เงินกีบลาวแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทไทย
สปป.ลาว กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากสกุลเงินกีบของประเทศยังคงอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทของไทย แนวโน้มดังกล่าวถือเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจลาว โดย ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ธนาคารแห่งประเทศลาว (BOL) กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 21,391 กีบต่อดอลลาร์สหรัฐ และ 596.90 กีบต่อหนึ่งบาทไทย อย่างไรก็ตามธนาคารพาณิชย์ เช่น Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public (BCEL Bank), Phongsavanh Bank และอื่นๆ กำลังขายในราคาที่แตกต่างกัน โดยเสนอราคา 21,393 กีบต่อดอลลาร์สหรัฐ และ 657.90 กีบต่อหนึ่วบาทไทย
ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/08/lao-kip-hits-record-lows-against-us-dollar-thai-baht/
สปป. ลาว เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีใหม่ 2 กระทรวง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและป่าไม้ เข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยรัฐบาลระบุว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำในแต่ละกระทรวงให้สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อกำหนดการทำงานใหม่ๆ โดย รศ.ดร.ลิงคำ ดวงสะหวัน อดีตเลขาธิการรัฐสภา ดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงเกษตรและป่าไม้ แทน ดร.เพชร พรหมพิภาค และ ดร.เพชร รับตำแหน่ง รมว. กระทรวงการวางแผนและการลงทุนใหม่ นายกรัฐมนตรี โสเนกชัย สีพันโดน ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมือง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำในพรรค รัฐบาล และองค์กรมวลชนถือเป็นเรื่องปกติของบุคลากรพรรค การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่และคำนึงถึงความสามารถเฉพาะของรัฐมนตรีแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดในการทำงาน
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_85_Two_y24.php
สปป. ลาว เผยไตรมาสแรกปี 67 มียอดนักท่องเที่ยวแล้ว 1 ล้านคน
กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว เผยจำนวนนักท่องเที่ยวช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวไทยมีจำนวนมากที่สุดกว่า 337,689 คน รองลงมาคือชาวเวียดนาม จำนวน 263,160 คน ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ รัฐบาล สปป.ลาว ตั้งเป้าที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 4.6 ล้านคนในปี 2567 และคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สปป.ลาว จึงพร้อมที่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/02/laos-welcomes-over-1-million-tourists-in-first-quarter-of-2024/
ธนาคารโลก คาดการณ์ GDP สปป.ลาว เติบโตได้ 4% ในปีนี้
เว็บไซต์ของธนาคารโลก เผยแพร่บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เมื่อมองไปข้างหน้าถึงปี 2567 คาดว่า GDP จะขยายตัว 4% โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตด้านบริการและการลงทุนในภาคพลังงานและเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่างๆ เช่น การอ่อนค่าของเงินกีบ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และความจำเป็นในการชำระหนี้ต่างประเทศที่สูง คาดว่าจะยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ ข้อแนะนำเพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ ธนาคารโลกได้แนะนำให้ สปป.ลาว จัดลำดับความสำคัญของการปฏิรูปในด้านที่สำคัญ เช่น การจัดการหนี้ การระดมรายได้ การจัดการการลงทุนสาธารณะ เสถียรภาพของภาคการเงิน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ แม้ว่าการปฏิรูปรายได้เมื่อเร็วๆ นี้มีแนวโน้มที่ดี แต่รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งปฏิรูปเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเท่านั้น
ธนาคารแห่ง สปป. ลาว เตือนเรื่องธนบัตรปลอมระบาด
ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้ออกคำเตือนประชาชนให้ระวังธนบัตรปลอม ฉบับ 50,000 กีบ ปี 2547 ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ โดยเฉพาะแขวงบ่อแก้ว โดยธนบัตรปลอมที่ทางการตรวจพบมีการระบุหมายเลขซีเรียลจากรหัส AZ 0218001 ถึง AZ 0218999 ธนบัตรปลอมพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์พิเศษ และมีลวดลายสีสันสดใสคล้ายกับธนบัตร 50,000 กีบดั้งเดิมของปี 2547 ดังนั้นก่อนที่จะรับและชำระเงินด้วยธนบัตร 50,000 กีบของปี 2547 ประชาชนควรตรวจสอบรายละเอียดของธนบัตรให้ละเอียดก่อน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งการตรวจพบธนบัตรปลอมได้ที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยธนาคารแห่ง สปป.ลาว ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินมาตรการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่สร้างความโกลาหลและฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการนำเข้าธนบัตรปลอมมาในระบบการเงิน
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_81_Central_y24.php
ญี่ปุ่นสนับสนุงบปรับปรุงถนน-สะพานเส้นทางหมายเลข 13, 11 และ R2 ใน สปป.ลาว
รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่ สปป.ลาว ในการซื้ออุปกรณ์และยานพาหนะมูลค่า 1,500 ล้านเยนญี่ปุ่น หรือประมาณ 9.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซ่อมแซมถนนและสะพานในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เงินช่วยเหลือนี้จะนำไปใช้ในการปรับปรุงถนนและสะพานในเส้นทางหมายเลข 13, 11 และ R2 ทางตอนเหนือของลาวและถนนอื่นๆ ที่เป็นเส้นทางเชื่อมโยงที่สำคัญไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ได้กล่าวระหว่างพิธีลงนามฯ ว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจของทุกประเทศ รัฐบาล สปป.ลาว ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนน เนื่องจากเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของประเทศในกรณีที่ไม่มีท่าเรือทางทะเล ซึ่งจะส่งเสริมการขนส่ง การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างมาก ตลอดจนกระตุ้นการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของลาว ทำให้ชาวลาวสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิต
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_80_Japan_y24.php