รัฐบาลสปป.ลาวจะปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รัฐบาลจะปรับปรุงวิธีการทำงานทั่วประเทศโดยเชื่อว่าจะช่วยให้การดำเนินการตามนโยบายพรรคและรัฐบาลเป็นไปอย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว กล่าวว่าการปรับปรุงวิธีการทำงานของรัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายของรัฐบาลได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงเร่งดำเนินการตามนโยบายภาครัฐและภาครัฐจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงวิธีการทำงาน ในส่วนของภารกิจนี้รัฐบาลจะปรับปรุงรายละเอียดงานของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย นอกจากนี้ยังกล่าวว่าจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงการประสานงานระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐบางแห่งจะได้รับการปรับปรุงเพื่อให้แน่ใจว่างานไม่ได้ทับซ้อนกัน หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของวิธีการทำงานใหม่ที่เสนอโดยรัฐบาลคือการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และความสามารถที่จำเป็นตามตำแหน่งและการมอบหมายงาน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt248.php

สปป.ลาวตั้ง Grid เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชา

Electricite du Laos (EDL) ซึ่งดำเนินการโดยรัฐในประเทศสปป.ลาวได้เสร็จสิ้นการขยายโครงข่ายไฟฟ้ามากกว่า 80% ซึ่งจะส่งกระแสไฟฟ้าให้กับสายส่งของกัมพูชาที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยเกิดจากการลงนามในข้อตกลงการซื้อไฟฟ้าระหว่างสปป.ลาวและกัมพูชาในระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนลาว ซึ่งกัมพูชาตกลงที่จะซื้อไฟฟ้าจำนวน 2,400 เมกะวัตต์ จากสปป.ลาวแบ่งเป็นสี่เฟสระยะเวลา 30 ปี เฟสแรกจะเริ่มในช่วงท้ายปี 2567 จำนวน 300 เมกะวัตต์ เฟสที่สองเริ่มในปี 2568 จำนวน 600 เมกะวัตต์ ในขณะที่เฟสสามจะเริ่มในปี 2569 จำนวน 600 เมกะวัตต์ และเฟสที่สี่จะเริ่มขึ้นในปี 2570 จำนวน 900 เมกะวัตต์ โดยสปป.ลาวจะส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชาจากโรงไฟฟ้าถ่านหินสองแห่งใน Xekong ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเวียงจันทน์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 530 กม. โดยรายงานว่าสปป.ลาวได้ตกลงที่จะขายไฟฟ้าผ่านสายส่ง 22 กิโลโวลต์และ 115 กิโลโวลต์ไปยังประเทศกัมพูชา นอกจากนี้รัฐบาลได้ลงนามในข้อตกลงขายไฟฟ้า 195 เมกะวัตต์ให้กัมพูชาในปี 2563

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-11/11/c_138545945.htm

การเกินดุลการค้าไตรมาสที่ 3 ในสปป.ลาว

สปป.ลาวมียอดเกินดุลการค้า 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี มูลค่าการส่งออกและนำเข้ารวมของสปป.ลาวใน Q3 ของปี 62 สูงถึง 8,582 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 76% ของตัวเลขที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภา มีการเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกมีมูลค่าถึง 4,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 79.4% ของแผน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,516 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการนำเข้ามีมูลค่า 4,202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีแนวโน้มสูงถึง 5,775 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคอุตสาหกรรมและหัตถกรรมมียอดขาย 8,968 พันล้านกีบหรือ 73.5% ของตัวเลขเป้าหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 19.8% และมีแนวโน้มสูงถึง 12,306 พันล้านกีบหรือ 99% ของจำนวน 12,386 พันล้านกีบ รายได้จากอุตสาหกรรมแปรรูปและงานฝีมือลดลง การผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักได้รับผลกระทบจากฤดูแล้ง ประมาณ 23,641 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สร้างมูลค่ามากกว่า 11,600 ล้านกีบหรือ 70% ของ 33,875 พันล้านกีบที่ได้รับอนุมัติจากสมัชชาแห่งชาติ ลดลงร้อยละ 5.17 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รัฐบาลคาดว่าการส่งออกไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้เนื่องจากโรงงานใหม่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ มูลค่าการส่งออกแร่ธาตุอยู่ที่ 8,080 พันล้านกีบหรือ 68% ตัวเลขเป้าหมายและคาดว่าจะลดลง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-registers-trade-surplus-q3-108042

บริษัท สปป.ลาว ,เกาหลีใต้ ร่วมเป็นหุ้นส่วนในการเปิดตัว ICT solutions

 บริษัท Gentop จำกัด ของเกาหลีใต้ ร่วมมือกับ Asia Investment Development & Construction Sole  จำกัด (AIDC) ของสปป.ลาว วางแผนที่จะร่วมมือกันในสาขาวิศวกรรมโยธา พลังงานโทรคมนาคม และอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งบริษัท Gentop ได้มอบระบบกล้องวงจรปิดมูลค่า 20,000 เหรียญสหรัฐให้ AlDC สำหรับการทดสอบในเวียงจันทน์ ประธานบริษัท Gentop กล่าวว่าในอนาคตได้วางตลาดที่มีมูลค่าสูงในตลาดสปป.ลาวรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการบนพื้นฐานของ ICT solutions ซึ่งคาดหวังว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทจะเติบโตขึ้น

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-south-korean-companies-partner-rollout-ict-solutions-108041

รัฐบาลสปป.ลาว วางแผนที่จะรับสมัครข้าราชการใหม่ 2,000 คนในปีหน้า

รัฐบาลสปป.ลาว วางแผนที่จะรับสมัครข้าราชการใหม่ 2,000 คน ในปี 63 ตัวเลขนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ออกจากตำแหน่งในปี 62 โดยรองนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 4,000 คนที่จะเกษียณ รัฐต้องจัดทำแผนเพื่อให้มั่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะสนองความต้องการในอนาคตของประเทศ และได้เรียกประชุมสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเพื่ออนุมัติแผนของรัฐบาล ซึ่งได้เตรียมงบประมาณสำหรับจำนวนข้าราชการในปีหน้าแล้ว ปัจจุบันจำนวนข้าราชการอยู่ที่ประมาณ 184,000 คนคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของประชากรซึ่งเกินความจำเป็น  แม้ว่ารัฐบาลมีแผนที่จะรับสมัครข้าราชการจำนวนมากขึ้นในปีหน้า แต่ในอนาคตยังคงมีความตั้งใจที่จะลดจำนวนลง อย่างไรก็ตามกระทรวงกำลังดำเนินการเพื่อพิสูจน์ตัวเลขจริงโดยการออกบัตรประจำตัวเพื่อให้แน่ใจจำนวนคนที่ยังคงทำงานของรัฐบาล

ที่มา: http://vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_246.php

ความก้าวหน้าที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แม้จะมีความท้าทาย : DPM

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนกล่าวว่าเศรษฐกิจมหภาคอยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากการขาดดุลงบประมาณและธุรกรรมในต่างประเทศและการสำรองเงินตราต่างประเทศที่ต่ำซึ่งทำให้มูลค่าของกีปอ่อนค่าลงและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ความผันผวนของมูลค่าของสกุลเงินต่างประเทศ การควบคุมราคาสินค้าไม่เพียงพอการผลิตในประเทศที่เปราะบาง และภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับงบประมาณของรัฐโดยเฉพาะการระดมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ การดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมีความก้าวหน้าที่ดีในหลาย ๆ ด้าน แม้คาดว่า GDP อยู่ที่ 6.4% ในปี 62 ลดลง 0.3% ในปีนี้ภาคเกษตรคาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2.8 แผนกปศุสัตว์มีการเพิ่มขึ้น 4.3% ป่าไม้เพิ่มขึ้น 0.8 % การประมง 4.8% และการเพาะปลูก 2.3% การเพาะปลูกพืชสวนคาดว่าจะลดลง 0.7% ภาคอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 7.1% ภาคการก่อสร้างจะเติบโต 16.8% ภาคพลังงานอยู่ที่ 6.1% ภาคบริการมีการขยายตัว 7% ส่วนการค้าปลีกและค้าส่ง และการซ่อมแซมยานพาหนะจะเพิ่มขึ้น 19.9% ​​ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6.7% เงินทุนและประกันภัย 7.7% ที่พักและอาหาร 5.3%  และภาคภาษีและศุลกากรคาดว่าจะเติบโต 7%

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/good-progress-socio-economic-development-despite-challenges-says-dpm-107856

สปป.ลาวพยายามสร้างชีวิตของผู้ประสบอุทกภัยท่ามกลางข้อจำกัดด้านงบประมาณ

รัฐบาลประเมินว่าจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 3 ล้านล้านกีบในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมและเพื่อฟื้นฟูชุมชนที่ถูกน้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ ผลกระทบของภัยพิบัติเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับสปป.ลาวในการทำงานเพื่อขจัดความยากจนโดยที่หลายครอบครัวขาดที่อยู่อาศัยเนื่องจากน้ำท่วม โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนในการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายและการให้บริการแก่ผู้ประสบอุทกภัยเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ รัฐบาลให้การสนับสนุนทางการเงินอย่างจำกัด แต่ไม่เพียงพอสำหรับทุกกรณี น้ำท่วมได้ทำลายบ่อเลี้ยงปลาและระบบชลประทานที่เสียหายรวมถึงพื้นที่เพาะปลูก โรงเรียน สายไฟฟ้า โรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ จากรายงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพบว่าประชาชนประมาณ 765,000 คนใน 44 อำเภอใน 6 จังหวัดทางภาคใต้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นเดือนก.ย. และประชาชนเกือบ 195,000 คนต้องพลัดถิ่น

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-attempts-rebuild-flood-victims%E2%80%99-lives-amid-budget-constraints-107776