ปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเมียนมาเริ่มกลับมาคึกคัก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมา เผย ปี 2565 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเมียนมาเพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ไทย อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของประเทศเมียนมา และได้ร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์การท่องเที่ยวโลก   เพื่อเปิดตลาดการท่องเที่ยวของประเทศผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ  โดยการจัดนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศ  สายการบินในประเทศสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังได้เร่งผลักดันให้สมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวและธุรกิจในอุตสาหกรรม ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวของเมียนมา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/increasing-numbers-of-foreigners-entering-myanmar-in-2022/#article-title

ราคาถั่วลิสงในเมียนมา พุ่งขึ้น! หลังความต้องการทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ เริ่มฟื้นตัว

ศูนย์ค้าส่งสินค้ามัณฑะเลย์ เผย ปัจจุบันราคาถั่วลิสงขยับขึ้นเป็น 7,000 จัตต่อ viss  (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) จากความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคาเคยร่วงลงอยู่ระหว่าง 4,700-5,750 จัตต่อ viss ในเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยมีผู้ค้าชาวจีนเข้ามารับซื้อที่ศูนย์ค้าส่งสินค้ามัณฑะเลย์เป็นจำนวนมากส่งผลให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 จนถึงวันที่ 13 มกราคม 2566 ของปีงบประมาณ 2565-2566 เมียนมาส่งออกถั่วลิสงผ่านช่องทางชายแดนไปแล้วมากกว่า 15,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 17.336 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/peanut-price-rebounds-on-strong-domestic-foreign-demand/#article-title

ราคาข้าวในเมียนมาพุ่งสูงขึ้น

จากข้อมูลของศูนย์ค้าส่งข้าววาดัน พบว่า ในวันที่ 20 มกราคม 2566 ราคาข้าวหอม “Pearl Paw San” อยู่ระหว่าง 61,000 ถึง 80,000 จัตต่อกระสอบ ส่วนข้าวเกรดธรรมดาราคาอยู่ระหว่าง 43,500-67,000 จัตต่อกระสอบ ต่อมาวันที่ 23 มกราคม 2566 ราคาข้าวหอม “Pearl Paw San” เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,000-4,000 จัตต่อกระสอบ ราคาจะอยู่ระหว่าง 45,500-70,000 จัตต่อกระสอบ ส่วนราคาข้าวเกรดธรรมดา เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถุง 2,000-4,000 จัตต่อถุง ราคาจะอยู่ระหว่าง 63,000-84,000 จัตต่อกระสอบ เป็นผลมาจากความต้องการข้าวเปลือกสูงทำให้ราคาข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นไปด้วย ที่ผ่านมา สหพันธ์ข้าวแห่งเมียนมา สมาคมผู้ผลิตและปลูกข้าวแห่งเมียนมา สมาคมโรงสีข้าวแห่งเมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามร่วมมือกันเพื่อหาทางออกในการกำหนดราคาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ค้าส่งและผู้บริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-price-skyrockets-in-domestic-market/

ผลผลิตถั่วลูกไก่ ทะลักเข้าตลาดมัณฑะเลย์ ฉุดราคาดิ่งลง

สมาคมผู้ค้าถั่วและงาของเมียนมา เผย วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ราคาถั่วลูกไก่ในเมียนมาอยู่ระหว่าง  180,000 ถึง 205,000 จัตต่อ 56.25 visses ต่อมาในวันที่ 21 ธันวาคม ราคาลดลงเหลือ 170,000 ถึง 183,000 จัตต่อ 56.25 visses เนื่องจากในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตจากภาคมัณฑะเลย์ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรของเมียนมาพืชตระกูลถั่วและถั่วพัลส์มีผลผลิตและการเพาะปลูกมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ คิดเป็น 33% ของผลผลิตทางการเกษตรและครอบคลุม 20% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด ซึ่งภาคการเกษตรของเมียนมาถือเป็นกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา พบว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 จนถึงปัจจุบัน เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่มากกว่า 18,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 12.678 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/new-entry-to-domestic-market-plummets-chickpea-price/#article-title

ค้าชายแดนท่าขี้เหล็ก เมียนมา-จีน-ไทย ทะลุ 10.154 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย เดือนธันวาคม 2565 มูลค่าการค้าชายแดนท่าขี้เหล็กของเมียนมากับจีนและไทยมีมูลค่ากว่า 10.154 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมูลค่าการส่งออก 4.636 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้า 5.597 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกหลักคือสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าประมง เช่น ใบชาแห้ง ส้ม ไม้สักแปรรูป กุ้ง ฯลฯ ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าประเภท  สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ปูนซีเมนต์ ยานพาหนะและอุปกรณ์ยานพาหนะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ วัสดุก่อสร้างที่ทำจากแก้ว อุปกรณ์จำหน่ายไฟฟ้าและติดตั้ง วัสดุก่อสร้างที่ทำจากแร่ วัสดุก่อสร้างเหล็กและเหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันพืช เคมีภัณฑ์ สีเคลือบเงา วัตถุดิบพลาสติก กระดาษ วัตถุดิบที่ทำจากเหล็กกล้า สบู่ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/tachilek-border-trade-with-china-and-thailand-valued-at-us10-154-mln/