สปป.ลาวขยายการ LOKDOWN ออกไปเนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลลาวได้ตัดสินใจขยายการปิดล้อมทั่วประเทศในปัจจุบันไปจนถึงวันที่ 4 มิถุนายนเนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การ LOKDOWN บุคคลจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือออกจากพื้นที่ติดเชื้อหรือพื้นที่เสี่ยงตามที่กำหนดโดยคณะกรรมการงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID-19 ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในการขนส่งสินค้าการจัดส่ง

ที่มา : http://www.china.org.cn/world/Off_the_Wire/2021-05/20/content_77514635.htm

3 แขวงในสปป.ลาว ผ่อนปรนมาตรการปิดกั้น

รัฐบาลสปป.ลาวได้ประกาศผ่อนปรนมาตรป้องกันโควิด-19 ในแขวงไซยะบูรี แขวงคำม่วน แขวงบอลิคำไซ ถึงแม้จะมีการผ่อนปรนแต่มาตรอย่างการเข้า-ออกแขวงยังคงเข้มงวดเพื่อป้องการแพร่กระจายของเชื้อ การผ่อนปรนใน 3 แขวงครั้งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีของสถานการณ์โควิดในสปป.ลาว อย่างไรก็ตามในเวียงจันทร์หรือแขวงที่สำคัญของสปป.ลาวยังคงถูก LOCKDOWN และใช้มาตรการสูงสุด รวมถึงแขวงที่มีชายแดนติดกับเพื่อนบ้านทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงชะงักอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-05/17/c_139950983.htm

เกาหลีใต้สนับสนุนโครงการพัฒนาสนามบินในสปป.ลาว

Korea Airports Corporation (KAC) จะเข้าร่วมในโครงการพัฒนาสนามบินหลวงพระบางในสปป.ลาว กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของลาวได้เลือกให้บริษัท ท่าอากาศยานของเกาหลีใต้เป็นผู้ให้บริการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการดังกล่าว เพื่อยกระดับอาคารผู้โดยสารในเมืองหลวงเดิม แผนดังกล่าวมีกำหนดใช้เวลา 15 ปีตามการศึกษาความเป็นไปได้ โดยมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านวอน (ประมาณ 89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม KAC ระบุว่าองค์กรและขนาดของโครงการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการศึกษาความเป็นไปได้ ทั้งนี้ปัจจุบันหลวงพระบางเป็นเมืองหลวงนอกจากเป็นเมืองหลวงที่สำคัญแล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือของประเทศการศึกษาดังกล่าวเพื่อนำมาพัฒนาสนามบินจะนำซึ่งประสิทธิภาพในการรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆในสปป.ลาวในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรวมถึงการท่องเที่ยว

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-05/17/c_139950983.htm

สปป.ลาวเพิ่มความเข้มแข็งในการควบคุมชายแดนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโควิด -19 ที่นำเข้า

รัฐบาลลาวได้สั่งการให้ทั่วประเทศเฝ้าระวังชายแดนอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 ชาวสปป.ลาวที่ทำงานในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ สามารถกลับไปสปป.ลาวได้ แต่ต้องเข้าที่จุดผ่านแดนอย่างเป็นทางการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโควิด -19 การปิดชายแดนครั้งนี้ถึงแม้จะทำให้สปป.ลาวรับมือกับโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิแต่ผลเสียที่ตามมาคือเรื่องของการค้าชายแดนที่เป็นช่องทางหลักในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยที่คิดเป็นมูลค่าการค้ากว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด การปิดชายแดนจะทำให้การขนส่งสินค้าเข้ามามีความล่าช้าและต้นทุนในการขนส่งที่สูงขึ้นซึ่งจะย้อนกลับมาสร้างผลกระทบแก่ค่าครองชีพสปปป.ลาว เนื่องจากสปป.ลาวพึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลักภายในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไขควบคู่ไปกับมาตรกรป้องกันที่เข้มงวด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-05/17/c_139950983.htm

โครงการ“ In Laos For Laos” ปฏิรูประบบดิจิทัลในสปป.ลาว

Huawei Technologies (Lao) Sole Co. , Ltd สนับสนุนอุปกรณ์ไอทีและเริ่มโครงการ“ In Laos for Laos” มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมซึ่ง ผ่านการสนับสนุนอุปกรณ์โทรคมนาคม การฝึกอบรมทักษะ ICT และการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในยุคดิจิทัลที่เหนือกว่า 4.0 โครงการนี้จะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานของภาครัฐที่ห่างไกลและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากนี้จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่อายุยังน้อยผ่านการจัดหาอุปกรณ์ไอทีและสื่อการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสปป.ลาวในพัฒนาขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Hyawei_93.php