‘เวียดนาม’ เผยยอดขาดดุลการค้า เดือน ต.ค. ลดลงเหลือ 1.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าเดือน ต.ค. เวียดนามมียอดเกินดุลการค้า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ทั้งปีเวียดนามขาดดุลการค้าเหลือ 1.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีมูลค่ากว่า 267.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากธุรกิจต่างชาติ 198.16 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ามากกว่า 76 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบเป็นรายปี รองลงมาจีน สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นซัพพลายเออร์สินค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่าราว 89.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเกาหลีใต้ อาเซียน ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/trade-deficit-falls-to-1-45-bln-after-surplus-in-october-4382190.html

 

ราคาส่งออกข้าวเวียดนาม แซงหน้าไทย

ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แซงหน้าผู้ส่งออกข้าวไทยและประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ อินเดียและปากีสถาน โดยเฉพาะราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามมีมูลค่า 438 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาข้าวประเภทเดียวกันที่มาจากไทย อินเดียและปากีสถาน มีราคาอยู่ที่ 373, 358 และ 363 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ทั้งนี้ Tran Chi Hung อธิบดีกรมวิชาการเกษตรและการพัฒนาชนบทประจำจังหวัดเหิ่วซาง กล่าวว่าราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นและคาดว่าราคาจะแตะอยู่ในระดับสูงในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ธุรกิจเวียดนามทำการส่งออกข้าวกว่า 5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-rice-export-price-outstrips-thailands-903279.vov

 

Vietnam Economic Factsheet: October 2564

FACTSHEET VIETNAM ต.ค.64

เศรษฐกิจเวียดนาม ประจำเดือนตุลาคม 2564

ที่มา : รวบรวมจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (General Statistics Office: GSO), กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท, กระทรวงวางแผนและการลงทุน, กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กรมศุลกากรและ CEIC Data

‘สิงคโปร์’ ก้าวเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ในเวียดนาม ในช่วง 10 ด.

กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนสิงคโปร์ลงทุนในเวียดนาม มีมูลค่ากว่า 6.77 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำลงทุนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาเกาหลีใต้ ด้วยทุนจดทะเบียน 4.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่น 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. พบว่านักการเงินอัดฉีดเม็ดเงิน 23.74 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยังเวียดนาม เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป มีมูลค่า 12.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 53.7% ของเงินทุนจดทะเบียน นอกจากนี้ สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่าปัจจุบัน การระบาดของโควิด-19 ค่อยๆ อยู่ภายใต้การควบคุม และรัฐบาลได้ใช้นโยบายต่างๆ เพื่อขจัดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/singapore-leads-foreign-investment-in-vietnam-in-10-months-37296.html

‘เวียดนาม’ เผย 10 ด. ปีนี้ การเบิกจ่ายโครงการลงทุนภาครัฐ แตะ 55.8%

กระทรวงการคลัง รายงานว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนสาธารณะ ณ เดือน ต.ค. มีมูลค่ากว่า 257.3 ล้านล้านดอง (11.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) หรือคิดเป็น 55.8% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ ตัวเลขข้างต้นนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (67.25%) ทั้งนี้ ตามตัวเลขสถิติชี้ว่ากระทรวงจำนวน 7 แห่งและหน่วยงานท้องถิ่น 20 แห่ง มีการเบิกจ่ายงบกว่า 65% อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในการจัดหาวัตถุดิบที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะปัญหาการนำเข้า ขาดแคลนแรงงานก่อสร้างและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ล้วนส่งผลกระทบต่อการประเมินโครงการ ตลอดจนปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเร่งการเบิกจ่าย ทางกระทรวงจึงขอให้หน่วยงานปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลที่ 63 ฉบับที่ 7036/CD-VPCP เกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสและการเร่งเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐฯ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/public-investment-capital-disbursement-reaches-558-percent-in-10-months/211896.vnp

รัฐบาลเวียดนาม อนุมัติเปิดรับนักท่องเที่ยว 5 จ. ภายในเดือนนี้

รัฐบาลกลางได้อนุมัติให้เปิดรับบริการการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเดือนนี้โดยไม่ต้องกักตัว ประกอบไปด้วยเมืองฟูก๊วก (จ.เกียนยาง), จังหวัดคั้ญฮหว่า, จังหวัดกว๋างนาม, จังหวัดกว๋างนิญและเมืองดานัง ได้รับเลือกให้ดำเนินโครงการนำร่อง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวนั้น หลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวเสนอโครงการต่อรัฐบาล โดยโครงการดังกล่าวมีระยะการดำเนินการ 3 เฟส 1) เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. จะเป็นบริการทัวร์แบบครบวงจรและชาวต่างชาติจะเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศไปยัง 5 เมืองสำคัญข้างต้น 2) เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีหน้า เปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น สามารถเข้าร่วมโครงการนำร่องได้และยังไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใน 5 สถานที่ได้หลังจากเสร็จวิ้นการเดินทาง 7 วันไปยังจุดหมายแรก 3) จะเปิดบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 และผลการตอบรับการท่องเที่ยวในช่วงเฟส 1-2

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/five-provinces-set-to-welcome-back-intl-tourists-this-month/

‘ไนกี้’ เล็งขยายธุรกิจในเวียดนาม

Noel Kinder ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนของบริษัทไนกี้ “Nike” กล่าวกับฝ่าม มิงห์ จิ๋ง นายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ประชุมหารือนอกรอบของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ว่ามีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนและขยายการผลิจในเวียดนาม โดยทางคุณ Kinder ชี้ว่าโรงงานของบริษัทมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ได้กลับมาดำเนินการผลิจอีกครั้ง หลังจากที่ปิดการดำเนินงานจากการระบาดของโควิด-19 อีกทั้ง ยังได้แสดงความขอบคุณกับรัฐบาลเวียดนาม กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือธุรกิจจากการเผชิญการระบาดของเชื้อโรค นอกจากนี้ ตามตัวเลขสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อุตสาหกรรมรองเท้าทำรายได้จากการส่งออกถึง 13.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/nike-to-expand-operations-in-vietnam-902390.vov

‘เวียดนาม’ ชี้การส่งออก กุญแจสำคัญเร่งผลักดันเศรษฐกิจโต

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 63 อยู่ที่ 2.9% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินนโยบายโด่ย​ เหม่ย “Doi Moi” แต่นับว่ายังเป็นสถานการณ์ที่ดีเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง หดตัว 4% ทั้งนี้ ในช่วง Q3/63 – Q2/64 ภาวะเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้วยอัตราการเติบโตที่ 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ การระบาดของเชื้อโรค ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจ หดตัวที่ 6.2% อีกทั้ง ปัจจัยที่ทำให้เป็นแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่าเมื่อแยกตัวชี้วัดของอุปสงค์ในประเทศจะเห็นได้ว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ชี้ว่าการบริโภตหดตัวอย่างมาก การลงทุนหยุดชะงัก ในขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตราการขยายตัวที่ 24%ดถอยรุนแรงภาวะเแต่เริ่มดำเนินการน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1070812/exports-of-goods-an-important-momentum-for-growth.html