นายกฯ ฮุน เซน คาดเศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัว 5.6% ปีนี้

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5.6 ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.2 ในปี 2022 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายลง ส่งผลให้ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวภายในประเทศกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ขณะที่ธนาคารโลกได้กล่าวเสริมในระหว่างการอัพเดทภาวะเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคมว่าเศรษฐกิจของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มมีการฟื้นตัวหลังจากที่ทางการจีนได้ผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทาง รวมถึงภาคการเกษตรที่เริ่มเห็นถึงการขยายตัวด้านการส่งออก อีกทั้งข้อตกลงความหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP), ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-สาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501306466/cambodias-economy-projected-to-grow-by-5-6-pct-this-year-say-prime-minister-hun-sen/

เวียงจันทน์ เป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันท่องเที่ยวภูเขานานาชาติ ครั้งที่ 5

งานเฉลิมฉลองวันท่องเที่ยวภูเขานานาชาติ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเวียงจันทน์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.) โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนจากทั้ง สปป.ลาว จีน และประเทศอื่นๆ เข้าร่วม ซึ่งได้ร่วมกันหารือบนหัวข้อ “เพลิดเพลินไปกับสิ่งมหัศจรรย์แห่งขุนเขา แบ่งปันชีวิตที่สวยงาม และร่วมกันส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยว” ถือเป็นโอกาสสำหรับ สปป.ลาว ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้าน Ountuang Khaophan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ในนามของรัฐบาล สปป.ลาว กล่าวขอบคุณ International Mountain and Tourism Alliance ที่เลือก สปป.ลาว ในการจัดงานวันท่องเที่ยวภูเขาสากลประจำปี 2023

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten102_Vientiane_y23.php

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ยอดผู้โดยสารเข้าประเทศ พุ่ง 45.5 ล้านคน

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณผู้โดยสาร รวม 45.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจากตัวเลขข้างต้น มีชาวต่างชาติ 12 ล้านคน และคนในประเทศ 33.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 679.6% และ 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. สายการบินเวียดนามให้บริการผู้โดยสาร รวมทั้งสิ้น 22.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดนั้น มีผู้โดยสารในประเทศ 16.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติ 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5,525.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการจำกัดการเดินทางที่ยาวนานกว่า 2 ปี อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544347/air-passenger-volume-soars-during-first-five-months.html

“ภาคการลงทุนจากต่างประเทศ” – เครื่องยนต์สำคัญของการเติบโตทางศก.เวียดนาม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าจำนวนโครงการและเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม และด้วยนโยบายที่เปิดกว้างและบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวยในการทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพ ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำและประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งนี้ ตามข้อมูล ณ เดือน เม.ย. พบว่าเวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 446 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่เวียดนามยังคงเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างชาติมากที่สุดในปี 2563 และสิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงดูดทรัพยากรจากต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-be-impacted-by-eu-carbon-tax-post1017645.vov

โรงงานรองเท้ายักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ปลดพนักงานกว่า 5 พันคน

วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าว Taiwan News ของไต้หวัน เสนอข่าว Taiwan footwear titan Pou Chen to layoff 5,700 workers in Vietnam ระบุว่า Pou Yuen Vietnam บริษัทผลิตรองเท้าในเวียดนาม ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท Pou Chen ของไต้หวัน ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 5,744 คนในในสัปดาห์นี้ โดย Pou Yuen Vietnam เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ และจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง คิดเป็นร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมดในบริษัท โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จะทยอยได้รับแจ้งระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-8 ก.ค. 2566 ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. 2566 Pou Yuen Vietnam เพิ่งเลิกจ้างพนักงานไป 2,358 คน พร้อมจัดงบประมาณสำหรับจ่ายค่าชดเชยรวม 355 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือราว 390 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวรับจ้างผลิตรองเท้าให้กับแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ ไนกี้ อาดิดาส รีบอค ฯลฯ โดยการเลิกจ้างพนักงานนั้นเริ่มมีข่าวลือมาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง เวลานั้นคาดการณ์ว่าอาจมีพนักงานถูกเลิกจ้างถึง 3 หมื่นคน แต่พบว่าเลิกจ้างจริง 2,800 คน

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/730741

จุดผ่านแดน สะตึงบท-หนองเอี่ยน ระหว่างกัมพูชา-ไทย แล้วเสร็จกว่า 80%

Sun Chanthol รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ระบุว่า ณ เดือนมีนาคม 2022 โครงการจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ในบริเวณสะตึงบท-หนองเอี่ยน ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 26.42 ล้านดอลลาร์ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างทางการกัมพูชาและไทย ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วประมาณร้อยละ 82.30 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2022 ล่าช้าไปกว่ากำหนดการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดสภาพการจราจรที่ติดขัดในจังหวัดปอยเปต รวมถึงเป็นการกระตุ้นภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501259155/cambodia-thailand-stung-bot-ban-nong-ian-international-border-crossing-more-than-80-percent-completed/

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องแต่งกายไปยังญี่ปุ่นขยายตัวต่อเนื่อง

การส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องแต่งกายของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แม้ว่าการส่งออกจะลดลงในช่วงปี 2020 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการส่งออกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,201.698 ล้านดอลลาร์ ในปี 2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ของปีที่แล้ว ที่มูลค่า 380.611 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวกว่าร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ตามข้อมูลเชิงลึกของ Fibre2Fashion ซึ่งกางเกงขายาวและกางเกงขาสั้น ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่กัมพูชาได้ทำการส่งออกไปยังญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.88 ของการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มสินค้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ เสื้อเจอร์ซีย์สัดส่วนร้อยละ 13.16, เสื้อยืด ร้อยละ 10.62, เสื้อเชิ้ต ร้อยละ 9.07 และเสื้อผ้าชั้นใน ร้อยละ 5.71

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501252053/cambodias-apparel-exports-to-japan-grow-further-in-2022-to-more-than-1-2-billion/

ปริมาณนักท่องเที่ยวชายแดน ระหว่าง สปป.ลาว-กัมพูชา เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ณ จุดผ่านด่านตราเบียงเกรียน จังหวัดสตึงแตรง ของ สปป.ลาว ซึ่งเชื่อมต่อกับกัมพูชา มีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้น หลังรัฐบาลกัมพูชาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศ ก่อนที่มหกรรมกีฬา ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจะเกิดขึ้น ด้าน Un Po Soeun ผู้อำนวยการกรมการท่องเที่ยวจังหวัดสตึงแตรง ได้อธิบายเสริมว่าปัจจุบันสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบมาจากวิกฤตโควิด-19 โดยคาดว่าการจัดงานมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501250856/increase-in-number-of-tourists-entering-through-laos-cambodia-border-before-the-sea-games/

สหราชอาณาจักรพร้อมให้การสนับสนุนกัมพูชาในด้านต่างๆ

สหราชอาณาจักรให้คำมั่นต่อกัมพูชาว่าจะให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา การเงิน โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กล่าวโดย Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชาที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ขณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ซึ่งได้กล่าวชมทางการกัมพูชาถึงการนำพาสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่ประเทศ รวมถึงการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 จนสามารถเปิดประเทศได้อีกครั้ง เป็นผลทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ยังย้ำถึงความตั้งใจที่มีความประสงค์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของอังกฤษภายในกัมพูชา รวมถึงพร้อมสนับสนุนการลงทุนของอังกฤษในกัมพูชาให้มากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501242497/uk-to-support-cambodia-in-various-domains/

“เวียดนาม” ตั้งงบ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

คุณ Kazuo Kusakabe หัวหน้าคณะผู้แทนของบริษัท Toshiba Asia Pacific Pte Ltd กล่าวในที่เปิดฟอรั่มเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาหลังโควิด-19 และความร่วมมือระหว่างเวียดนามและญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการเติบโตสีเขียว ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการจัดการเศรษฐกิจกลาง (CIEM) เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่าเวียดนามต้องการงบประมาณสูงถึง 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และได้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ถือเป็นความท้าทายของโลก รวมถึงเวียดนามอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องยกระดับโครงการขนาดใหญ่และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ นาง Tran Thi Hong Minh ผู้อำนวยการสถาบัน CIEM ได้กล่าวว่าเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศไปสู่การเติบโตสีเขียว จำเป็นต้องส่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-needs-600-billion-usd-to-achieve-carbon-neutrality-2110715.html