นครด่งนายก้าวหน้าในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

จังหวัดทางตอนใต้ของจังหวัดด่งนายเวียดนามกำลังดำเนินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และปฏิรูปการบริหาร เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยจากรายงานของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน ระบุว่า ในจังหวัดด่งนายมีจำนวนเขตอุตสาหกรรม (Industrial Parks : IPs) อยู่ที่ 35 แห่ง รวมไปถึง มีโครงการลงทุนจากต่างชาติ 1,804 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเวียดนามให้ความสำคัญกับโครงการเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ยอมรับกับการใช้แรงงานเข็มข้นสูง ด้วยเทคโนโลยีระดับต่ำ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนจากต่างชาติตลอดทั้งปีนี้ จะแตะระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/dong-nai-works-to-create-breakthrough-in-fdi-attraction/158279.vnp

เวียดนามถือเป็นจุดมุ่งหมายในทำธุรกิจของนักลงทุนชาวออสเตรเลีย

เวียดนามเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ ด้วยแรงงานถูก จำนวนประชากรในวัยรุ่นมีจำนวนมาก มีการศึกษาอยู่ในระดับสูง และนโยบายรัฐบาลที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ โดยบทความทางด้านการเงินของออสเตรเลีย ระบุว่ากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวออสเตรเลีย ทั้งด้านการท่องเที่ยวและโอกาสในการทำธุรกิจ เป็นต้น หากยกตัวอย่างธุรกิจออสเตรเลีย “SunRice Group” ได้เข้ามาซื้อโรงงานแปรรูป/โรงงานบดวัตถุดิบ ในปีที่แล้ว และได้จัดตั้งโปรแกรมปรับปรุงพันธ์พืช รวมทั้งร่วมมือกับชาวเกษตรท้องถิ่น เพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ จากสถิติของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนของออสเตรเลียไปยังเวียดนามมากกว่า 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/524365/viet-nam-emerges-as-attractive-destination-for-australian-investors.html#rjCe58aCupjXdZSE.97

เวียดนามเผยการค้ารวมแตะ 311 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรก มูลค่าการค้ารวมของเวียดนามคาดว่าอยู่ที่ 311 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเกินดุลการค้ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบ, คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบ นับว่าสินค้าดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในบรรดาสินค้าส่งออกรวมของเวียดนาม ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถือว่ามีมูลค่าการนำเข้าสูงที่สุดของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ประมาณ 154.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7832402-vietnam%E2%80%99s-import-export-revenue-hits-us$311-billion-in-eight-months.html

เวียดนามเผยการส่งออกกุ้งฟื้นตัว ในเดือนกรกฎาคม

จากรายงานของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลกลับมาฟื้นตัวเป็นบวก เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการส่งออกกุ้ง ยกเว้นปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ โดยในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกอาหารทะเลอยู่ที่ 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ สถานการณ์การส่งออกกุ้งเริ่มกลับมาฟื้นตัวในเดือนกรกฎาคม หลังจากลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนแรกของปีนี้ โดยในเดือนกรกฎาคม การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่ากว่า 334 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ซึ่งตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 รองลงมาจีน (48%) ,ออสเตรเลีย (56%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ สำหรับประเทศจีนเริ่มมีการเข้มงวดทางการค้าและการควบคุมมาตรฐานความปลอดดภัยอาหาร เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/524298/shrimp-exports-recover-in-july.html#lTqBZcrMk35uvisI.97

เวียดนามเผยการส่งออกผักและผลไม้ไปจีนลดลง ในช่วงกรกฎาคม

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมของปีนี้ เวียดนามส่งออกผักและผลไม้ไปยังจีนอยู่ที่ 144.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 44.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการลดลงอย่างมาก โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดผักและผลไม้ของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการส่งออกของเวียดนาม ในขณะที่ ตลาดนำเข้าอย่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ลดลงเช่นเดียวกัน แต่สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าผักและผลไม้รายใหญ่อันดับที่สองของเวียดนามที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 ตามมาด้วยเกาหลีใต้ (13%) และญี่ปุ่น (25.9%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ ทั้งนี้ สมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (VinaFruit) ระบุว่าสถานการณ์การส่งออกผักและผลไม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน ได้แก่ สถานการณ์ของสงครามการค้าที่ไม่แน่นอน และกฎระเบียบที่เข็มงวดของจีน เป็นต้น

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/fruit-and-vegetable-exports-to-china-plummet-in-july-3970376.html

ผู้ประกอบการจีนเข้ามาลงทุนโรงงานกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจังหวัดทัญฮว้า

จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด (Provincial People’s Committee) เปิดเผยว่าบริษัทเหล็ก Mintal Group มีความประสงค์ที่จะสร้างโรงงานเฟอร์โรคอน (Ferocrom) และสแตนเลสสตีล รวมไปถึงโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ในเขตเศรษฐกิจ Nghi Son โดยบริษัทจะดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยในเฟสแรก จะลงทุนสร้างโรงงานเฟอร์โรคอน (Ferocrom) ด้วยกำลังการผลิต 1.5 ล้านตันต่อปี และในช่วงเฟสสอง จะก่อสร้างโรงงานสแตนเลสสตีลและโรงงานโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ด้วยกำลังการผลิต 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งจากการประชุมระหว่างคณะกรรมการฯ และตัวแทนบริษัทจีน พบว่าทางคณะกรรมการประจำจังหวัด สั่งให้คณะกรรมการของเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวให้ออกสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง และเตรียมเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวจะต้องพัฒนาในด้านเทคโนโลยีในจังหวัด และสร้างผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมไปถึงปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/chinese-firm-to-invest-in-2-billion-usd-factory-in-thanh-hoa/158106.vnp

ก.ค.62 เวียดนามนำเข้าปิโตรเลียมมากขึ้น

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมของปีนี้ เวียดนามนำเข้าปิโตรเลียมมากกว่า 1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 633.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 99 และร้อยละ 107 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการนำเข้าปิโตรเลียมอยู่ที่ 3.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตลาดนำเข้าส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/524213/vn-imports-more-petroleum-in-july.html#FWub38DjdKQQz4o4.97

7 เดือนแรกของปี 62 นครโฮจิมินห์ดึงเงินลงทุนต่างประเทศกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 นครโฮจิมินห์สามารถดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศมากกว่า 3.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวนเงินทุนกว่า 688.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากการ โครงการจดทะเบียนใหม่ 678 โครงการ ในขณะที่ นครโฮจิมินห์ได้อนุมัติธุรกิจจดทะเบียนใหม่ในประเทศกว่า 24,529 แห่ง คิด เป็นมูลค่ามากกว่า 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคณะกรรมการค้าและการลงทุนดำเนินการส่งเสริมการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเมือง และส่งเสริมมูลค่าสินค้าแปรรูปเพื่อการส่งออกมากยิ่งขึ้น โดยประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจต่อการค้าและการลงทุนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการจะยกระดับในการส่งเสริมการค้าไปยังความร่วมมือระหว่างนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hcm-city-lures-over-36-billion-usd-of-fdi-in-7-months/158045.vnp