เวียดนามส่งออกข้าวมากกว่า 5 ล้านตัน ใน 10 เดือนแรกของปีนี้

กรมแปรรูปและพัฒนาตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรสังกัดกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่าปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนามในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 2 แสน 6 หมื่น 4 พันตัน มูลค่า 136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมาบรรลุ 5.2 ล้านตัน มูลค่า 2.6พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 ด้านปริมาณและร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017 จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับแรกของเวียดนาม โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 24 ส่วนมูลค่าการส่งออกข้าวในตลาดต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย อิรัก ฟิลิปปินส์และมาเลเซียก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ที่มา: : http://www.xinhuanet.com/english/2018-11/05/c_137583281.htm

มูลค่าการส่งออกของเวียดนามใน 10 เดือนที่ผ่านมาสูงเกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เผยว่า ในเดือนตุลาคมนี้มูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามได้กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017 และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่าการส่งออกรวมใน 10 เดือนที่ผ่านมามากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017 สินค้าหลักในการส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่น โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรองเท้า เป็นต้น ส่วนสินค้าเกษตรและสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่มูลค่าการส่งออกได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะราคาต่ำ

ที่มา: http://www.xinhuanet.com/english/2018-11/05/c_137583281.htm

เมียนมาดึงดูดการค้า-การลงทุนต่างชาติ

นับตั้งแต่รัฐบาลพลเรือนขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2559 ด้านเศรษฐกิจมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ นโยบายส่งเสริมให้เอื้อต่อการลงทุน อาทิ นโยบายเศรษฐกิจ 12 ประการ ที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและทั่วถึง และกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ (1) กฎหมายการลงทุนเมียนมา (Myanmar Investment Law) ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแตกต่างกันไประดับการพัฒนาของพื้นที่ และ (2) กฎหมายบริษัทเมียนมา (Myanmar Companies Law) อนุญาตให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ร้อยละ 35 และอำนวยความสะดวกการจัดตั้งบริษัทผ่านระบบออนไลน์ ปัจจุบันการลงทุนของต่างชาติมีมูลค่าถึง 7.685 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เช่น ในสาขาเชื้อเพลิง พลังงาน การผลิต การขนส่ง ฯลฯ โดยชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด ได้แก่ จีน สิงคโปร์ และไทยตามลำดับ

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

เวียดนามลงทุนไฮสปีด

ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้งแบบยกระดับและใต้ดินภายใน 2 ใหญ่อย่างฮานอยและโฮจิมินห์ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร สำหรับแผนลงทุนในระยะแรกช่วงปี 2561-2573 ของทั้งสองเมืองอยู่ที่ 5.38 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีแผนศึกษาความเหมาะสมเพื่อลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง 350 กม./ชม.ซึ่งจะเป็นเส้นทางจากเหนือไปใต้ช่วงฮานอย-โฮจิมินห์ ระยะทางรวม 1,570 กม. ขนาดราง 1.45 เมตร วงเงินลงทุน 1.75 ล้านล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นการจัดผังเมืองใหม่ โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมที่จะเชื่อมจากปักกิ่ง-หนานหนิงของจีน

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/column/569664

ลาวนำเข้าเชื้อเพลิงเป็นครั้งแรกจากจีน

บริษัท สปป.ลาวได้นำเข้าน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 จากประเทศจีนเป็นครั้งแรกถือเป็นโอกาสสำคัญของ สปป.ลาวในการค้าระหว่างสองประเทศ บริษัท ปิโตรไชน่า ได้ส่งมอบน้ำมันดีเซลกว่า 64 ตัน ให้แก่ บริษัท การค้าน้ำมันปิโตรเลียมแห่งชาติของ สปป.ลาว (NTP) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างพิธีจัดขึ้นที่คลังของผู้นำเข้าที่เมือง Boten จังหวัดหลวงน้ำทาบนชายแดน สปป.ลาว – จีน NTP ได้รับมอบหมายให้จัดส่งน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 เพื่อวัตถุประสงค์โครงการ Belt and Road Initiatives (BRI) ซึ่งเป็นสัญญาณของความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลของ สปป.ลาวกับจีน

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_receives_259.php

หัตถกรรม สปป.ลาว จากครัวเรือนสู่ตลาดต่างประเทศ

สมาคมผู้ประกอบการหัตถกรรมสปป.ลาว ชี้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือได้รับการพัฒนาและค่อยๆ เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดเด่นคือภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้คือการทอผ้า ผู้หญิงสปป.ลาวทุกคนรู้วิธีการทอ คุ้นเคยกับกระบวนการผลิตสิ่งทอทั้งผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายหรือเพื่อใช้เอง สมาคมได้ริเริ่มกิจกรรมเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพงานหัตถกรรมท้องถิ่น ผู้ผลิตได้เรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการของตลาด เช่น ขนาด มาตรฐานของเส้นใยธรรมชาติ ช่างฝีมือยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น การส่งออกสินค้าหัตถกรรมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ตลาดสำคัญคือ จากญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคใกล้เคียง

ที่มา: https://borneobulletin.com.bn/lao-handicrafts-from-household-basics-to-international-markets/

‘ธนาคารโลก’ จัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจปี 61 ไทยอยู่อันดับ 27 จาก 190 ประเทศ ทั่วโลก

จากรายงานของธนาคารโลก พบว่า การจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ในปี 2561 ไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 30 อันดับแรกของโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 27 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ปัจจัยที่สำคัญ คือ 1.ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนลดลง 2.ด้านการขอใช้ไฟฟ้า ลดขั้นตอนการดำเนินการขอและโปร่งใส 3.ด้านการชำระภาษีปรับปรุงระบบการคำนวณ และยื่นแบบภาษีรายได้นิติบุคคลทางระบบออนไลน์ และ 4.ด้านการค้าระหว่างประเทศ มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-แมทช์ชิ่ง ซิสเต็ม) มาใช้ในการควบคุมตู้สินค้า

สิงคโปร์ – กัมพูชา จับมือร่วมทุนโปรเจค Mixed-use ใน Tuol Kork

บริษัท HLH Development Pte ในเครือของ Hong Lai Huat Group Limited บริษัทอสังหาฯรายใหญ่จากสิงคโปร์ ได้ลงนามกับกลุ่มบริษัท รอยัลกรุ๊ปของกัมพูชา เพื่อลงทุนอสังหาริมทรัพย์ แบบโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ในเขต Tuol Kork ที่ถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของพนมเปญ มีพื้นที่ทั้งหมด 80,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยห้างค้าปลีก สวนสาธารณะ เป้าหมายเป็นประชากรในพื้นที่และการกำหนดราคาที่เหมาะสมบวกกับการตกแต่งที่ได้มาตรฐาน โดยทาง HLH Group ให้เหตุผลการร่วมทุนว่า รอยัลกรุ๊ป มีประสบการณ์ในกัมพูชาซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าใจตามความต้องการของคนกัมพูชาได้

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50546611/singapore-cambodia-jv-to-raise-mixed-use-project-in-tuol-kork

เวียดนามส่งออกผักผลไม้มากกว่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เวียดนามมีรายได้มากกว่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการส่งออกผักและผลไม้ในช่วงเดือน ม.ค. ถึงเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดสำคัญยังคงเป็นจีน 9 เดือนแรกตัวเลขส่งออกมีมูลค่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีการส่งออกไปยังไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (35%) ออสเตรเลีย (31.6%) สหรัฐฯ (30%) และเกาหลีใต้ (24.4%) ในเดือน ต.ค. เวียดนามได้รับซื้อผักและผลไม้จากต่างประเทศจำนวน 134 ล้านเหรียญฯ ซึ่งทำให้มูลค่าการนำเข้ารวมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในช่วง 10 เดือนแรกอยู่ที่ 1.43 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน AgroTrade กล่าวว่าโรงงานแปรรูปผักผลไม้จำนวนมากจะเริ่มเร่งดำเนินการในช่วงเดือนสุดท้ายของ ปี พ. ศ. 2561 เวียดนามตั้งเป้าหมายมูลค่าส่งออกไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ฯ

ที่มา: https://en.vietnamplus.vn/fruit-vegetable-exports-valued-at-33-billion-usd/141273.vnp