ครม.ส่งต่อเมกะโปรเจ็กต์อีอีซี ไฮสปีด 3 สนามบิน-อู่ตะเภา ให้รัฐบาลใหม่
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานประจำปี 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) โดยมีผลงานที่สำคัญ ดังนี้ 1.โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (EEC Project List) มีโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการแล้วรวม 5 โครงการ โดยทุกโครงการมีความก้าวหน้า 2.เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เป็นพื้นที่ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใน EEC มี 2 รูปแบบ 3.แผนผังการพัฒนาพื้นที่ EEC แบ่งประเภทการใช้ที่ดินออกเป็น 4 กลุ่ม ตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ พื้นที่พัฒนาเมืองและชุมชน พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรม พื้นที่พัฒนาเกษตรกรรม และพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4.ความก้าวหน้าโครงการ EECi และ EECd 5.การให้บริการศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร (EEC-OSS) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ 6.การชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ เพื่อสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ โดยเน้น 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมการบิน-โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล บนแนวคิดแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว 7.การประชาสัมพันธ์และการสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่ 8.แผนงานบูรณาการ EEC ขับเคลื่อนแผนบูรณาการฯ สานต่อโครงการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (EEC Project List) และการพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม 9.ความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผน และมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา EEC อาทิ ร่วมลงนาม MOU ร่วมกับภาคเอกชนเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากร ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ 5G 10.กองทุนพัฒนาอีอีซี มีการดำเนินการ เช่น โครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบโครงการยกระดับการผลิตทุเรียนพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืนเป็นต้น และ 11.ระเบียบประกาศที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา EEC คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายได้พิจารณากลั่นกรองความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎระเบียบข้อบังคับประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา EEC มีผลบังคับใช้แล้วรวม 10 ฉบับ