การลงทุนที่จำเป็นสำหรับสปป.ลาวเพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการเกษตร

อุปสงค์ในระดับภูมิภาคสำหรับพืชผลและปศุสัตว์ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่สปป.ลาวไม่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่จะสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคได้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้เน้นย้ำความจำเป็นที่  สปป.ลาวจะต้องดึงดูดการลงทุนด้านการเกษตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดส่งออก หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญคือเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติการเกษตรแบบยังชีพด้วยวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมซึ่งไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ปัญหาอีกประการหนึ่งคือผลผลิตในฟาร์มคุณภาพต่ำและการกระจายตัวของห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งการรวมตัวกันของแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการทำฟาร์มเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และลดต้นทุน และเชื่อมโยงเกษตรกรและผู้ผลิตเข้ากับธุรกิจการเกษตรและโรงงานแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าส่งออก อีกทั้งสปป.ลาวยังมีศักยภาพสูงในการปลูกพืชอินทรีย์เพื่อการค้าเนื่องจากความต้องการอาหารที่สะอาดเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีความห่วงใยสุขภาพมากขึ้น

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/more-investment-needed-laos-reap-profits-agriculture-102737

การเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวยังคงพึ่งพาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

การเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวจะยังคงขับเคลื่อนโดยการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในระยะสั้นถึงระยะกลาง ในทางกลับกันการสนับสนุนของภาคเหมืองแร่คาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การเลื่อนการชำระหนี้ยังคงมีประสิทธิภาพ รัฐบาลสปป.ลาวมุ่งมั่นที่จะผลักดันความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทางรถไฟสายสปป.ลาว – จีน และทางด่วนสายเวียงจันทน์ – วังเวียง รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขยายตัวของภาคเอกชนมากขึ้น เป็นผลมาจากการขาดรายได้ของประเทศและความตึงเครียดด้านงบประมาณ การลงทุนจะเน้นไปที่การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการที่ดำเนินอยู่และการชำระคืนหนี้เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของประเทศ ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าการเติบโตจะฟื้นตัวเป็น 6.5% ในปี 62 เพิ่มขึ้น 6.3% ในปี 61

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-growth-remains-reliant-infrastructure-development-102626

บริษัทสปป.ลาวต้องการการควบคุมการนำเข้าที่ผิดกฎหมาย

ธุรกิจสปป.ลาวจำนวนมากที่ผลิตสินค้าสำหรับตลาดในประเทศเสียเปรียบเพราะไม่มีการควบคุมการไหลเข้าของสินค้านำเข้าที่ผิดกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่นำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมาย แม้รัฐบาลมีนโยบายและกฎหมายในการปกป้องจากการค้าที่ผิดกฎหมายแต่การบังคับใช้กฎหมายนี้อ่อนแอ เพื่อให้บริษัทสปป.ลาวสามารถผลิตสินค้าสำหรับตลาดในประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องจัดการกับการค้าที่ผิดกฎหมายเพื่อบังคับให้ผู้นำเข้าจ่ายภาษี นอกจากการปราบปรามการค้าข้ามพรมแดนที่ผิดกฎหมายแล้ว รัฐบาลควรใช้มาตรการที่สำคัญเพื่อส่งเสริมธุรกิจ ผลิตสินค้าสำหรับตลาดในประเทศ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถผลิตสินค้าในราคาที่แข่งขันได้ จากการสำรวจของธนาคารโลกหนึ่งในความท้าทายที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเผชิญคือการเข้าถึงการเงิน ผู้ประกอบการหลายคนกล่าวว่าประเด็นที่เร่งด่วนที่สุดที่รัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มผลผลิตคือการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยเฉพาะกฎหมายหนึ่งฉบับระบุถึงอาชีพบางประเภทที่สงวนไว้สำหรับคนสปป.ลาว และหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมธุรกิจที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ได้อย่างน้อยก็ควรจดทะเบียนและถูกบังคับให้จ่ายภาษีเต็มจำนวนเพื่อให้สปป.ลาวและผู้ประกอบการต่างชาติสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-firms-demand-regulation-illegal-imports-102623

World Bank: การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสปป.ลาวในปัจจุบันยังคงสูง

ตามรายงานล่าสุดจากธนาคารโลกการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปัจจุบันของสปป.ลาว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% ในปีนี้เนื่องจากการนำเข้าคาดว่าจะเติบโตได้เร็วกว่าการส่งออก การขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการการนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตามรายงานของรัฐบาลคาดว่ามูลค่าการนำเข้าจะสูงถึง 5.77 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้และคาดว่ามูลค่าการส่งออกจะสูงถึง 5.51 พันล้านดอลลาร์ โดยดุลการค้าขาดดุล 259 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญสำหรับสปป.ลาวคือการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการแปรรูป เพื่อการส่งออกและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้สกุลเงินต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/world-bank-lao-current-account-deficit-remains-high

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว สั่งระงับโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติก

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าจะไม่ออกใบอนุญาตปฏิบัติการให้กับโรงงานผลิตที่ใช้ขยะพลาสติกเป็นวัตถุดิบอีกต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานในอุตสาหกรรมการแปรรูป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ลงนามในคำสั่งรัฐมนตรีให้อำนาจเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมทั่วประเทศเพื่อหยุดการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้กับโรงงานผลิตเหล่านี้ชั่วคราว โรงงานที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับคำเตือนและได้รับคำแนะนำให้ปรับปรุงกระบวนการผลิต ธุรกิจที่ล้มเหลวในการปรับปรุงวิธีการดำเนินการตามมาตรฐานอุตสาหกรรมจะถูกสั่งให้ปิดกิจการ ธุรกิจที่มีใบรับรองการลงทะเบียน, ใบกับกับภาษี, ใบอนุญาตการลงทุนและใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานแล้วสามารถสร้างโรงงานผลิตต่อไปได้ แต่ไม่สามารถเข้าสู่การผลิตได้จนกว่าจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ บริษัทที่ได้รับอนุญาตการลงทุน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างโรงงานให้ระงับการดำเนินงานจนกว่าจะมีการออกประกาศใหม่ โรงงานผลิตที่ไม่มีเอกสารทางกฎหมายที่เหมาะสมจะให้หยุดการดำเนินการทันที

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/industry-ministry-orders-suspension-plastic-waste-recycling-plants-102439

รถโดยสารประจำทางจากนครหลวงเวียงจันทน์สู่การจ่ายแบบไร้เงินสด

Vientiane Capital State Bus Enterprise (VSCBE) ซึ่งให้บริการรถโดยสารนครหลวงเวียงจันทน์กำลังใช้ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เงินสดสำหรับบางเส้นทางในเมืองหลวง ผู้ที่เดินทางสายสนามบิน และสาย ITECC สามารถชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางผ่านบริการ LDB trust ระบบชำระเงินรหัส QR ที่พัฒนาโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาสปป.ลาว นอกจากนี้ยังสามารถชำระเงินด้วย VISA, MasterCard, UnionPay และ JCB ตามรูปภาพของบริการที่เปิดเผยโดย Japan International Cooperation Agency (JICA) Laos หากประสบความสำเร็จธนาคารอื่น ๆ จะเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเพื่อให้บริการการชำระเงินแบบไร้เงินสดสำหรับผู้ใช้รถบัส JICA ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง เพิ่มขีดความสามารถของ VSCBE รวมถึงเพื่อส่งเสริมการเป็นรถโดยสารสาธารณะในเวียงจันทน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงระบบการจัดการของบริษัท บริการการดำเนินงานรถบัสและนโยบายการขนส่งในการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2019/08/22/vientiane-city-bus-moves-toward-cashless-payment/