สนค.ชี้ศก.จีนดีขึ้นหลังคลายมาตรการโควิด

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประกาศเปิดประเทศของจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 เป็นต้นไป หลังจากดำเนินนโยบาย Zero-COVID มานานกว่า 3 ปี เป็นสัญญาณที่ดีต่อการส่งออกไปยังตลาดจีน โดยประเมินว่า ในปี 2566 ตลาดจีนจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง โดยจีนเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย เป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 2 สัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 12 ของการส่งออกรวม รองจากสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/economy/news_479263/

‘พาณิชย์’ เตรียมจัดประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC หารือการทำ FTA เอเชียแปซิฟิก 19-22 พ.ค. นี้

กระทรวงพาณิชย์นับถอยหลังเตรียมนำรัฐมนตรีการค้า APEC ระดมความเห็นประเด็นเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาค 19-22 พฤษภาคมนี้ เน้นหารือการทำ FTA เอเชียแปซิฟิก ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า หนุนการประชุมรัฐมนตรี WTO ทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด

ทั้งนี้ APEC เป็นเวทีที่เน้นการเปิดเสรีทางการค้าและการลดอุปสรรคทางการค้า โดยในปีนี้ไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC อีกครั้งในรอบ 20 ปี ซึ่งผลลัพธ์ของการประชุม APEC จะช่วยวางแนวทางฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยภายหลังยุคโควิดอย่างยั่งยืน และตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันจะเป็นโอกาสในการแสดงความพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกหลังสถานการณ์โควิด

ที่มา : https://thestandard.co/moc-prepare-apec-conference/

เปิดประเทศ-ผ่อนคลายมาตรการ ผลักดันอสังหาฯปี 65 ขยายตัว15-20%

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom หรือ LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์  (LPN) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ว่า มีแนวโน้มเติบโต 15-20% ตามการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโต 3.5-4% ผลจากมาตรการเปิดประเทศ รวมถึงการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน เป็น100% สำหรับที่อยู่อาศัยทุกประเภท ซึ่งมีผลจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 โดยปัจจัยเสี่ยงในปี 2565 คือ ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และแนวโน้มการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธ์ “โอมิครอน”
ที่มา: https://www.naewna.com/business/625012

จีนคาดผู้โดยสาร 1 ล้านคนโดยสารรถไฟลาว-จีน

จีนคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟลาว-จีนมากกว่า 1 ล้านเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการเดินทางก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างสื่อทางการจีนว่าวันตรุษจีนจะมีการเดินทางเพิ่มขึ้นตามเส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างลาวและจีน เทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวจีน โดยในแต่ละปีมีผู้โดยสารเดินทางหลายพันล้านคน ด้านสปป.ลาวได้ประกาศว่าจะเปิดประเทศอีกครั้งเพื่อรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 มกราคม 2022 อย่างไรก็ตามแม้ว่ากฎระเบียบในปัจจุบันจะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างจีนและสปป.ลาว แต่คุนหมิงรายงานว่ายอดขายตั๋วเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่การรถไฟลาว-จีนเปิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม มีผู้โดยสารมากกว่า 300,000 คนเดินทางบนเส้นทางรถไฟสายจีน รวมทั้งบริการขนส่งสินค้าทำการเดินทางข้ามพรมแดน โดยสินค้ามูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐได้ถูกขนส่งระหว่างลาวและจีนในวันพุธ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/12/17/china-expects-1-million-passenger-trips-on-laos-china-railway/

รัฐบาลเตรียมรับนักท่องเที่ยวครั้ง

รัฐบาลกำลังเตรียมที่จะเปิดประเทศลาวอีกครั้งโดยมีแผนจะเริ่มดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่บางแห่งของประเทศในขั้นต้น เรื่องนี้ได้มีการหารือกันในการประชุมของคณะกรรมการที่รับผิดชอบการท่องเที่ยวแบบ kickstarting โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจะกำหนดระเบียบข้อบังคับเพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการการกลับมาของผู้มาเยือนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนในการสร้างความไว้วางใจในหมู่นักท่องเที่ยว ตลอดจนมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั้งนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องร่วมมือกับภาคธุรกิจในการเตรียมตัวอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลแก่ผู้มาเยี่ยมเยือน ตลอดจนให้รายละเอียดขั้นตอนในการยื่นขอวีซ่าและช่องทางการรับข้อมูล

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt246.php

ภาครัฐ เอกชน วางแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

ภาครัฐและเอกชนกำลังวางแผนที่จะเปิดประเทศสปป.ลาวอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสในปี พ.ศ. 2565 แม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับการกักกันเมื่อเข้าประเทศยังคงถูกถกเถียงกันอยู่ กระทรวงจะให้รายละเอียดที่แน่นอนเกี่ยวกับการเข้าประเทศลาวของผู้มาเยือนในภายหลังเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข โดยพื้นสำหรับการท่องเที่ยวจะยังถูกจำกัดไว้เฉาะโซนสีเขียว ได้แก่ เวียงจันทน์ วังเวียงและหลวงพระบาง

ขณะนี้นางเผิงจันทร์ เผิงเมือง อธิบดีกรมการวางแผนและความร่วมมือระหว่างประเทศ กล่าวในที่ประชุมว่า กระทรวงกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนเพื่อวางแผนรับนักท่องเที่ยวกลับมาในอนาคตอันใกล้ และจะขอให้รัฐบาลอนุมัติแผนในไม่ช้า โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ลาว ทราเวล กรีนโซน” รัฐบาลหวังว่าแคมเปญ Lao Thiao Lao (ลาวเยี่ยมชมลาว) จะดึงดูดนักท่องเที่ยวลาวอย่างน้อย 1.9 ล้านคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนในปี 2565

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Public_240_21.php

เมียนมาพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต้นปีหน้า

เมื่อวันพุธ (24 พ.ย.64) กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมา เปิดเผยว่ามีแผนเริ่มกลับมารับท่องเที่ยวต่างประเทศในต้นปีหน้า ระยะแรกคาดจะรับนักท่องเที่ยวจากประเทศในภูมิภาคและร่วมหารือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบเมื่อสนามบินและชายแดนกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ข้อมูลล่าสุดชายแดนเมียนมา-ไทยจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนหน้า จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข มีประชากรได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 10.4 ล้านคน ซึ่งการระบาดชองโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของเมียนมาหยุดชะงัก ส่งผลให้โรงแรมและเกสต์เฮาส์บางแห่งต้องปิดกิจการลง เมื่อเดือนก.ย.64 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ ราว 100,000 คน ลดลง 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีนักท่องเที่ยว 900,000 คน เนื่องมาจากการจำกัดการเดินทางในประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : http://www.news.cn/english/asiapacific/2021-11/24/c_1310330100.htm

กัมพูชายกเลิกการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

หลังจากนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้ประกาศเปิดประเทศสำหรับนักธุรกิจที่จำเป็นต้องเดินทางมายังกัมพูชาเพื่อดำเนินธุรกิจ ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. กัมพูชาได้ขยายขอบเขตการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตั้งเป้าที่จะต้อนรับผู้โดยสารขาเข้าไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชาที่เดินกลับมาจากต่างประเทศ หรือชาวต่างชาติ อาทิเช่น นักท่องเที่ยว หรือนักธุรกิจ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางมายังกัมพูชาต้องทำการตรวจแบบ PCR ก่อน โดยผลตรวจต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางมายังกัมพูชา และเมื่อมาถึงกัมพูชาผู้โดยสารต้องทำการทดสอบอีกครั้งที่สนามบิน ซึ่งใช้เวลารอประมาณ 20 นาที จึงจะทราบผลหากผลเป็นลบนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังที่ใดก็ได้ในกัมพูชา แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนยังคงต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามกำหนด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50971326/end-of-quarantine-means-the-country-is-truly-back-in-business/

รัฐบาลเวียดนาม อนุมัติเปิดรับนักท่องเที่ยว 5 จ. ภายในเดือนนี้

รัฐบาลกลางได้อนุมัติให้เปิดรับบริการการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเดือนนี้โดยไม่ต้องกักตัว ประกอบไปด้วยเมืองฟูก๊วก (จ.เกียนยาง), จังหวัดคั้ญฮหว่า, จังหวัดกว๋างนาม, จังหวัดกว๋างนิญและเมืองดานัง ได้รับเลือกให้ดำเนินโครงการนำร่อง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวนั้น หลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวเสนอโครงการต่อรัฐบาล โดยโครงการดังกล่าวมีระยะการดำเนินการ 3 เฟส 1) เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. จะเป็นบริการทัวร์แบบครบวงจรและชาวต่างชาติจะเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศไปยัง 5 เมืองสำคัญข้างต้น 2) เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีหน้า เปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น สามารถเข้าร่วมโครงการนำร่องได้และยังไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใน 5 สถานที่ได้หลังจากเสร็จวิ้นการเดินทาง 7 วันไปยังจุดหมายแรก 3) จะเปิดบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 และผลการตอบรับการท่องเที่ยวในช่วงเฟส 1-2

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/five-provinces-set-to-welcome-back-intl-tourists-this-month/

สปป.ลาวเตรียมเปิดประเทศอีกครั้ง

ในการปราศรัยเปิดรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพันธ์คำ วิภาวัน กล่าวกับสมาชิกว่าลาวจำเป็นต้องพิจารณาขั้นตอนในการเปิดประเทศอีกครั้ง จำเป็นที่จะต้องหาวิธีการจัดการกับการระบาดของ Covid-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ รวมถึงการเริ่มให้บริการทางรถไฟลาว-จีน การจะเปิดประเทศได้อีกครั้งนั้น รัฐบาลคาดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรผู้ใหญ่ภายในสิ้นปี 2564 เป้าหมายดังกล่าวเป็นไปเพื่อการกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้งอีกทั้งหากยังคงปิดประเทศอาส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผละทบอบ่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เป็นความกังวลของรัฐบาลคือการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงอีกครั้งดังนั้นมาตรการเปิดประเทศ รัฐบาลให้คำมั่นที่จะเข้มงวดและรัดกุมกับแนวทางในการดูแลสาธารณสุขควลคู่ไปกับการเปิดประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Prepare_214.php