อุตสาหกรรมประมงของตะนาวศรี: ต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและการจ้างงาน

ตามข้อมูลจากแหล่งข่าววงในของอุตสาหกรรมประมงของตะนาวศรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ราคาอาหารทะเลที่ตกต่ำ ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ส่งผลร้ายแรงต่อการส่งออกประมงของภูมิภาคตะนาวศรีไปยังประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก ปัจจุบันเขตตะนาวศรีมีเรือประมงนอกชายฝั่งจำนวน 1,500 ลำ และคนในพื้นที่กังวลว่าความสูญเสียในอุตสาหกรรมประมงอาจแพร่กระจายไปยังภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะเรือขนาดใหญ่ที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากขึ้นเพื่อปฏิบัติการ เพราะใช้วิธีตกปลาผิวน้ำและกลางน้ำ อีกทั้งการถูกกดราคาจากผู้ซื้อชาวไทยและอุปสงค์จากผู้ซื้อชาวไทยที่ลดลง ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ซึ่งในการออกเรือเพื่อลากอวนนอกชายฝั่งมักจะมีราคาค่าใช้จ่ายถึง 13 ล้านบาท (ประมาณ 120 ล้านจ๊าด) ต่อเที่ยว แม้จะมีศักยภาพในการจับสัตว์น้ำคิดเป็นมูลค่า 18 ล้านบาท (170 ล้านจ๊าด) แต่ผู้ค้ามักจะเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงหนึ่งบาร์เรลมีราคามากกว่า 660,000 จ๊าด ในขณะที่ปลาในตู้คอนเทนเนอร์แทบจะหาได้เพียง 65,000 จ๊าด

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/taninthayis-fishery-industry-soaring-costs-and-plummeting-prices-threaten-operations-and-jobs/