คณะกรรมการจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ได้รับการจัดตั้งใหม่
ตามคำสั่งที่ 3/2023 ของคณะกรรมการกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาร์ ที่ออกเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ขึ้นใหม่ ภายใต้บทที่ 5 มาตรา 9 (D) ของกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาร์ พ.ศ. 2557 ทั้งนี้คณะกรรมการกลางได้ปฏิรูปคณะกรรมการจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ และแต่งตั้ง U Kyaw Shwe Tun จากกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมทั้งมีนาย U Win Myint รองอธิบดีกรมพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยซึ่งเกษียณอายุแล้วทำหน้าที่เป็นรองประธาน และสมาชิกประกอบด้วย U San Shwe Maung จากรัฐบาลรัฐยะไข่ หัวหน้าแผนกการวางแผนภายใต้กระทรวงการวางแผนและการเงิน ผู้บริหารเขต ของกรมบริหารทั่วไปเขตเจ้าผิวก์ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ของการท่าเรือเมียนมา (รัฐยะไข่) ภายใต้กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร และผู้อำนวยการกรมพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย (รัฐยะไข่) ภายใต้กระทรวงการก่อสร้าง นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้แต่งตั้ง ดร. จ่อ ซาน อู เป็นเลขานุการและรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การส่งเสริมการค้าเมียนมาร์ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นเลขานุการร่วม โดนคณะกรรมการมีหน้าที่ปฏิบัติตามภารกิจของคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์และเขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำหนดไว้ในกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาร์อย่างเคร่งครัด
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kyaukpyu-sez-management-committee-reestablished/#article-title
เมียนมาร์จัดการประชุมการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
วานนี้ 21 พฤศจิกายน 2566 เมียนมาร์จัดการประชุมคณะกรรมการสำนักงานประสานงานการท่องเที่ยวและคณะทำงานการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 52 ผ่านระบบไฮบริด ที่โรงแรม Mingala Thiri ณ กรุงเนปิดอว์ โดยมี ดร. Thet Thet Khine รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว เป็นประธานกล่าวในการเปิดงานประชุมว่า อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีวัฒนธรรมที่หลากหลายและมีจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจ ตลอดจนความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศสมาชิก การท่องเที่ยวดิจิทัลและพื้นที่จุดหมายปลายทาง ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และประเด็นด้านความร่วมมือต่างๆ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม และเสริมสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ตามยุทธศาสตร์อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงปี 2573 อย่างไรก็ดี ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการโรงแรมฯ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในปี 2562 นักท่องเที่ยว 73.6 ล้านคนเดินทางเข้าสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและมีรายได้ 101 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าจะมีความท้าทายเนื่องจากการแพร่ระบาด แต่ประเทศสมาชิกก็พยายามที่จะฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และเชื่อว่าการประชุมใรวันนี้จะนำไปสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืนระหว่างประเทศสมาชิก
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-hosts-tourism-meetings-related-to-mekong-sub-region/#article-title
เรือบรรทุกน้ำมันจากต่างประเทศไหลเข้าท่าเรือเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
เรือบรรทุกน้ำมันจากต่างประเทศได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือติละวาในเขตย่างกุ้งอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 19 และ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ ที่เข้าเทียบท่าได้ทำการขนถ่ายน้ำมันลงในถังเก็บตามลำดับ ด้านคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้า การจัดเก็บ และการจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ประสานงานกับสมาคมนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเมียนมา กำลังจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับปั๊มน้ำมันในภูมิภาค/ภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเขตย่างกุ้ง ซึ่งได้ใช้รถหัวจ่ายน้ำมันในการขนส่งตลอดทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน มีรายงานปริมาณน้ำมันทั้งหมดที่เข้ามายังถังเก็บน้ำมัน แบ่งออกเป็น น้ำมัน 92 RON (Research Octane Number บอกค่าออกเทนของน้ำมัน) กว่า 1,470,000 แกลลอน, 95 RON กว่า 300,000 แกลลอน, น้ำมันดีเซล กว่า 1,040,000 แกลลอน และดีเซลแบบพรีเมียม กว่า 1,020,000 แกลลอน ซึ่งถูกส่งโดยรถหัวจ่ายน้ำมันกว่า 1,311 คัน ไปยังสถานีจำหน่ายเชื้อเพลิง 1,960 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงในเขตย่างกุ้ง ทั้งนี้มีรายงานว่าประชาชนสามารถซื้อและใช้เชื้อเพลิงได้สะดวกมากขึ้น และเจ้าหน้าที่กำลังให้ความช่วยเหลือในการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/steady-inflow-of-foreign-oil-tankers-ensures-smooth-distribution-nationwide/
คณะผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมงาน China International Travel Mart 2023
คณะผู้แทนเมียนมา นำโดย ดร. Thet Thet Khine รัฐมนตรีสหภาพการโรงแรมและการท่องเที่ยว ได้เดินทางเข้าร่วมงาน China International Travel Mart ประจำปี 2023 และการประชุมการลงทุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอาเซียน-จีน ที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีนและประเทศอื่นๆ ในระหว่างการเยือน คณะผู้แทนจากเมียนมาได้หารือกับเจ้าหน้าที่มณฑลยูนนานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทวิภาคีและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านโรงแรมและภาคการท่องเที่ยวของเมียนมา ทั้งนี้ รัฐมนตรีสหภาพฯ ยังได้กล่าวปราศรัยกับสื่อ โดยเน้นถึงโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมียนมา รวมทั้งกล่าวถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในการดึงดูดการลงทุนด้านการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์หลักด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (พ.ศ. 2559-2568) นอกจากนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงแรมและการท่องเที่ยวได้มีการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์การลงทุนด้านการท่องเที่ยวของเมียนมาภายในงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมาร์ กลับจากการประชุมกำกับดูแลพลังงานระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครั้งที่ 6
ตามคำเชิญของนาย Zhang Jianhua หัวหน้าคณะบริหารพลังงานแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะผู้แทนที่นำโดย U Nyan Tun รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้เดินทางเยือนเซินเจิ้นและคุนหมิงระหว่างวันที่ 15-19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 6 – ด้านกำกับดูแลพลังงานระดับภูมิภาคแปซิฟิก และเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตพลังงานลม จากนั้น รัฐมนตรีสหภาพฯ ได้พบกับนาย Zhang Jianhua หัวหน้าสำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติ (NEA) และหารือเกี่ยวกับการพัฒนาภาคส่วนพลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ยังได้เยี่ยมชมศูนย์นิทรรศการ Shenzhen Huawei Digital Power Edison Exhibition Hall และสถานีชาร์จรถยนต์ EV ที่จัดเก็บพลังงานแสงและการชาร์จ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกริดและยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ พวกเขายังได้เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานลมฝูหยวนซี ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 800 เมกะวัตต์ ซึ่งสร้างโดย State Power Investment Corporation ในมณฑลยูนนาน นอกจากนี้ ในระหว่างการเยือนยังได้พบเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกำหนดและแผนสำหรับการดำเนินโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ กับบริษัท China Southern Power Grid ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐของจีน ร่วมมือกับกระทรวงพลังงานไฟฟ้า และบริษัทด้านพลังงานอื่นๆของจีนอีกด้วย
การส่งออกภาคการผลิตของเมียนมาร์มีมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเม.ย.-ต.ค
กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ เผยสถิติของมูลค่าการส่งออกจากภาคการผลิตว่า มีมูลค่าถึง 5.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบันปี 2565-2566 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ทั้งนี้ ตัวเลขในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาบ่งชี้ว่ามูลค่าการส่งออกของภาคการผลิตลดลงมากถึง 1.45 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับ 7 พันล้านดอลลาร์ ที่บันทึกไว้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนหน้า โดยในบรรดาสินค้าส่งออก 10 อันดับแรกการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปอยู่ในอันดับที่ 1 รวมถึงก๊าซธรรมชาติและแร่ธาตุ ในขณะเดียวกันเมียนมาร์มีการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูปเป็นหลัก กับคู่ค้าต่างประเทศ ในขณะที่มีการนำเข้าสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง วัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้า CMP และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลักเช่นกัน อย่างไรก็ดี เมียนมาร์ได้ดำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) พ.ศ. 2563-2568 เพื่อสนับสนุนการส่งออก ซึ่งภาคส่วนที่มีความสำคัญตามนโยบายดังกล่าว ประกอบด้วยการผลิตทางการเกษตร เครื่องนุ่งห่มและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ บริการข้อมูลการค้า นวัตกรรม และภาคผู้ประกอบการ
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/manufacturing-sector-exports-earn-us5-5-bln-in-apr-oct/#article-title