กรีซนำเข้าปลาทูน่าพุ่งสูงขึ้นจากเวียดนาม

จากรายงานของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกปลาทูน่าไปยังประเทศกรีซ ด้วยมูลค่าราว 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสมาคมฯ มองว่าสถานการณ์การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปนั้นลดลง แต่ทางด้านตลาดกรีซกลับมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกปลาทูน่าแปรรูปกระป๋องของเวียดนามไปยังสหภาพยุโรป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94 ของมูลค่าส่งออกปลาทูน่าไปยังตลาดโลก อีกทั้ง กลุ่มผู้บริโภคชาวกรีซนิยมทานปลาทูน่ากระป๋องจากอิตาลี อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ความต้องการสินค้าคุณภาพสูงลดลง เป็นผลมาจากการปรับขึ้นราคาสินค้า ดังนั้น กรีซจึงต้องนำเข้าปลาทูน่ากระป๋องจากกลุ่มประเทศในแถบเอเชียเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และตุรกี ซึ่งกลุ่มประเทศดังกล่าว ล้วนเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/greece-increases-imports-of-vietnamese-tuna/160255.vnp

เวียดนามเผยยอดเกินดุลการค้าพุ่งสูงขึ้น จากการส่งออกโทรศัพท์ซัมซุง ในเดือนสิงหาคม

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 3.435 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทางด้านการส่งออกมีมูลค่าสูงถึง 25.885 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ในขณะที่ มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 22.450 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.1 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามในเดือนสิงหาคม ได้แก่ โทรศัพท์ เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก้ เครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น อีกทั้ง โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและชิ้นส่วนในเวียดนามที่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทซัมซุง (Samsung Electronics) เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติในเดือนสิงหาคม ระบุว่าเวียดนามมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในขณะที่ เวียดนามขาดดุลการค้ากับจีน ด้วยสินค้าประเภทวัสดุในการใช้สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเป็นหลัก

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20190911/vietnam-august-trade-surplus-jumps-on-samsung-phone-shipments/51241.html

กระทรวงฯ สอบสวนการทุ่มตลาดสินค้านำเข้าเหล็กแผ่นรีดเย็นของจีน

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าทางกระทรวงฯ ทำการสอบสวนกรณีการทุ่มตลาดของสินค้านำเข้าเหล็กแผ่นรีดเย็นจากประเทศจีน โดยทำการสอบสวนจากข้อเรียกร้องของผู้ผลิตในประเทศ ได้แก่ บริษัท Phu My Flat Steel Company Limited (VNSTEEL), POSCO Vietnam Co., Ltd. และ China Steel Sumikin Vietnam JSC ซึ่งบริษัทดังกล่าวอ้างว่าสินค้านำเข้าเหล็กแผ่นรีดเย็นจากประเทศจีน ทำการกดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าตลาดเวียดนาม ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ได้ทำการหารือ และตรวจสอบจากทุกฝ่ายให้ได้ผลข้อสรุปก่อน ที่จะตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ในขณะที่ หน่วยงานอาจดำเนินการเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดย้อนหลังได้ ภายในระยะเวลา 90 วัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ministry-investigates-dumping-of-chinese-coldrolled-steel/160190.vnp

เซ็นทรัลไฮแลนด์ เปิดตัวศูนย์โรงงานแปรรูปผักผลไม้ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

จากคำแถลงการณ์ของประธานคณะกรรมการบริษัท Dong Giao Foodstuff Export JSC เปิดเผยว่าศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะช่วยด้านการปรับปรุง และควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งโรงงานดังกล่าวประกอบไปด้วยสายการผลิตอัตโนมัติ โดยหนึ่งในสายการผลิต จะสามารถผลิตน้ำผลไม้อยู่ที่ 20,000 ตันต่อปี ตามมาด้วยผักผลไม้แช่แข็ง 22,000 ตันต่อปี และผักผลไม้กระป๋อง 10,000 ตันต่อปี เป็นต้น รวมไปขนาดของโรงงานถูกออกแบบให้สามารถผลิตสินค้าได้มากถึง 52,000 ตันต่อปี และครอบคลุมพื้นที่กว่า 6 เฮกตาร์ ในขณะที่ ศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะสามารถสร้างรายได้กว่า 86.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และช่วยให้คนในพื้นที่มีงานทำอีกหลายหมื่นคนในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้า และการบริการ เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรกรรมและพัฒนาชนบท ระบุว่า ศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำฟาร์มผักผลไม้ให้ดีมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับทั้งภาคธุรกิจและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนสินค้าเกษตร

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/535191/central-highlands-launches-the-largest-fruit-vegetable-processing-centre.html#UqzY7GvJQp3zqrJk.97

กระทรวงฯส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในเวียดนาม

กระทรวงการท่องเที่ยวส่งเสริมให้ประเทศกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว โดยระหว่างงาน International Travel Expo ครั้งที่ 15 ณ นครโฮจิมินห์ของเวียดนามได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภายใต้สโลแกน “สองมณฑลหนึ่งปลายทาง” ซึ่งกัมพูชาและเวียดนามได้ตกลงร่วมมือกันในการท่องเที่ยวทางทะเลเมื่อท่าเรือใหม่ในจังหวัดกัมปอตเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยกัมพูชาตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปีละ 1 ล้านคนขณะที่เวียดนามคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาอยู่ที่ 5 แสนคน ซึ่งต้องการสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่และพัฒนาจุดหมายปลายทางที่มีอยู่เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 8 แสนคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641198/ministry-promotes-kingdoms-tourism-market-in-vietnam/

เวียดนามจัดการประชุมส่งเสริมทางการค้ากับตลาดในแอฟริกาตะวันออก

จากการประชุมของหน่วยงานกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม และคณะเอกอัครราชทูตแอฟริกาตะวันออก ณ นครฮานอย โดยวัตถุประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ คือ ส่งเสริมทางการค้าระหว่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งประเทศในทวีปแอฟริกาถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชาชนกว่า 1.6 พันล้านคน และมีความพร้อมในด้านเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่มีศักยภาพทั้งด้านการค้าและการลงทุน ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงเน้นการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกว่า 70 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก หากประเมินสถิติทางการค้าของทั้ง 2 ภูมิภาค พบว่า ในปี 2561 มีมูลค่าการค้าขยายตัวมากกว่า 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากตัวเลขดังกล่าว มีการเติบโตกว่าร้อยละ 300 เมื่อเทียบกับปี 2551 นอกจากนี้ การประชุมในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรของภาครัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินการเปิดโมเดลใหม่ทางด้านเกษตรกรรม และโทรคมนาคม เป็นต้น และอีกปัจจัยหนึ่งที่เวียดนามต้องการทำธุรกิจในภูมิภาคแอฟริกา เนื่องมาจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของเวียดนามกับตลาดดั้งเดิม กำลังเข้าใกล้ช่วงอิ่มตัว ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงต้องหาโอกาสในการค้ากับตลาดใหม่ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/conference-held-to-tap-potential-market-of-middle-eastafrica/160127.vnp

เวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก มียอดการค้าเพิ่มขึ้น 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 62

จากรายงานสถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศเวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก อยู่ที่ 591.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาธารณรัฐเช็กมีการนำเข้ากว่า 557.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.96 ในขณะที่ มูลค่าการส่งออกไปยังเวียดนามอยู่ที่ 33.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 30.33 ซึ่งภายในปี 2562 คาดว่าการค้าระหว่างสองประเทศ มีมูลค่าสูงถึง 1.182 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าสาธารณรัฐเช็กจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.93 ในขณะที่ ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ สินค้าสำคัญที่สหภาพยุโรปนำเข้าจากเวียดนาม ได้แก่ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับทางด้านเกษตรกรรม-ป่าไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ จากข้อมูลสำนักงานสถิติศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น ได้แก่ เยอรมัน (3.43%), ฮังการี (7.94%), เดนมาร์ก (4.74%), เอสโตเนีย (16.17%) และเนเธอร์แลนด์ (8.97%) เป็นต้น

ที่มา :  https://en.vietnamplus.vn/vietnamczech-republic-trade-up-56-percent-in-first-half/160131.vnp