สปป.ลาว – ไทย ผลักดันการเชื่อมเส้นทางขนส่งทางบกให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้า

รัฐบาล สปป.ลาว และไทย วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการค้าร่วมกัน โดยการสร้างถนนและสะพานเชื่อมเพิ่มเติม รวมถึงสะพานรถไฟพิเศษ ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศนัดหารือในสัปดาห์นี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองประเทศในการกระชับมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน โดยจะยังคงให้ความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงในเขตและจังหวัดตามแนวชายแดนลาว-ไทย ตลอดจนความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข เกษตรกรรมและป่าไม้ แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งผนึกกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_79_LaoThailand_y24.php

สปป.ลาว ขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 2 แม้ส่งออกมันสำปะหลังเติบโต

สปป.ลาว เผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 พบว่า ภาพรวมการค้ามีมูลค่า 1,101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าส่งออกประมาณ 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมันสำปะหลังมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกมากที่สุด รองลงมาคือ ทองคำ แร่ทองแดง กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และแป้งมันสำปะหลัง โดยตลาดจีนยังคงเป็นส่งออกหลักของ สปป.ลาว รองลงมาคือ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และอินเดีย ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าประมาณ 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก คือ ดีเซล รองลงมาคือ ยานพาหนะทางบก อุปกรณ์เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไทยยังคงเป็นแหล่งนำเข้าหลัก รองลงมาคือ จีน เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทั้งนี้ สปป.ลาว ยังคงขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยขาดดุลจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/26/laos-faces-second-month-of-trade-deficit-despite-cassava-export-boom/

‘เวียดนาม’ ขยายเวลาลดภาษี VAT เหลือ 8% จนถึงสิ้นปี 67

เว็บไซต์ข่าว ‘Tuoi Tre’ เปิดเผยว่ารัฐบาลเวียดนามเสนอขยายเวลาภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 8% จนถึงสิ้นปี 2567 และเน้นย้ำว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการดังกล่าวจากภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทางด้านภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้ จากการประเมิน พบว่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 8% จะส่งผลทำให้รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มของภาครัฐ ลดลงเหลือ 23,488 พันล้านด่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจากการขยายระยะเวลาจนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าจะทำให้รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด ลดลงเหลือ 47,488 พันล้านด่องในปี 2567 นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายทางการเงิน การช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตไปข้างหน้า

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/govt-proposes-extending-8-vat-until-end-2024/

‘เวียดนาม’ หวังเป็นแหล่งตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หนังสือพิมพ์ Nikkei Asian ของญี่ปุ่น รายงานว่า TikTok Vietnam ชี้ว่าจำนวนผู้ค้าและยอดขายเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีที่แล้ว ในขณะที่บริษัทวิเคราะห์ Metric เปืดเผยว่าแพลตฟอร์ม ByteDance ของจีน อยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาดซื้อขายของออนไลน์ในเวียดนาม รองจากช้อปปี้ (Shopee) โดยมีผู้ค้าทำรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักงานอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล รายงานว่ารายได้การขายผลิตภัณฑ์จากธุรกิจค้าปลีกไปสู่ผู้บริโภค (B2C) ในรูปแบบออนไลน์ เพิ่มขึ้นมาจาก 10.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ขึ้นมาอยู่ที่ 20.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ e-Conomy SEA รายงานว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซสูงที่สุด และคาดว่าจะทำรายได้และปริมาณการขายแบบ B2C สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ 5 แพลตฟอร์ม จะทำรายได้ราว 310 ล้านล้านด่องในปี 2567 ขยายตัว 35% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-expected-to-become-ecommerce-powerhouse-in-southeast-asia/285155.vnp

ก๊าซธรรมชาติจำนวน 9.5 ล้านลูกบาศก์ฟุต ถูกจ่ายให้กับโรงงานปุ๋ยยูเรียทุกวัน

กระทรวงพลังงานระบุว่า มีการจ่ายก๊าซธรรมชาติประมาณ 9.5 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อให้โรงงานปุ๋ยยูเรียดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงกำลังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตปุ๋ยยูเรียเพื่อให้แน่ใจว่าโรงงานปุ๋ยจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สำหรับการพัฒนาภาคเกษตรกรรม ทั้งนี้ โรงงานปุ๋ยแห่งที่ 4 ในเมืองเมียงดากา และโรงงานปุ๋ยแห่งที่ 5 ในเมืองกังยีดานท์ ใกล้จะสิ้นสุดระยะเวลาการรับประกันแล้ว ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับงานบำรุงรักษาและซ่อมแซม เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานและการผลิตมีความต่อเนื่อง ในทำนองเดียวกัน กระทรวงกำลังจัดการบำรุงรักษาโรงงานปุ๋ยและโรงกลั่นน้ำมันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และกำลังพยายามเพิ่มการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติด้วยการทดสอบบล็อกใหม่ อย่างไรก็ดี กระทรวงผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 1.4 ล้านบาร์เรลและผลิตก๊าซธรรมชาติ 888 ล้านลูกบาศก์ฟุตจากแหล่งน้ำมันภายในประเทศ 10 แห่งจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ในปีงบประมาณ 2566-2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/9-5m-cubic-feet-of-natural-gas-distributed-daily-to-urea-fertilizer-factories/#article-title

กงสุลใหญ่เมียนมาส่งเสริมการลงทุนในงานการค้าคุนหมิง

ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ กงสุลใหญ่เมียนมา อูตอดา ออง ในเมืองคุนหมิง เข้าร่วมงานส่งเสริมการลงทุนที่ศูนย์การค้าเมียนมา (คุนหมิง) เขตการค้าเสรีนำร่องของจีน (ยูนนาน) เมื่อวันที่ 26 เมษายน เขากล่าวว่าศูนย์แห่งนี้เปิดดำเนินการภายใต้การบริหารของสถานกงสุลใหญ่เมียนมาเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และความร่วมมือระหว่างเมียนมาและจีน กงสุลใหญ่ให้คำมั่นว่าสำนักงานของเขาจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองประเทศในหลายภาคส่วน รวมถึงการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ภายในงาน ผู้แทนกรมส่งเสริมการลงทุน ฝ่ายบริหารคุนหมิง นำเสนอพัฒนาการด้านการส่งเสริมการลงทุน นอกจากนี้ ตัวแทนเขต Mohan-Boten Corporation ยังได้หารือเกี่ยวกับสถานะความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและลาวตามแนวชายแดน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-consul-general-promotes-investment-at-kunming-trade-event/

14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณี การประกาศค่าแรงขั้นต่ำเพื่อเป็นของขวัญวันแรงงาน 1 พฤษภาคมนี้ว่า ในส่วนของการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ ไม่ได้มีการขึ้นทันที

ทั้งนี้ การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้ เนื่องจากเป็นนักการเมือง และหากมีนักการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วม จะถูกมองว่าการเมืองแทรกแซง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทำได้เป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น

อีกทั้ง การประกาศขึ้นค่าแรงจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับไตรภาคีในทุกเดือน โดยในแต่ละการประชุมจะมีความชัดเจนว่าอาชีพไหนสมควรขึ้นค่าแรงบ้าง และขึ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ สำหรับการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างฯ ครั้งต่อไป ที่มีนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานคณะกรรมการค่าจ้าง ฯ จะมีการประชุมขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2567 ซึ่งจะมีการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ทำให้มีความชัดเจนว่าอาชีพไหน หรือจังหวัดใดได้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทบ้าง

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/575899/

‘เวียดนาม’ กลายเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลโตเร็วสุดในอาเซียน

อแมนดา เมอร์ฟี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคาร HSBC เปิดเผยว่าเวียดนามจะกลายมาเป็นตลาดชั้นนำของอุตสาหกรรมดิจิทัลทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ จากการประเมินชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยในปี 2566 มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล มีสัดส่วน 16.5% ต่อ GDP และมีบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่า 1,500 แห่ง ทำรายได้จากตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 2565

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 60% วางแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ระบบการชำระเงินดิจิทัล อีคอมเมิร์ซและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์พบว่ากลุ่มประเทศในอาเซียน มีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูงที่สุดแห่งเดียวในโลก ในขณะเดียวกันรายได้จากอีคอมเมิร์ซ มีมูลค่าเกินกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-emerges-as-fastest-growing-digital-economy-in-asean-2274332.html

สปป.ลาว เร่งออกใบอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว วางแผนที่จะออกวีซ่าทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายและขยายใบอนุญาตให้กับแรงงานที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้สามารถทำงานในประเทศต่อไปได้ เพื่อช่วยให้ประเทศจัดการแรงงานผิดกฎหมายได้ดีขึ้น และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเร่งรัดการออกใบอนุญาตและขยายเวลาใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานต่างด้าวใน ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวอพยพเข้ามาในประเทศลาวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานผิดกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐในทุกระดับจึงได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อปกป้องสิทธิของคนงาน และดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม  ในปี 2555 รัฐบาล สปป.ลาว เริ่มดำเนินการจดทะเบียนแรงงานสำหรับผู้อพยพ และในปี 2566 ได้เปิดศูนย์แรงงานและสวัสดิการสังคมทุกแห่งในแขวงต่างๆ เพื่อให้ชาวต่างชาติลงทะเบียนและออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราว ตามที่กระทรวงแรงงานฯ ระบุว่าระบบการออกใบอนุญาตและระบบการจัดการแรงงานต่างด้าวใหม่จะช่วยให้รัฐบาลรวบรวมข้อมูลและกำหนดจำนวนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-speeds-up-granting-licences-to-foreign-workers/285044.vnp

มีนักท่องเที่ยวกว่าแสนคน เดินทางมาหลวงพระบางในช่วงเทศกาลปีใหม่ลาว

วันที่ 10-19 เมษายน 2567 ช่วงเทศกาลปีใหม่ลาว มีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างชาติกว่า 110,000 คนเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง​ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 364.44% สร้างรายได้ประมาณ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำแนกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 41,500 คน ซึ่งประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจีน 10,497 คน, เกาหลีใต้ 5,541 คน,​ ไทย 4,284 คน, เวียดนาม 2,843 คน, ญี่ปุ่น 1,616 คน, สหรัฐอเมริกา 908 คน, ฝรั่งเศส 882 คน, เยอรมนี 749 คน, สหราชอาณาจักร 657 คน และแคนาดา 506 คน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 23,749 คนเท่านั้น ทั้งนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่าแสนคน ทำให้เมืองหลวงพระบางมีรายได้จากเทศกาลนี้กว่า 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_78_Luang_y24.php