางการไปไทยหลังจากมะม่วง จากข้อมูลของกรมวิชาการเกษตรพบว่ามีการปลูกลำไยทั่วประเทศครอบคลุมพื้นที่ 8,816 เฮกตาร์ ในปี 61 ให้ผลผลิตทั้งสิ้น 19,218 ตัน พระตะบอง, ไพลิน, และกำปอตเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดที่ให้ผลผลิตปีละ 7,776, 7,735 และ 1,496 ตันตามลำดับจากข้อมูลของกรมวิชาการเกษตรเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร 4.5 ล้านตันซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวยางพาราและมันสำปะหลังไปยัง 80 ประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50606065/plans-to-export-longan-to-thailand-well-under-way/

นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วช่วงวันหยุด

กระทรวงการท่องเที่ยวเผย จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดมสีหมุนี โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 3 แห่ง คือ เสียมเรียบ ชายฝั่ง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลจากการที่กำลังซื้อที่สูงขึ้นและการคมนาคมที่สะดวกขึ้นทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยเฉพาะเสียมเรียบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและวัฒนธรรมที่หลากหลาย จากข้อมูลมีนักท่องเที่ยวประมาณ 104,000 คน ในวันที่ 13-15 พฤษภาคมเพิ่มขึ้น 12.72% มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 4,400 คน .

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50604584/tourist-numbers-rise-sharply-during-holiday/

กัมพูชา – เนปาล ส่งเสริมการค้าการลงทุนพร้อมร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

กัมพูชาและเนปาลร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว จากการมาเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีเนปาล นายคัดห์กา ปราสาด ชาร์มา โอลิ และเพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ทั้งนี้นายโอลิยังกล่าวเน้นถึงบทบาทที่สำคัญของภาคเอกชนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสนับสนุนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหอการค้าของกัมพูชาและเนปาลในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจของทั้งสองประเทศอย่างเต็มที่

http://www.xinhuanet.com/english/2019-05/16/c_138062594.htm

สปป.ลาวและเกาหลีใต้เห็นพ้องกับการพัฒนาชนบทในอนาคต

เกาหลีใต้ตกลงในการสนับสนุน สปป.ลาวต่อในกิจกรรมการพัฒนาชุมชนในชนบทผ่านโครงการ Saemaul Undong ภายใต้การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KOICA) กับกระทรวงเกษตรและป่าไม้แห่ง สปป.ลาว MOU นี้จะร่วมกันริเริ่มโครงการพัฒนาชุมชนชนบทในสามจังหวัดภาคใต้ของ สปป.ลาว โดยสองฝ่ายจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับความคืบหน้าโดยรวมของโครงการ การเงิน รูปแบบและโครงสร้าง เพื่อพยายามปรับปรุงชีวิตของผู้คนในชุมชนหมู่บ้านชนบท พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ เหมาะสมและยั่งยืน ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา KOICA ได้ดำเนินโครงการมาแล้วที่เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์

ที่มา: http://annx.asianews.network/content/laos-south-korea-agree-future-rural-development-96733

พ.ค.62 การลงทุนจากต่างประเทศของเมียนมา มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์

รายงานของคณะกรรมการการลงทุนและบริหาร บริษัท (DICA มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศของช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีมากกกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของปีงบประมาณ 2561-2562 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 718 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคการขนส่งและการสื่อสารมียอดการลงทุนจากต่างประเทศสูงถึง 1.155 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันเมียนมากำลังพัฒนาโครงการยกเพื่อระดับการลงทุนเป็นเวลา 20 ปีเพื่อผลักดันให้มีสถานะประเทศรายได้ปานกลางให้ได้ในปี 2573 และสามารถสร้างรายได้จากแผนดังกล่าวนี้มากกว่า 220 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ คณะกรรมาธิการการลงทุนของเมียนมา (MIC) ได้กำหนดนโยบายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในปี 2556 โดยความร่วมมือกับสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/more-than-us25-b-worth-of-foreign-investments-had-entered-myanmar-till-may

ยอดส่งออกปลาสวายไปสหรัฐอเมริกา และจีนลดลง

การส่งออกปลาสวายของปากแม่น้ำโขงไปยังสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้ารายใหญ่ที่สุดลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยยอดนำเข้าจากจีนและฮ่องกงในเดือนมีนาคมมีมูลค่า 39.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลง 12.9% จากปีที่แล้ว ขณะที่สหรัฐลดลง 44% แม้จะยังเป็นตัวเลขที่สูงแต่ความไม่แน่นอนอย่างเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายและภาษีอาจเป็นอุปสรรค ผู้เชี่ยวชาญจึงชี้ว่าควรหาตลาดอื่นรองรับ เช่น ยุโรป ที่ช่วงหลังเริ่มนำเข้ามากขึ้น มูลค่าการส่งออกปลาประมาณ 72 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมสูงกว่าปีที่แล้ว 42% ส่วนอาเซียนในไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้น 18% ในขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเช่นกันทำให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำเข้า 10 อันดับแรกของปีนี้ ส่วนพื้นที่เพาะเลี้ยงปลามีเนื้อที่ถึง 1,300-1,400 เฮกตาร์โดยมีผลผลิต 380,000-400,000 ตัน โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งออกประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://vietnamnews.vn/economy/520068/shark-catfish-exports-to-us-china-fall.html#dCcJwwPExg6WOTfC.97