ดัชนีเอสเอ็มอี ไตรมาสแรกดิ่งทุกด้าน

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) แถลงดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs และดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SMEs ประจำไตร มาสที่ 1/2562 โดยสำรวจ 3 ดัชนี ได้แก่1.ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs 2.ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจ และ 3.ดัชนี ความยั่งยืนของธุรกิจ SMEs จาก 3 ดัชนีข้างต้น ภาพรวมพบว่าไตรมาสที่ 1/2562 อยู่ที่ระดับ 48.7 ปรับตัวลดลง 0.3 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและคาดว่าในไตรมาสที่ 2/2562 จะอยู่ที่ระดับ 48.5 ด้านความต้องการความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือพัฒนากิจการจากภาครัฐนั้น เช่น การลดอัตราภาษี ปรับปรุงโครงสร้างภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้านการตลาด เช่น ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออนไลน์ ด้านสินเชื่อ เช่น ลดข้อจำกัดในการอนุมัติสินเชื่อ และการเข้าถึงให้ง่ายขึ้น และด้านพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน เป็นต้น สำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้า ธพว. ยังมีค่าเฉลี่ยดัชนีสูงกว่าเกณฑ์ และสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้าธพว ดังดั้น ธพว. จึงสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เกิดความเข้มแข็งด้วยแนวทาง “3เติม” คือ 1.เติมทักษะ 2.เติมทุน และ 3.เติมคุณภาพชีวิต

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/835904

เวียดนามคาดว่าจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันดิบ

จากข้อมูลของหน่วยงานวิจัยฟิทซ์ โซลูชั่น แมคโคร รีเสริซ (Fitch Solution Macro Research) มองว่าเวียดนามมีการผลิตน้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะเฉลี่ยลดลงร้อยละ 4-5 ในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องมาจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศลดลง และการลงทุนในโครงการใหม่ที่ลดลงตามไปด้วย จากข้อมูลสถิติของสำนักงานสถิติทั่วไปเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าในปีที่แล้ว การผลิตน้ำมันดิบในประเทศมีอยู่ 247,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ในขณะเดียวกัน การส่งออกน้ำมันดิบของเวียดนามกลับลดลงร้อยละ 41 เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนการผลิตในประเทศมีแนวโน้มลดลง จากผลกระทบดังกล่าว ทำให้เวียดนามมีการนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 3 เท่า ในปี 61 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5.3 ล้านตัน และด้วยผลประโยชน์จากการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ทำให้กระชับความสัมพันธ์ทางด้านพลังงานและการค้ากับสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/520376/viet-nam-forecast-to-face-net-imports-of-crude-oil.html#tEsQxuTABfBKzH81.97

การค้าต่างประเทศเมียนมาสูงถึง 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของปีงบ 61-62

กระทรวงพาณิชย์ของเกาหลีใต้เผยการค้าระหว่างประเทศกับเมียนมามีมูลค่าสูงถึง 21 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 10 พฤษภาคม ของปีงบประมาณปัจจุบัน 61-62 โดยการส่งออกอยู่ที่ 10.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้าสูงถึง 11.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค 61-10 พค. 62 มีการค้าขายทางทะเลสูงถึง 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการค้าชายแดนมีมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อน ที่มีมูลค่ามากกว่า 20.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ปศุสัตว์ การประมง แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์ป่าไม้ ขณะที่การนำเข้าจะประกอบด้วยทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-05/23/c_138082766.htm

7 เดือนแรกของปีงบ 61-62 เมียนมาดึงดูดเงินลงทุนต่างประเทศ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

รายงานของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการบริหาร (DICA) เมียนมาสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศกว่า 2.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน 61-62 โดยมีโครงการที่ได้รับอนุญาตจำนวน 150 โครงการ จากมูลค่าการลงทุนพบว่าภาคการขนส่งและการสื่อสารมีการลงทุน 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือภาคการผลิตมูลค่ากว่า 668.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์เป็นนักลงทุนรายใหญ่สุด โดยมีทั้งหมด 20 โครงการ มูลค่ากว่า 1.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งตามการลงทุนรายภูมิภาคพบว่า ย่างกุ้ง 60% มัณฑะเลย์ 30% และอื่นๆ อีก 10% จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามูลค่าการค้ากับจีนมีมูลค่าถึง 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณปัจจุบัน

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-05/23/c_138082935.htm

ผู้ประกอบการคาสิโนประกาศ แผนการขยาย SEA

ผู้ประกอบการคาสิโน Macau Legend Development Ltd ประกาศแผนการขยายพอร์ตธุรกิจในกัมพูชา สปป.ลาวและเวียดนาม   ผู้อำนวยการบริหารของมาเก๊า กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุม G2E Asia ว่า บริษัท ของเขากำลังขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะสปป.ลาว กัมพูชาและเวียดนาม บริษัท ได้ซื้อ บริษัท Howing Enterprises Co Ltd ของกัมพูชาซึ่งมีมูลค่าประมาณ 90 ล้านดอลลาร์ และมีแผนที่จะพัฒนารีสอร์ทแบบครบวงจรในจังหวัดเสียมเรียบ รัฐบาลกัมพูชากำลังร่างกฎหมายเพื่อควบคุมธุรกิจคาสิโนและการพนันและหวังว่าจะเสร็จเร็ว ๆ นี้ จะช่วยเพิ่มรายได้จากภาษี เมื่อปีที่แล้วมีใบอนุญาตการพนัน 150 ใบให้กับคาสิโนในกัมพูชาเพิ่มขึ้นจากปี 60

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50607295/casino-operator-announces-sea-expansion-plans/

ผู้ผลิตเหล็กจีนพิจารณาย้ายที่ตั้งไปยังกัมพูชา

กลุ่ม Baowu ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของจีน กำลังพิจารณาที่จะย้ายเตาถลุงระเบิดไปยังกัมพูชาในปีนี้ บริษัท กำลังศึกษาแผนการย้ายเตาหลอมระเบิดจากซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของจีนไปยังกัมพูชา Reuters อธิบายว่าแผนดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมหนักของจีนที่เพิ่มกำลังการผลิตส่วนเกินในต่างประเทศ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วรัฐบาลกัมพูชาอนุมัติโครงการสร้างโรงงานเหล็กมูลค่า 31 ล้านดอลลาร์ในจังหวัดกัมปงเหาะ หนึ่งเดือนต่อมา Hoa Phat ผู้ผลิตเหล็กของเวียดนามประกาศแผนการสร้างโรงงานมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ใน Preah Sihanouk ที่จะสามารถผลิตเหล็กได้ 2 ล้านตันต่อปี จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ที่แข็งแกร่งของภาคการก่อสร้างที่เฟื่องฟูในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50607297/chinese-steelmaker-considers-relocating-to-cambodia/

ทีมจีนศึกษาแผนแม่บทสำหรับสีหนุวิลล์

ทีมจากเมืองเซินเจิ้นของจีนอยู่ในกัมพูชา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทำแผนแม่บทเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาสีหนุวิลล์รัฐบาลตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนจังหวัดพระสีหนุให้เป็น“ เมืองเซินเจิ้นที่สอง” กระทรวงกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าวว่าแผนแม่บทที่มีศักยภาพจะช่วยพัฒนาสีหนุวิลล์ให้กลายเป็นเมืองสีเขียวที่ทันสมัยรวมถึงปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจและศูนย์กลางอุตสาหกรรม Preah Sihanouk ตั้งอยู่ในชายฝั่งของประเทศมีท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของกัมพูชาและสนามบินนานาชาติและเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเมืองหลวง จังหวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) ซึ่งเป็นโครงการของนักลงทุนจากมณฑลเจียงซูของจีน ฮุนเซนกล่าวในปี 59 ว่าเขาถือว่า SSEZ เป็นความสำเร็จที่ใกล้เคียงกับเมืองเซินเจิ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50606751/chinese-team-to-study-master-plan-for-sihanoukville/

โอกาสสำคัญของเวียดนามในการส่งออกสินค้าไปมาเลเซียมากขึ้น

มาเลเซียถือเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงดำเนินงานในการพัฒนาสินค้าให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นและตอบสนองความต้องการของตลาดฮาลาลได้ ทั้งด้านสินค้าเกษตร อาหารทะเล และเครื่องดื่ม เป็นต้น โดยรายงานของศูนย์ส่งเสริมการลงทุนและการค้า (ITPC) ระบุว่า การค้าระหว่างเวียดนามและ มาเลเซียเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าตลาดฮาลาลในปี 2573 มีมูลค่ากว่า 30.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเวียดนามแนะนำให้ผู้ประกอบการศึกษาตลาดมาเลเซียให้รอบด้าน และพัฒนาทักษะทางด้านการตลาดระหว่างประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/numerous-export-opportunities-with-malaysia/153004.vnp