เวียดนามส่งออกเหล็กกล้า 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามอยู่ที่ 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม หากดูภาพรวมของการค้าเหล็กกล้าของเวียดนาม พบว่ามูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลกอยู่ที่ 378.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าโดยรวมของเวียดนาม ตามมาด้วยญี่ปุ่น อินเดีย ไทย และเกาหลีใต้ ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เวียดนามส่งออกเหล็กกล้าไปยังเมียนมาลดลงอย่างมาก 33.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 49.53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7884802-vietnam%E2%80%99s-steel-exports-bring-in-us$1-93-billion-in-first-seven-months.html

เวียดนามเผยมีการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพพุ่งสูงขึ้น 48%

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามอยู่ที่ 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม รองลงมาสิงคโปร และญี่ปุ่น ตามลำดับ เวียดนามเล็งเห็นการขยายตัวของโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น และคาดว่าในปีนี้ กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 50-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจเวียดนามแตะระดับ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไม่อีกกี่ปีข้างหน้า มูลค่าของธุรกิจเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต่างชาติสนใจลงทุนในเวียดนาม เนื่องมาจากโครงสร้างของเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่ในช่วงก่อตัวอย่างแข็งแกร่ง และประชากรเวียดนามมีปริมาณการใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนในเวียดนามอยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จ่อีกกี่ปีข้างหน้า อาตตะระดับ 500 ล้านดอลลารเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ที่มา :   https://e.vnexpress.net/news/business/data-speaks/investment-in-startups-up-48-pct-3977006.html  

จังหวัดด่งนายเกินดุลการค้า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนของปี 2562

จากข้อมูลของสำนักสถิติเวียดนาม เปิดเผยว่านครด่งนายเกินดุลการค้า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 โดยมูลค่าการส่งออก 12.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 10.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ส่งผลให้นครด่งนายเกินดุลการค้า ซึ่งคณะกรรมการประชาชนเวียดนาม ระบุว่าการขยายตัวของการส่งออกในจังหวัด มีอัตราการขยายตัวลดลง เป็นผลมาจากการส่งออกของสินค้าเกษตรในท้องถิ่นลดลง ได้แก่ มะม่วงหิมพานต์ พริกไทย กาแฟ และยางพารา เป็นต้น นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของนครด่งนาย รองลงมาญี่ปุ่น และจีน ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน นครด่งนายนำเข้าสินค้าสำคัญจากเกาหลีใต้ จีน และไต้หวัน เช่น อาหารสัตว์ ข้าวโพด พลาสติก เป็นต้น

ที่มา :   https://en.vietnamplus.vn/dong-nai-sees-21billionusd-trade-surplus-in-eight-months/159927.vnp

เวียดนามเผยยอดการค้ารวมเพิ่มขึ้น 7.3% ในช่วง 8 เดือนแรก

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีมูลค่าการค้ารวม 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และชิ้นส่วน เป็นต้น ซึ่งทำให้เวียดนามเกินดุลการค้าอยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม ในขณะที่ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าเวียดนามรายใหญ่ที่สุดด้วยมูลค่า 38.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 yoy รองลงมาสหภาพยุโรป จีน และอาเซียน นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าผู้ประกอบการควรคำนึงถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า (Origin of goods) เพื่อจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-export-turnover-up-73-percent-in-eight-months/159828.vnp

เวียดนามเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 11.5% ในเดือนม.ค. – ส.ค.

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ยอดค้าปลีกของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าของรายได้จากการค้าปลีกและบริการประมาณ 137.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความต้องการซื้อของคนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น หากมีการปรับปัจจัยด้านราคา ดัชนียอดค้าปลีกในช่วง 7 เดือนแรก  เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.03 ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ ทุกภาคส่วนของยอดค้าปลีก ระบุว่าด้านกำลังซื้อเพื่อการศึกษา และผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รองลงมากลุ่มอาหาร (เพิ่มขึ้น 13.6%) ของครัวเรือน (11%) เครื่องนุ่งห่ม (10.5%) และการขนส่ง (8.5%) นอกจากนี้ จากข้อมูลของสถาบันวิจัยการตลาด คาดว่าตลาดค้าปลีก/ร้านสะดวกซื้อของเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตกว่า 2 เท่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า และอัตราการขยายตัวร้อยละ 37.4 ในปี 2021 รวมไปถึงสำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ระบุว่าภาคการค้าปลีก/ค้าส่ง ติดอยู่ในอันดับที่ 3 ของภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับการดึงดูดจากการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-sales-up-115-percent-in-januaryaugust/159849.vnp

เวียดนามนำเข้ายานยนต์ลดลงในเดือนสิงหาคม

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม เวียดนามนำเข้ารถยนต์ราว 9,000 คัน ซึ่งในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา การนำเข้ารถยนต์โดยเฉลี่ยลดลงอยู่ที่ 12,500 คัน คิดเป็นมูลค่า 174 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สาเหตุที่เวียดนามนำเข้ารถยนต์ลดลงในเดือนสิงหาคม เป็นผลมาจากอยู่ในช่วงเดือนสาร์ทจีน (Ghost Month) ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าใหม่ เพราะจะนำโชคร้ายมาให้ ในขณะที่ เมื่อปีที่แล้ว เผยว่าเวียดนามนำเข้ารถยนต์ 72,650 คัน ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่มูลค่าอยู่ในระดับที่เกินกว่า 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21 ตามข้อมูลของกรมศุลกากร นอกจากนี้ ทางรัฐบาลได้ออกกฎหมาย เพื่อให้ผู้นำเข้าต้องเตรียมเอกสารทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้ามีคุณภาพ และอยู่ในแหล่งกำเนิดสินค้า ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/car-imports-plummet-in-august-3975502.html

Forbes Asia เผยรายชื่อบริษัทเวียดนาม 7 แห่ง ติดอันดับ 200 บริษัทที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นิตยสาร Forbes จัดอันดับบริษัท Vingroup (VIC) และบริษัท Mobile World Investment Corporation (MWG) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเวียดนามที่ได้รับการจัดอันดับโดย Forbes “Best Over A billion” ซึ่งมีผลการดำเนินธุรกิจที่ดีเยี่ยมกว่า 200 บริษัท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมีมูลค่ามากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนอีก 5 บริษัทเวียดนาม ได้แก่ Vietjet Aviation JSC, Vietnam Dairy Products JSC, Masam Group, Saigon Beer-Alchol-Beverage Corporation และ Vietnam Technological & Commercial Joint Stock Bank ซึ่งบริษัท Vingroup เป็นบริษัทเอกชนใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ทั้งในด้านรายได้ และมูลค่าตามราคาตลาดมากถึง 5.295 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา: https://en.nhandan.com.vn/business/item/7877302-seven-vietnamese-firms-among-forbes-asia%E2%80%99s-200-best-over-a-billion-list.html