สปป.ลาวขยายการ Lockdown ไปอีก 14 วัน

มาตราการ Lockdown ในเมืองต่างๆของสปป.ลาว รัฐบาลมองถึงความสำคัญของความต่อเนื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดทำให้มีมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ขยายเวลาเพิ่มเติมจากเดิมวันที่ 1-19 เมษายนให้เพิ่มจากเดิมไปอีก 14 วัน เพื่อความต่อเนื่องของการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสถึงแพร่ยอดผู้ติดเชื้อของสปป.ลาวอาจไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศรอบๆอย่างไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฯลฯ แต่รัฐบาลต้องการให้การแพร่ระบาดหยุดให้เร็วที่สุดเพราะหากปัญหาดังกล่าวกิยเวลานานจะส่งต่อระบบเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง เพราะในปัจจุบันภาคการท่องเที่ยว การผลิตและธุรกิจ sme  ล้วนแล้วได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกนโยบายเพื่อบรรเทาความยากลำบากของประชาชนและภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนจ่ายภาษีออกไป 3 เดือน หรือมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ ท้ายที่สุดรัฐบาลสปป.ลาวเชื้อเป็นอย่างยิ่งหากประชาชนให้ความร่วมมือเราจะผ่านสถาการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปได้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_extends_80.php

รัฐบาลสปป.ลาวออกมาตรการยกเว้นภาษีเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของ COVID-19

เศรษฐกิจสปป.ลาวคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวร้อยละ 6.1 ในปีนี้จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 6.5 ในปีนี้ ซึ่งมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19ในปัจจุบันถึงแม้สปป.ลาวจะพบผู้ติดเชื้อเพียง 19 คนเท่านั้นในขณะนี้ แต่เศรษฐกิจกลับพบว่ามีผลกระทบเชิงลบอย่างมากโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การก่อสร้างและการผลิตทำให้รัฐบาลต้องมีการออกมาตราเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว โดยมีการออกมาตราการยกเว้นการจ่ายภาษีเป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน ทั้งในส่วนภาษีของธุรกิจและภาษีเงินได้ส่วนบุคคลมาตราการดังกล่าวจะช่วยให้กระแสเงินสดของภาคธุรกิจมีมากขึ้นเพื่อนำไปหมุนเวียนในธุรกิจเพื่อรักษาธุรกิจให้รอดในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะภาคธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม SME มีมากถึงร้อยละ 90ของธุรกิจที่จดทะเบียนในสปป.ลาวหากเกิดปัญหามีการปิดตัวไปหรือล้มละลาย จะทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงรวมถึงแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลตระหนักจึงทำให้มีการยกเว้นภาษีขึ้นมาเพื่อรักษาระบบเศรษฐกิจในขณะนี้

ที่มา : https://www.aseanbriefing.com/news/laos-issues-tax-relief-measures-mitigate-covid-19-impact/

รัฐบาลสปป.ลาวสั่งห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั่วคราวทั่วประเทศ

สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (PMO) เพิ่งได้รับการปล่อยประกาศสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆและนายกเทศมนตรีนครหลวงเวียงจันทน์ในเรื่องการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันหยุดปีใหม่อย่างเคร่งครัดโดยผู้จัดจำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ตลาดและองค์กรการค้าออนไลน์ห้ามมิให้มีการขายและจัดจำหน่ายสุราเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หากผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยกฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน (เริ่มเวลา 6 โมงเช้า) ซึ่งตรงกับวันแรกของวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ จนสิ้นสุดเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 20 เมษายนทั้งนี้เป็นมาตรรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระงับการแพร่ระบาดของสปป.ลาว เพราะการงดจำหน่ายเหล้าเบียร์จะช่วยลดการสังสรรค์ในเทศกาลวันปีใหม่ของชาวสปป.ลาวอันจะนำมาซึ่งการแพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตราการดังกล่าวออกมาเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19  ในขณะนี้ 

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/04/13/government-imposes-temporary-ban-on-sale-of-alcoholic-beverages-during-pi-mai/

มูลนิธิพงษ์สวาทช่วยให้โรงพยาบาล 103 แห่งต่อสู้กับโควิด -19

มูลนิธิพงษ์สวาทได้บริจาคเวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่าประมาณ 66.56 ล้านกีบให้แก่โรงพยาบาล 103 แห่งเพื่อช่วยในการต่อสู้กับโควิด -19 โดยเป็นสินค้าที่บุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการในขณะนี้ได้แก่ ถุงมือแพทย์ เจลทำความสะอาดมือฆ่าเชื้อ มาสก์รวมถึงอาหารสำเร็จรูปไม่เพียงแค่การพัฒนาประสิทธิภาพด้านสาธารณะก่อนหน้านี้มูลนิธิพงษ์สวาทยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาวและยังสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีส่วนสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ทั้งนี้มูลนิธิมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับรัฐบาลสปป.ลาวในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Phongsavanh78.php

คาดการณ์เศรษฐกิจสปป.ลาวจะหดตัวจากการผลิตการใช้จ่ายในประเทศลดลง

การเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาวจะชะลอตัวลง เนื่องจากการผลิตและการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะหดตัวประมาณร้อยละ 50 แม้ว่าการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจะถูกควบคุมได้บางส่วนแล้ว แต่ด้วยความกังวลต่อโรคและมาตราการป้องกันต่างๆ ของรัฐไม่ว่าจะเป็นการให้ประชาชนกักตัวอยู่ที่บ้านร่วมถึงการให้โรงงานต่างๆ ปิดตัวลงชั่วคราวทำให้มีแรงงานบางส่วนตกงานและโรงงานขาดรายได้ไปชั่วคราวในขณะนี้ ซึ่งนักวิชาการสปป.ลาวด้านเศรษฐศาสตร์ได้กล่าวว่า “ การคาดการณ์ว่าการเติบโตของจีดีพีในลาวจะลดลง 50% นั้นสมเหตุสมผล นอกจากการผลิตและการใช้จ่ายที่ลดลงแล้วภาคการท่องเที่ยวจะเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักร่วมถงธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างโรงแรม ร้านอาหารก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง” ในขณะเดียวกันโครงการรถไฟที่เชื่อมต่อไปจีนที่มีกำหนดการแล้วเสร็จในปลายปีนี้ก็ต้องหยุดชะงักไปก่อน ดังนั้นจากปัจจัยต่างๆที่ได้กล่าวมาจะทำให้เศรษฐกิจสปป.ลาวหดตัวลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/growth-04102020151706.html

ผู้แทนสปป.ลาวจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนพิเศษ

นาย Saleumxay Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสปป.ลาวจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนผ่านทางวิดีโอระดับในเรื่องการเตรียมการพิเศษสำหรับมาตราการป้องกัน COVID-19 วาระสำคัญของการประชุมสุดยอดคือการตอบสนองโดยรวมในระดับภูมิภาคต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญสำหรับอาเซียนในการรักษาสุขภาพของประชาชนรวมถึงการรักษาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมประชุมยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของอาเซียนในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะการบำรุงรักษาห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคสำหรับสินค้ายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการต่อสู้กับโรคระบาด อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังเสนอให้แต่ละประเทศควรดำเนินการตามกรอบแนวทางของ WHO เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของสากลและได้มาตราฐานในการป้องการและควบคุมโรคระบาด

ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_to_join_74.php