แหล่งท่องเที่ยวเมียนมาพร้อมเปิดอีกครั้งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19

การเปิดแหล่งท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้งอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับการจัดการปัญหา COVID-19 ในประเทศและต่างประเทศ กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวชี้ว่าแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของกระทรวงซึ่งรวมถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้นอยู่กับการประเมินเกี่ยวกับภัยคุกคาม COVID-19 ซึ่งไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใดและสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากการกลับมาของการติดเชื้อในเมืองดานังของเวียดนามเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมียนมาตัดสินใจที่ปิดชายหาดในอิระวดีอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมืองโบราณพุกามซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศได้ปิดเจดีย์ 17 แห่งไม่ให้เข้าชมจนกว่าจะมีประกาศให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourist-spots-reopening-changes-depend-covid-19-situations.html

กัมพูชาวางแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดแกบ

กัมพูชาวางแผนด้านการท่องเที่ยวในช่วงปี 2020-2024 เพื่อจะเปลี่ยนจังหวัดแกบเมืองชายฝั่งให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของกัมพูชา โดยจะขยายศักยภาพของจังหวัดแกบ ให้ครอบคลุมในทุกด้าน รวมถึงทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางด้านการท่องเที่ยวและบริการ ไปจนกระทั่งทรัพยากรที่นอกเหนือจากกลุ่มตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตามเพื่อให้การดำเนินการสำเร็จลุล่วงได้จำเป็นต้องมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในจังหวัดแกบ ซึ่งทางรัฐมนตรีสนับสนุนให้คนทุกกลุ่มร่วมมือกันในด้านการสนับสนุนการเปิดตัวของแผนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และยกระดับด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดแกบให้ไปอีกระดับหนึ่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50750089/keps-tourism-marketing-plan-on-its-way/

รัฐบาลเมียนอนุญาติให้เปิด ชายหาดอิรวดีและโรงแรมอีกครั้ง

รัฐบาลอนุญาตให้ชายหาดโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคอิรวดีซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธุรกิจในพื้นที่ โดยธุรกิจจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานท้องถิ่นและต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกัน COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬา ในบรรดาชายหาดที่มีชื่อเสียงที่เปิดให้บริการอีกครั้งได้ คือ Chaung Tha, Ngwe Saung, เกาะ Gaw Yin Gyi และ Shwe Thaung Yan ชายหาดถูกปิดในวันที่ 24 มีนาคม 2563 หนึ่งวันหลังจากที่มีรายงานการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ราย ขณะนี้มีเพียงโรงแรมบนชายหาดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในอิรวดี ผู้ประกอบการกล่าวว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้องปฏิบัติตามระเบียบ COVID-19 แม้ว่าจะกลับมาเปิดโรงแรม เที่ยวบิน และการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวในท้องถิ่น แต่ก็ยังคงปิดให้บริการแก่ชาวต่างชาติและเที่ยวบินระหว่างประเทศและน่าจะกลับมาเปิดได้ในเดือนตุลาคม โดยโรงแรมในประเทศประมาณ 60% ได้เปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากได้ผ่อนคลายข้อบังคับลงในเดือนพฤษภาคม แต่ธุรกิจยังคงซบเซา เช่น ร้านอาหารผลประกอบการลดลงมากถึง 50% ในขณะที่ผู้คนยังคงระมัดระวังในการไปในที่สาธารณะ สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมในเมียนมาเผย โรงแรมบางแห่งไม่มีลูกค้ามากพอและอาจสูญเสียรายได้ดังนั้นจึงยังไม่เปิดทำการ การท่องเที่ยวของเมียนมาคิดเป็น 6.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ มีรายได้รวม 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 และแรงงาน 1.4 ล้านคน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ayeyarwady-beaches-hotels-reopen-after-inspection.html

การท่องเที่ยวกัมพูชาระหว่างการระบาดของ Covid-19

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข้อมูลจากทางภาครัฐแสดงให้เห็นว่า COVID-19 ได้ส่งผลให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวปิดตัวเกือบ 3,000 แห่ง และส่งผลกระทบต่อแรงงานกว่า 45,045 คน โดยการว่างงานและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสังคม ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่าภาคการท่องเที่ยวจะมีรายรับ 3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนมีโรงแรม 18 แห่ง และเกสต์เฮาส์ 96 แห่งปิดทำการอย่างถาวร โดยยังคงมีโรงแรม 172 และเกสต์เฮาส์ 99 แห่งได้หยุดดำเนินกิจการชั่วคราวในขณะนี้ ซึ่งในปัจจุบันมีโรงแรม 40 แห่งและเกสต์เฮาส์ 66 แห่ง เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐบาลจะปรับมาตรการกักกันและเตรียมการพิเศษ ซึ่งหน่วนงานกำลังตั้งคำถามหากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไป ภาครัฐจะสามารถจัดการได้อย่างไรและภาคธุรกิจจะเป็นอย่างไร รวมถึงการว่างงานจะสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50740504/tourism-savaged-by-covid-19/

เดือน มิ.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวในกัมพูชาสูงถึง 4.5 แสนคน แต่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 1 พันคน

ในช่วงสามสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนชาวกัมพูชากว่า 450,000 คน ได้เริ่มทยอยออกท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ คิดเป็นจำนวนทั้งหมดคือ 452,692 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.24 จากช่วงเวลาเดียวกันในเดือนพฤษภาคม หรือคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวท้องถิ่นจำนวน 441,397 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.61 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,295 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.34 โดยจังหวัด Khon ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศได้เกือบร้อยละ 50 ซึ่งเสียมเรียบยังคงแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเนื่องจากธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม เกสต์เฮาส์ และร้านอาหารเพิ่งทำการเปิดใหม่อีกครั้ง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชนในการส่งเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวสำหรับภาคธุรกิจเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งรวมถึงบริการที่พักร้านอาหาร การขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำ รีสอร์ทและชุมชนด้านการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738065/more-than-450000-tourists-on-the-move-over-first-three-weeks-of-june/

เทศกาล Sea Festival คาดช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา

การเฉลิมฉลองเทศกาลทางทะเลของกัมพูชาจะยังคงดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้ในปลายเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเมืองสีหนุวิลล์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพระดับโลก โดยเทศกาลจะจัดขึ้นทุกปีในจังหวัดชายฝั่งทะเลที่แตกต่างกันไป เช่น กัมปอต, แกบ, พระสีหนุและเกาะกง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งในปีนี้นับเป็นครั้งที่สามที่จัดขึ้นที่สีหนุวิลล์ในช่วงที่ผ่านมาเก้าครั้ง ซึ่งจะมีการจัดแสดงความบันเทิง รวมถึงแสดงผลงานที่ทำขึ้นในท้องถิ่น สินค้าต่างๆ อาหารริมทางและการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่างานเทศกาลทะเลที่กำลังจะมาถึงจะมีส่วนช่วยส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในระดับสากล ซึ่งกระทรวงได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยสำหรับธุรกิจการขนส่งทางบกและทางน้ำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสและส่งเสริมความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในประเทศพร้อมเตือนว่าทุกธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามหรือใช้มาตรการ อย่างเหมาะสมอาจจะถูกระงับใบอนุญาตทันทีตามมาตรา 44 ของกฎหมายการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50735633/sea-festival-to-go-ahead-hoping-to-promote-hard-hit-tourism-sector/

194 โครงการการท่องเที่ยวของกัมพูชามูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์มุ่งไปยังพระสีหนุ

จังหวัดด้านชายฝั่งทะเลหรือเรียกกันว่าจังหวัดพระสีหนุของกัมพูชาได้รับการอนุมัติโครงการการท่องเที่ยวทั้งหมด 194 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เผยแพร่โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสีหนุในงานแถลงข่าว ณ กรุงพนมเปญ โดยในปี 2562 จังหวัดได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 2,229,428 คน (เพิ่มขึ้นเกือบ 9%) เป็นนักท่องเที่ยวจากภายในประเทศ 1,343,690 คน ลดลง 8% และอีก 885,795 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ (เพิ่มขึ้น 52%) ปัจจุบันจังหวัดพระสีหนุมีโรงแรมและเกสต์เฮาส์รองรับนักท่องเที่ยวกว่า 12,000 ห้อง ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชาประมาณ 230 กิโลเมตร จากเมืองหลวงพนมเปญและเชื่อมต่อกับทางรถไฟผ่านจังหวัด กันดาล, ตาแกว และ กำปอต โดยในปีที่ผ่านมาจังหวัดได้เปลี่ยนแปลงโดยภาพรวมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการค้าและการเกษตรร่วมด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50732884/194-tourism-projects-of-30-billion-directed-to-preah-sihanouk-province/

รัฐบาลกัมพูชาเร่งพัฒนาเขตการท่องเที่ยวใหม่

รัฐบาลกำลังเร่งจัดทำแผนการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวสำหรับประเทศ ทางด้านตะวันตก, ตะวันตกเฉียงเหนือ และรอบๆ แม่น้ำโตนเลสาบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวระบุ โดยกระทรวงกล่าวว่าการอภิปรายเกี่ยวกับหนังสือแผนที่ด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค จะช่วยเสริมสร้างขยายความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดทางตะวันตก, ตะวันตกเฉียงเหนือและบริเวณโตนเลสาบเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวตามที่กระทรวงระบุ ซึ่งประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชาให้การต้อนรับแผนดังกล่าวโดยกล่าวว่าภูมิภาคนี้จะมีศักยภาพที่ดีสำหรับการลงทุนด้านการท่องเที่ยว โดยสิ่งสำคัญคือการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมธรรมชาติทางประวัติศาสตร์และป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.61 ล้านคน ในปี 2562 ข้อมูลแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวท้องถิ่นมีจำนวน 11.3 ล้านคน ขณะที่ชาวกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศจำนวน 2.04 ล้านคน ตามตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50730097/government-to-boost-new-tourism-development-zones/

ททท.วางแผนรองรับนักท่องเที่ยว หลังการระบาด COVID-19

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เตรียมรับการคลายล็อกดาวน์ประเทศ จากสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ไว้ 3 ระดับ และหากทุกอย่างเปิดหมดต้องเตรียมตัวรับมือกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปททท.มองว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่พร้อมออกเดินทางหลังการระบาดคลี่คลาย คือกลุ่มเจเนอเรชั่น Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบคิดนอกกรอบ ชอบนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจึงต้องปรับตัวให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนบริการของตัวเองให้สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพื่อรองรับกระแสการเดินทางที่กำลังจะเกิดขึ้นนอกจากนี้ยังประเมินว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คือการเปลี่ยนแปลงภายใต้ New Normal การท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ ความสะอาด และความปลอดภัยมากขึ้น และไม่สามารถคาดหวังนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ เช่น กรุ๊ปทัวร์ได้แล้ว แต่หลังจากนี้ไปการเดินทางท่องเที่ยวจะเปลี่ยนมาเป็นกรุ๊ปขนาดเล็กมากขึ้น หรือเดินทางด้วยตัวเอง และรูปแบบการท่องเที่ยวจะเป็นระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อรวมทั้งเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะหันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ส่วนคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปีนี้ (63) น่าจะอยู่ที่ 14-16 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยคาดอยู่ที่ 80-100 ล้านครั้ง

ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/292423

คาดการณ์ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาจะใช้เวลาในการฟื้นตัวมากกว่าภาคอื่นๆ

ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่กระจายของ Covid-19 จะฟื้นตัวช้ากว่าภาคอื่นๆ หลังจากการระบาดสิ้นสุดลง โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชากล่าวว่าการท่องเที่ยวแตกต่างจากภาคอื่นๆ ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวจะไม่กลับสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้เนื่องจากเป็นวิกฤตระดับโลกและเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้คน โดยอาจจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีถึงหนึ่งปีสำหรับผู้ผู้คนในประเทศที่จะเริ่มท่องเที่ยวในวันหยุด ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอาจใช้เวลานานกว่า แต่อย่างไรก็ตามกัมพูชาจะต้องพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากขึ้นหลังจากสถานการณ์กลับสู่ปกติ ซึ่ง Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อคนงานทั้งหมด 630,000 คนในภาคการท่องเที่ยว และมีคนว่างงานอีกกว่า 30,000 คนในขณะนี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6,610,592 คน เพิ่มขึ้น 6.61% จากปี 2561 โดยนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวน 2.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.7% เวียดนามอันดับสองอยู่ที่ 908,803 คน เพิ่มขึ้น 13.6% จากข้อมูลของกระทรวงแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 931,826 คน ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2562 ลดลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50711043/tourism-to-take-longer-to-recover-from-pandemic-than-other-sectors/