เวียดนาม ปรับแรงงาน รับอุตสาหกรรม 4.0

รองผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ความต้องการแรงงานและข้อมูลตลาดแรงงานในนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ปัจจุบันเวียดนามได้หันมาใช้  โรงงานอัจฉริยะ  ที่ใช้ทั้งหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ระบบประมวลผลคลาวด์ และการวิเคราะห์ข้อมูล ในการเชื่อมโยงกระบวนการผลิตและโลจิสติกส์ และทำให้การผลิตล้ำสมัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน อุตสาหกรรมไอทีซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นภาคอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ในช่วง ปี 62-68 จะต้องการแรงงานที่มีทักษะจำนวนมากกว่าในขณะนี้อีกมาก ปัจจุบัน เวียดนามกำลังสร้างหลายอาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความปลอดภัยด้านข้อมูล การพัฒนา แอพพลิเคชั่นมือถือ และการออกแบบเกม 3 มิติ และคาดว่าจะมีการสร้างงานอย่างน้อย 2.1 ล้านตำแหน่งในประเทศ ส่วนใหญ่เป็น สาขาคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ และวิศวกรรม

ที่มา :  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

13/12/61

กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มอีคอมเมิร์ชสปป.ลาว

รัฐบาลได้กล่าวกับสภาแห่งชาติว่าสปป.ลาวจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเพิ่มการค้าอีคอมเมิร์ซและอำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลกิจการอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการนำเสนอร่างกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่อวาระการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 6 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าวว่าประเทศในภูมิภาคและทั่วโลกกำลังทันสมัยและเปลี่ยนไปใช้ระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตอล สปป.ลาวเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดังนั้นกฎหมายซึ่งถือเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันทั่วโลก

ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Electronic.php

13/12/61

อุตสาหกรรมสิ่งทอของสปป.ลาวยังคงเผชิญกับความท้าทาย

สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของสปป.ลาวกล่าวว่าผู้ผลิตเสื้อผ้าในประเทศกำลังเผชิญอุปสรรคอย่างต่อเนื่องเพื่อการอยู่รอดและเจริญเติบโต ลูกค้าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและผู้ผลิตมีอำนาจน้อยในการต่อรองราคาเนื่องจากค่าใช้จ่ายของพวกเขาเพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาที่ได้รับยังคงอยู่อย่างต่อเนื่องประธานาธิบดีของสมาคม กล่าวในการประชุมครั้งที่ 8 ของสมาคมในเวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเป็นปัญหาเรื้อรังในภาคอุตสาหกรรมส่งผลให้การส่งออกเสื้อผ้าลดลง

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/lao-garment-industry-continues-face-challenges

13/12/61

ราคาข้าวแข่งเดือดฉุดส่งออกกัมพูชา

รองประธานสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา เผยกับสำนักข่าวพนมเปญโพสต์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า การส่งออกข้าวของกัมพูชาลดลงเกือบทุกเดือนในปีนี้ ผลจากการขาดแคลนคลังเก็บข้าวในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และการแข่งขันราคากับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานของสำนักงานบริการด้านการส่งออกข้าวกัมพูชา ระบุว่า การส่งออกข้าวของกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศ ลดลงมาอยู่ที่ 497,240 ตันในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2561จาก 562,237 ตันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือลดลงไปกว่า 13%

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

13/12/61

นักท่องเที่ยวจีน 1.62 ล้านคนเยือนกัมพูชาในช่วง 10 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 71.5%

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานว่ากัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีน 1,62 ล้านคนในช่วง 10 เดือนแรกของปีพ. ศ. 2561 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 71.5 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จีนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชาซึ่งคิดเป็น 33.7% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดเข้ามาในราชอาณาจักรในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม ในปีนี้รายงานกล่าวว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศทั้งหมด 4.82 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2018-12/12/c_137669092.htm

13/12/61

เครื่องสำอางมอลลีน อโวคาโด บุกตลาดออร์แกนิก อาเซียน

มอลลีน (Mollyn) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากน้ำมันสกัดอโวคาโด ไอเดียเอสเอ็มอีไทยน้องใหม่ เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สามารถส่งออกตลาดเพื่อนบ้าน และได้รับการตอบรับที่ดีในประเทศ เตรียมขยายพื้นที่วางจำหน่ายยังโมเดิร์นเทรดและเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่วางจำหน่ายขณะนี้ ประกอบด้วย สบู่ล้างหน้า ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แผ่นมาสก์หน้ากลางคืน ฯลฯ ที่ขายดีที่สุดได้แก่ สบู่อโวคาโด มีจุดเด่นที่ไม่ใช้สารทำฟอง แต่จะมีถุงทำฟองบรรจุในผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด ช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก เป็นช่องทางออนไลน์ และมีแผนจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาชลบุรี สวนนงนุชพัทยา และ MCOT Mart ที่ตลาดต่อยอด นอกจากนี้ยังมีตัวแทนเสียมราฐ กัมพูชา ได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้มีผู้สนใจติดต่อขอจำหน่ายใน สปป.ลาว และสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://www.posttoday.com/aec/news/573542

13/12/61

ปีใหม่62 คาดคนกรุงฯ ใช้จ่ายกว่า 30,800 ล้านบาท เน้นมอบของขวัญเฉพาะคนสำคัญและคัดสรรสินค้ามากขึ้น

พบว่าร้อยละ 59 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ เลือกที่จะเฉลิมฉลองอยู่ในกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ร้อยละ 60 โดยให้เหตุผลว่า การจราจรติดขัด คนหนาแน่น ไม่สะดวกในการเดินทาง และยังต้องระมัดระวังการใช้จ่าย แม้จะเลือกอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ภาพรวม ส่วนใหญ่มีการวางแผนการเงินไว้ใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะการซื้อของขวัญและเลี้ยงสังสรรค์ถือเป็นกิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ เลือกทำมากที่สุด โดยการมอบของขวัญ ร้อยละ 55 เน้นให้กับบุคคลในครอบครัว หรือการจับสลากในงานเลี้ยงขององค์กร โดยเม็ดเงินรวมของคนกรุงเทพอยู่อยู่ที่ ประมาณ 30,000 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,600 บาท

ที่มา : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/z2944.aspx

12/12/61

เอกชนลงทุนอีอีซีไอแสนล้าน

รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการเขตนวัตกรรมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาอีอีซีไอ โดยจะเน้นการเกษตรแปรรูปเพื่อเชื่อมโยงกับการวิจัยพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า ภายในระยะเวลา 20 ปี ทั้งนี้เงินลงทุนภาครัฐ 3.31 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเกิดการลงทุนภาคเอกชน 1.1 แสนล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวม 2.71 แสนล้านบาท

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/573652

12/12/61

วว.ปั้นตรามาตรฐานใหม่ หนุนสินค้าไทยโกอินเตอร์

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ เปิดตัวเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ใน 6 กลุ่มสินค้าเป้าหมายนำร่อง การันตีคุณสมบัติเทียบเท่าระดับสากล โดยการสรรงบประมาณ 36 ล้านบาท ระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี61-64 เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการซึ่งตั้งเป้าไว้ 300 ราย สามารถเข้าถึงการรับรองมาตรฐานใหม่นี้ และเพื่อหนุนผู้ประกอบการใช้อ้างอิงทำตลาดต่างประเทศ ยกระดับทัดเทียม “ยูแอล” และ “ไอฟอม” ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เกษตรตามหลัก GAP, เกษตรอินทรีย์, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, พลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ, ระบบขนส่งทางรางและการบริการท่องเที่ยว และในอนาคตจะพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/820975

12/12/61