สปป.ลาว กำหนดให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือลงทะเบียนเบอร์ ภายในกลางเดือนธันวาคม 2566

สปป.ลาว กำหนดให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด 6.45 ล้านคน ของประเทศลงทะเบียนหมายเลขของตนภายในวันที่ 16 ธ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สปป.ลาว กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ไม่ลงทะเบียนหมายเลขของตนจะไม่สามารถโทรออกได้หลังหมดเขตกำหนดเวลา หมายความว่าหมายเลขดังกล่าวจะถูกตัดโดยสิ้นเชิง” ทั้งนี้ กฎนี้สร้างขึ้นโดยอ้างถึงการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์และเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล บางคนยินดีทำตามประกาศดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางในการปราบปรามอาชญากรและกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่หลายคนเห็นว่ามันเป็นการลุกล้ำความเป็นส่วนตัว และเป็นอีกวิธีหนึ่งในการยับยั้งความขัดแย้งในประเทศพรรคเดียว

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/registration-11282023143213.html

อัตราเงินเฟ้อของลาวลดลงเล็กน้อยเป็น 25.24% ในเดือนพฤศจิกายน

สำนักงานสถิติ สปป.ลาว ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อของลาวในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ร้อยละ 25.24 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 25.8 ในเดือนตุลาคม เงินกีบที่อ่อนค่าถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อในช่วงนี้ จากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายน พบว่า ราคาสินค้าในหมวดโรงแรมและร้านอาหาร อยู่ร้อยละ 35.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ราคาอาหารปรุงสุก เช่น ปลาย่าง ยำเนื้อรสเผ็ด และก๋วยเตี๋ยว รวมถึงราคาเบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ผลักดันราคาสินค้าหมวดนี้ หมวดอื่นๆ ที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อ ได้แก่ หมวดเสื้อผ้าและรองเท้า ร้อยละ 31.8 หมวดเครื่องมือทางการแพทย์และยา ร้อยละ 26.5 หมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 26.4 หมวดของใช้ในครัวเรือน ร้อยละ 25.3  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และหมวดยาสูบ ร้อยละ 24.5 ส่วนหมวดการสื่อสารและการขนส่ง ร้อยละ 22.1 ต้นทุนสินค้าและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดที่ร้อยละ 41.26 ในเดือนกุมภาพันธ์ ปัจจัยบวกประการหนึ่ง คือ การที่ สปป.ลาว เกินดุลการค้ามากกว่า 943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 โดยมีการส่งออกมากกว่า 5.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 5.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.news.cn/20231128/386e00e66b6145809ca4526bc42744fb/c.html

เลขาธิการอาเซียนจะเดินทางเยือน สปป.ลาว เพื่อเตรียมพร้อมรับตำแหน่งประธานอาเซียนปีหน้า

ดร.เกา คิม เลขาธิการอาเซียน จะเดินทางเยือน สปป.ลาวเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2567 ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว โดยจะนำคณะผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสามเสาหลักประชาคมเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของ สปป.ลาว คณะผู้แทนจะพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี โสเนกชัย สีพันโดน รวมทั้งรัฐมนตรีคนสำคัญอื่นๆ ที่รับผิดชอบประเด็นข้ามเสาหลัก การประชุมนี้มีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทของสำนักเลขาธิการอาเซียนในการสนับสนุนการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของ สปป.ลาว ที่กำลังจะมีขึ้น ภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างการเชื่อมต่อและความยืดหยุ่น” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวียงจันทน์ได้เปิดเผยโลโก้อย่างเป็นทางการและธีมของตำแหน่งประธานอาเซียนที่จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งแรกในวันที่ 28-29 มกราคม 2567 ที่เมืองหลวงพระบาง โดยจะจัดการประชุมอาเซียนครั้งแรก และจะเป็นการประชุมครั้งแรกจากหลายร้อยการประชุมที่จะตามมาตลอดปี 2567 หลังจากที่ประธานอาเซียนคนใหม่เริ่มแผนปฏิบัติการและผลงาน

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/asean-chief-visits-laos-this-week/

สปป.ลาว ลุยโครงการนำร่องทำเหมืองแร่หายาก เพื่อหาเงินต่างประเทศ

รัฐบาล สปป.ลาว กำลังพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อร่างกฎหมายที่จำเป็นสำหรับควบคุมโครงการนำร่องทำเหมืองแร่หายากที่วางแผนไว้ เนื่องจากแร่ธาตุหายากเป็นที่ทั่วโลกต้องการ รัฐบาล สปป.ลาว ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องวางแผนเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการขุดแร่ดังกล่าว โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้จัดการปัญหาเร่งด่วนและบังคับใช้มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ มาตรการที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ปรับปรุงระบบการจัดเก็บรายได้ให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มรายได้ประชาชาติ และเพิ่มการส่งออก นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังพยายามให้แน่ใจว่าเม็ดเงินการส่งออกจะได้รับการชำระผ่านระบบธนาคารในประเทศลาวเพื่อให้เงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลย้ำถึงความจำเป็นในการจำกัดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่สามารถผลิตหรือผลิตในประเทศ ภาครัฐได้รับคำสั่งให้ยกเลิกกฎเกณฑ์เดิมๆ และปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศลาวมากขึ้น อีกทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบจำเป็นต้องตรวจสอบโครงการลงทุนเหมืองแร่ที่ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากนักลงทุนบางรายได้รับสัมปทานสำหรับดำเนินกิจการเหมืองแร่แต่ไม่ได้ดำเนินการลงทุนใดๆ และตอนนี้กำลังวางแผนที่จะขายสัมปปทานให้กับนักลงทุนรายอื่น

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40033252

 

รัฐบาล สปป.ลาว และองค์กรพันธมิตรเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมสุดยอดทุนมนุษย์ครั้งที่สอง

รัฐบาล สปป.ลาว และองค์กรพันธมิตรเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมสุดยอดทุนมนุษย์ครั้งที่สองในปีหน้า เน้นประเด็นสำคัญด้านโภชนาการ การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประชุมของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน โดยผู้เข้าร่วมได้รับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขที่แสดงให้เห็นว่าภาวะโภชนาการของเด็กชาวลาวลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ทุนมนุษย์ซึ่งประกอบด้วยความรู้ ทักษะ และสุขภาพที่จำเป็นในการเพิ่มผลผลิตของชาติ เป็นรูปแบบทุนที่สำคัญที่สุดสำหรับการเติบโตของสังคมในปัจจุบัน สปป.ลาวยังพัฒนาทุนมนุษย์ไม่เพียงพอที่จะก้าวทันประเทศอื่นๆ โดยปัญหาด้านโภชนาการเป็นจุดที่มีความอ่อนแอเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ประมาณร้อยละ 33 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ใน สปป.ลาว มีความสูงต่ำกว่าระดับปกติตามอายุ ในขณะที่ร้อยละ 21 มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ และร้อยละ 9 สูญเสียน้ำหนัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของภาวะโภชนาการไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนจนและกลุ่มชาติพันธุ์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบทและบนที่สูง ตามการระบุของธนาคารโลก จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาล สปป.ลาว มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน การทำให้เด็กทุกคนได้เข้าเรียนในโรงเรียน และปรับปรุงงบประมาณด้านการศึกษา โดยการประชุมดังกล่าวนี้ จะช่วยดึงความสนใจของสาธารณชนในเรื่องการขาดการศึกษา และการประชุมสมัชชาแห่งชาติที่เพิ่งเสร็จสิ้นได้อภิปรายโดยละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาและเงินทุน หวังว่าการประชุมสุดยอดครั้งที่สองจะมีผลเช่นเดียวกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_230SecondLao_23.php

สปป.ลาว จัดงานเปิดตัวแคมเปญ Visit Laos 2024 อย่างเป็นทางการ

สปป.ลาว จัดงานเปิดตัวแคมเปญ Visit Laos 2024 อย่างเป็นทางการที่ลานพระธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีบุคคลสำคัญในรัฐบาล เอกอัครราชทูตต่างประเทศ และสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมงาน โดยนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวเปิดงาน “นี่เป็นปีแห่งการมาเยือนลาว ตั้งแต่ปี 1999 ที่ลาวได้ตั้งชื่อปีแห่งการมาเยือนลาว” โครงการในปีนี้ใช้ธีม “สวรรค์แห่งวัฒนธรรม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์” โดยมีโลโก้ช้างถือแคนเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง รัฐบาลมองว่าการเยือนลาวเป็นงานที่สำคัญและมีความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยนายกฯ ได้กล่าวเพิ่มเติม “ข้าพเจ้าขอเชิญชวนให้พรรคและรัฐทั้งกองทัพ ผู้ประกอบการ และประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศลาวร่วมมือกันจัดงาน Visit Laos 2024 โดยให้ความช่วยเหลือและให้บริการแก่ผู้มาเยือนจากทั่วโลกด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น นี่เป็นโอกาสในการแสดงวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมาอย่างยาวนานของลาวให้โลกได้รับรู้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้มาเยือน และกระตุ้นให้พวกเขากลับมาเยือนลาวอีกในอนาคต”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_230VisitLaos_23.php