สปป.ลาวรับมอบวัคซีนโควิดครั้งแรกจากอังกฤษ

การส่งมอบวัคซีน AstraZeneca Covid-19 จำนวน 415,000 โด๊สครั้งแรกที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร (สหราชอาณาจักร) มอบให้สปป.ลาว ได้มาถึงนครเวียงจันทน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนความพยายามในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 การมาถึงของวัคซีน AstraZeneca ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักรนั้นเหมาะสมมาก เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากร 50 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ การส่งมอบครั้งนี้จะพาเราไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสปป.ลาวจะไม่รุนแรงแต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดการระบาดระลอกที่รุนแรง เพราะหากสปป.ลาวเผชิญกับวิกฤตเช่นนั้นจะทำให้ ระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจรับลกระทบอย่างรุนแรงจนนำมาสู่วิกฤตครั้งใหม่ของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_receives_149.php

วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน กว่า 1 ล้านโดส เดินทางถึงสปป.ลาวแล้ว

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มากกว่า 1 ล้านโดสที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้ มาถึงสปป.ลาวแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วัคซีนได้รับการบริจาคผ่าน COVAX Facility ซึ่งเป็นความร่วมมือที่นำโดย Coalition for Epidemic Preparedness Innovations (CEPI), Gavi, the Vaccine Alliance และองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมียูนิเซฟเป็นพันธมิตรในการจัดส่งที่สำคัญ การบริจาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนของสหรัฐฯ ในการยุติการแพร่ระบาดทั่วโลก และสนับสนุนเป้าหมายของสปป.ลาวในการฉีดวัคซีนให้ได้ 50% ของประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้วัคซีนที่ได้รับบริจาคจะฉีดให้กับประชาชนลาวทั้งหมด 1,030,461 คนในสปป.ลาวคิดเป็น 14% ของประชากรทั้งหมด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_More_138.php

‘กระทรวงการคลังเวียดนาม’ อัดฉีดเงิน 21.5 ล้านล้านดอง ใช้สู้โควิด-19

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2564 กระทรวงการคลัง ประกาศว่าเวียดนามใช้งบประมาณรวมกว่า 21.5 ล้านล้านดอง เพื่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และจำนวนเงินดังกล่าว มีการใช้เงิน 8.4 ล้านล้านดอง เพื่อซื้อวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในขณะเดียวกันมีการใช้เงิน 13.1 ล้านล้านดอง เพื่อบรรเทาและสนับสนุนทางการเงินให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามมติของรัฐบาลฉบับที่ 42 และฉบับที่ 154 ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้เสนอให้รัฐบาลจัดสรรเงิน 1,237 ล้านล้านดองจากกองทุนสำรองของรัฐ ปี 2564 เพื่อที่จะให้กระทรวงฯ จัดซื้อวัคซีนและดำเนินการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ขอให้ส่วนราชการและหน่วยงานท้องถิ่น ลดค่าใช้จ่ายลง 50% และรายจ่ายประจำอย่างน้อย 10% เพื่อที่จะนำเงินไปต่อสู้กับการระบาดโควิด-19

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/83203/finance-ministry-says-has-spent-vnd215-trillion-on-covid-19-fight.html

เชื่อนักลงทุนเข้าใจไทยล็อคดาวน์ดีกว่าปล่อยลากยาว

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน เผย มาตรการยกระดับควบคุมพื้นที่สูงสุด 10 จังหวัดที่เริ่มวันที่ 12 ก.ค. ของรัฐบาล เชื่อว่า จะกระทบระยะสั้นเท่านั้น และในสายตานักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์เป็นอย่างดี ซึ่งหากไทยยังปล่อยให้มีการแพร่ระบาดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากกว่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการด้านวัคซีนทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการจัดหา แผนการกระจาย ให้ถึงมือประชาชนและครอบคลุมจำนวนประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคู่ไปด้วย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/47803/

เอกชนเซ็งเลื่อนวัคซีนโควิด-19 ซ้ำเติมธุรกิจ หวั่นฉุดเศรษฐกิจฟื้นตัวช้านำไปสู่การปิดกิจการ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผย เอกชนมีความกังวลแผนการบริหารการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาครัฐที่เลื่อนออกไปพร้อมมูลข่าวสารต่างๆ ที่สร้างความสับสนให้ประชาชน จนอาจกระทบต่อเป้าหมายที่ต้องการฉีดให้ประชาชน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 70% ภายในสิ้นปีนี้ และการเปิดประเทศก็ยิ่งชะลอออกไปจะซ้ำเติมเอสเอ็มอี เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าก็อาจนำไปสู่การปิดกิจการในที่สุด ซึ่งขณะนี้เอกชนมีความกังวลการเลื่อนฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนม.33 บางส่วนออกไป ซึ่งเป็นแรงงานประมาณ 5-6 ล้านคน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6452820

สหรัฐฯ บริจาควัคซีน 500 ล้านโดสให้ 92 ประเทศรวมทั้งสปป.ลาว

สหรัฐฯ ประกาศจะซื้อและบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 500 ล้านโดสให้กับ 92 ประเทศ รวมทั้งสปป.ลาว ผ่านโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่แจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ไปยังประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง สหรัฐฯ จะจัดสรรและส่งมอบวัคซีนเหล่านี้ให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางทั่วโลก ปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศสปป.ลาวอาจไม่ได้รุนแรงจากผลของมาตรการที่เข้มงวดแต่ถึงอย่างไร รัฐบาลสปป.ลาวได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับโปรแกรมการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นอาวุธในการควบคุมการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ และทุกคนได้รับการสนับสนุนให้ฉีดวัคซีนเพื่อนำพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US_113.php

วัคซีนซิโนแวคจากจีนจะส่งถึงกัมพูชาอีก 5 แสนโดส

อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาเปิดเผยว่าวัคซีนชิโนแวคจากจีนจะเดินทางถึงกัมพูชาอีกจำนวน 500,000 โดส ในวันที่ 8 มิถุนายน 2021 รวมถึงรัฐบาลพร้อมที่จะแจกจ่ายกระจายเพื่อการบริหารจัดการการฉีดให้กับประชาชนภายในประเทศกัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ระบุในการบันทึกเสียงพิเศษเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2021 ว่าจะมีการส่งมอบวัคซีนซิโนแวครวมจำนวน 4.5 ล้านโดส มายังกัมพูชาภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังระบุเพิ่มเติมด้วยว่าก่อนสิ้นปี 2021 รัฐบาลมีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนราว 5 ถึง 6 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50869425/another-500000-doses-of-sinovac-vaccine-to-arrive-in-cambodia/

ความเชื่อมั่นนักลงทุน ร้อนแรง การฉีดวัคซีนเป็นปัจจัยหนุน

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน มิ.ย.64 ว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือเดือน ส.ค.64 อยู่ที่ 126.40 เพิ่ม 1.6% จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 124.37 โดยมีปัจจัยหนุน คือ การฉีดวัคซีน ความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการไหลเข้าของเงินทุน ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังยังเป็นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายดัชนีปีนี้ไว้ที่ 1,650 จุด แต่ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน และยุโรป จากการเปิดประเทศ ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ การจัดสรรและกระจายวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/investment/2110485

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเริ่มมองหาการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวทองคอนกล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวกำลังวางแผนสำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวระหว่างประเทศภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยจะเริ่มประเมินสถานภาพของภาคบริการด้านการท่องเที่ยวในทุกจุดหมายปลายทาง ร่วมกับการสร้างมาตรฐานการให้บริการการท่องเที่ยวภายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรวดเร็ว เพื่อรับรองความปลอดภัยและคุณภาพของแต่ละจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงจะทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดให้สามารถเดินทางมายังกัมพูชาได้ในฐานะนักท่องเที่ยว ร่วมถึงต้องเร่งทำการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานภาคบริการและประชาชนภายในประเทศให้ได้ครอบคลุมที่สุดเพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดและถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเดินทางมายังประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50860035/tourism-ministry-eyes-return-of-intl-tourists/

รัฐบาลสั่งให้เตรียมการสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ที่เลวร้ายลง

รัฐบาลสปป.ลาว ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและจัดทำแผนในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด -19 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศขอให้หน่วยงานป้องกันและควบคุมโควิด -19 ทุกระดับรวบรวมรายการทรัพยากรที่จำเป็นรวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ยาและเงินเพื่อใช้เป็นทุนในการยับยั้งการระบาด โดยรัฐบาลจะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และอาสาสมัครที่ทำงานในศูนย์บำบัดทุกแห่งเพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนชายแดนเพื่อป้องกันผู้ที่เดินทางเข้าสปป.ลาวโดยผิดกฎหมายเพราะอาจนำมาซึ่งการแพร่ระบาดที่ยับยั้งไม่ได้ ในการฉีดวัคซีน รัฐบาลอนุมัติให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีน เพื่อนำมาฉีดให้กับพนักงานของตนได้เพื่อเป็นอีกช่องทางในการเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_orders_79.php