ธนวรรธน์ เชื่อชอปช่วยชาติช่วยกระตุ้น ศก.ดัน GDP โตเพิ่ม 0.2% ช่วยเพิ่ม GDPของไทย 0.1-0.2%

ผศ.ดร ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการช้อปช่วยชาติ และการแจกอั่งเปาคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% หรือไม่เกิน 1,000 บาท จะช่วยเพิ่ม GDPของไทยในสัดส่วน 0.1-0.2% และจะส่งผลต่อบรรยากาศการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้ จนถึงเดือนกันยายนปี62 ทั้งนี้ การเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้มีการจับจ่ายเดือนละ 1,800 ล้านบาท ต่อเนื่อง 10 เดือน ขณะที่มาตรการช้อปช่วยชาติ คาดว่าจะทำให้มีเงินหมุนเวียน 15,000-20,000 ล้านบาท  ส่วนมาตรการแจกอั่งเปา ต้องดูเงื่อนไขอีกทีว่าหากไม่มีข้อจำกัด ทุกคนช้อป 20,000 ได้คืนไม่เกิน 1,000 บาท เชื่อว่าจะกระตุ้นการจับจ่ายได้พอสมควร

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c03570de3f8e4e9060dc478

02/12/61

พาณิชย์เน้นสินค้า อาหาร-ไลฟ์สไตล์ รุกส่งออกทั่วโลก ปี 62

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ถึงทิศทางแนวโน้มการค้าในปี 2562 โดยเน้นมากขึ้นใน 2 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพและยังเป็นที่ต้องการของตลาด หากผู้ประกอบการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการให้ตรงกับมาตรฐานของตลาดจะช่วยให้สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น เน้นเจาะเข้าไปในช่องทางการค้าออนไลน์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะรุกหนักมากขึ้น สินค้าไลฟ์สไตล์ที่จะเน้นจะเป็นกลุ่มสิ่งทอ ของใช้ของตกแต่งบ้าน คาดว่าจีนจะสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ของไทย โดยเฉพาะสิ่งทอ ที่จีนสามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ได้ โดยในปี 2562 กรมจะมีงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2019 กว่า 12 ครั้ง ใน 9 ประเทศ เช่น ที่กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว เวียดนาม จีน ในช่วงเดือน มิ.ย. อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา และปากีสถาน

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/355635

03/12/61

ปี62 รุกสร้างโรงหนังเพิ่ม74โรง

ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทได้ขยายโรงภาพยนตร์ทั้งในไทยและกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวม 96 โรง ทำให้สิ้นปี 2561 จะมีทั้งสิ้น 160 สาขา 771 โรง โดยมีภาพยนตร์เข้าฉายรวม 312 เรื่อง และในปี 2562  มีแผนขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 74 โรง สอดรับกับภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายประมาณ 320 เรื่อง และตั้งเป้าขยายโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรง ภายในปี 2563 อีกทั้งในปี 2562 ยังมีแผนที่จะผลักดันภาพยนตร์ไทยของค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

03/12/61

จีน-สหรัฐฯ เห็นพ้องเลื่อนกำหนดเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้าน USD ออกไป 90 วัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.62 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป แถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.62 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%

ที่มา :  https://www.news1005.fm/view/5c035f25e3f8e4e9090e0563

02/12/61

ต้องการงานมากขึ้นเพื่อการส่งออกใบชาของเวียดนาม

จากรายงานระบุว่า ในปัจจุบันเวียดนามอยู่อันดับที่ 5 ของผู้ส่งออกใบชารายใหญ่ของโลก แม้ว่าผู้ประกอบการเวียดนามจะขายในราคา 1.60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาใบชาของเวียดนามถูกกว่าของประเทศศรีลังกาเกือบ 3 เท่าตัว ด้านผู้นำเข้ารายใหญ่ คือ รัสเซีย มีความต้องการใบชามากกว่า 160,000 ตันต่อปี ทางผู้ประกอบการเวียดนามมองว่านี้คือโอกาสในการเจาะตลาดรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีพื้นที่เหมาะสมในการปลูกชาและมีขนาดพื้นที่ใหญ่ประมาณ 125,000 เฮกตาร์ ส่งผลให้การบริโภคของเวียดนามมีมูลค่า 45,000 ตันต่อปีและมีมูลค่าการส่งออก 145,000 ตัน และมีรายได้ 245 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/480764/more-work-needed-on-vn-tea-exports.html#J6Axp1tyK22atcmh.97

03/12/61

เครื่องบินเวียดเจ็ทล้อขัดข้องผู้โดยสารเจ็บเล็กน้อย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอยประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่าสำนักงานการบินพลเรือนของเวียดนามแถลงว่า เครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ321 ของสายการบินเวียดเจ็ทเที่ยวบินในประเทศจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้มุ่งหน้าสู่สนามบินบวนมาถ๊วตจังหวัดดั๊กลักทางตอนใต้ของเวียดนาม พร้อมผู้โดยสารบนเครื่อง 207 คน ต้องประสบปัญหาสองล้อหน้าขณะลงจอดที่สนามบินบวนมาถ๊วตเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ลงจอดได้อย่างปลอดภัย ภาพถ่ายที่นำออกเผยแพร่แสดงให้เห็นว่า มีการใช้ทางลงฉุกเฉินและยางล้อหน้าแตกเสียหาย เวียดเจ็ทยังแถลงว่า ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย เวียดเจ็ทเป็นหนึ่งในสายการบินชั้นนำที่มีด้านการบินเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียดนาม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเพิ่งจะลงนามในข้อตกลงมูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321 จำนวน 50 ลำและยังได้ทำสัญญากับบริษัทโบอิ้งด้วย

ที่มา :  https://www.dailynews.co.th/foreign/680111

03/12/61

เมียนมาพยายามดึงดูดนักลงทุนในการประชุมสุดยอด Invest Myanmar Summit 2019

Invest Myanmar Summit 2019 เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายธุรกิจของคุณโดยการประชุมผู้มีอิทธิพลและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ในฐานะที่เป็นตลาดเกิดใหม่พม่าเสนอโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและยั่งยืนสำหรับนักลงทุนที่จะค้นพบ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม พ.ศ. 2562 เหตุการณ์สองวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มีโอกาสค้นพบศักยภาพในการลงทุนของพม่า เป็นเวทีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในภูมิภาคจะแสดงศักยภาพทางธุรกิจในประเทศของตนด้วย

ที่มา : http://mizzima.com/article/myanmar-seeks-attract-investors-upcoming-invest-myanmar-summit-2019

01/12/61

เจาะ 3 การลงทุนที่เมียนมาต้องการ

ปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธว่าเมียนมาเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่น่าเข้าไปลงทุนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนับตั้งแต่เมียนมาเปิดประเทศเมื่อปี 2555 รัฐบาล เมียนมาได้พัฒนากฎหมายเพื่อจัดระเบียบและส่งเสริมการลงทุนใน เมียนมาถึง 3 ฉบับ (1) กฎหมายการลงทุนของเมียนมา (MIL) รับผิดชอบโดยคณะกรรมการควบคุมการลงทุน (MIC) (2) กฎหมายบริษัทเมียนมา (MCL) รับผิดชอบโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการบริหารจัดการของเมียนมา (DICA) และ (3) กฎหมายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ Law) รับผิดชอบโดยคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา (TBAM) จัดกิจกรรมพานักลงทุนไทยเข้าพบหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงเศรษฐกิจเมียนมา เพื่อรับฟังนโยบายและกฎระเบียบด้านโอกาสการค้าการลงทุน รวมถึงได้ทราบโอกาสการลงทุนที่เมียนมากำลังต้องการให้เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2.การค้าปลีกและการขายส่ง  3.การลงทุนในสาขาไฟฟ้าและพลังงาน

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

03/12/61

หวั่นพญามังกรเบี้ยวดีล โครงการรถไฟ จีน – สปป.ลาว

จีน ในฐานะผู้ลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนกำลังสร้างความกังขาหลายเรื่องกับ สปป.ลาวในโครงการรถไฟจีน-ลาว ส่วนหนึ่งของ เส้นทางรถไฟคุนหมิง-สิงคโปร์ ภายใต้โครงการOne Belt One Road สมาชิกสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ระบุว่า การจ้างแรงงานชาวจีนมากกว่าชาวลาวในโครงการรถไฟจีน-ลาว มูลค่าลงทุนกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ จากที่เคยประเมินว่าต้องใช้แรงงานมากถึง 30,000 คน ส่วนใหญ่กลับนำเข้าแรงงานจีนมากถึง 19,000 คน ขณะที่ชาวลาวมีเพียง 2,135 คนเท่านั้น โดยอ้างว่าที่ไม่จ้างงานเพราะไม่มีศักยภาพตามมาตรฐานของจีน ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากองค์กรแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดิน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการจะล่าช้า ทั้งยังมองว่า สปป.ลาวเสียเปรียบ โดยมีกรรมสิทธิ์เป็นผู้ลงทุนเพียง 30% มูลค่า 840 ล้านดอลาร์ ส่วนจีนเป็นผู้ลงทุนใหญ่ 70% นอกจากนี้ยังต้องกู้เงินจากจีนอีก 500 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 20 ปี ดอกเบี้ย 3% ซึ่งคาดกันว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามกำหนด ซึ่งมีโอกาสที่เหมืองแร่หลายแห่งจะตกไปเป็นของจีนในอนาคต

ที่มา : https://www.prachachat.net/aseanaec/news-259028

03/12/61

CRF แสดงความกังวลเกี่ยวกับ ภาษีข้าวของสหภาพยุโรปในกัมพูชา

ประธานสหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา (CRF) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราภาษีของสหภาพยุโรปที่มีต่อการนำเข้าข้าวของกัมพูชาโดยระบุว่าเป็นปัจจัยภายในประเทศในสหภาพยุโรปที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรชาวยุโรปมากที่สุด ผู้อำนวยการ CRF กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ต้นทุนการกลั่นสูงในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นอุปสรรคสำคัญในการปรับปรุงอุตสาหกรรมข้าวในยุโรปไม่ใช่การนำเข้าข้าวกัมพูชาแต่เป็นการเผชิญกับภาษีที่เพิ่มขึ้นภายใน 3 ปี ภาษีศุลกากรจะอยู่ที่ 175 ยูโร ต่อตันในปีแรก 150 ยูโรในปีที่สองและ 125 ยูโรต่อปี หากมีการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมข้าวของกัมพูชาและเกษตรกรจะพึ่งพาตลาดจากประเทศไทยและเวียดนามมากขึ้น

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/crf-voices-concern-over-eu-rice-tax-cambodia

03/12/61