เดือนเม.ย.65 เมียนมา ส่งออกสินค้าเกษตรลดลงเล็กน้อย
เดือนเม.ย. ของปีงบประมาณ 2565-2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร อยู่ที่ 325.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย 11.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 337.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สาเหตุจากการปิดชายแดนและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบศุลกากรของจีน ซึ่งทำการปิดชายแดนทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับชายแดนมูเซในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงจีนได้ทดลองเปิดด่านจินซันเฉาะ (Kyinsankyawt) เพื่อทำการซื้อขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 64 เป็นต้นมา ทั้งนี้สินค้าเกษตรส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกาเป็นหลัก โดยในช่วงงบประมาณย่อย (เดือนต.ค.64 ถึง เดือนมี.ค.65) การส่งออกสินค้าเกษตรมีมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/agricultural-export-value-sees-slight-decline-in-april/#article-title
MIC เชิญชวนลงทุน 8 ภาคธุรกิจในเมียนมา
Interest: EoI) สำหรับ 8 ภาคส่วนเพื่อพัฒนาประเทศ ได้แก่ 1.การผลิตปุ๋ย 2.การผลิตปูนซีเมนต์ 3.การผลิตเหล็ก 4.การเกษตรและการเลี้ยงปศุสัตว์ 5.การผลิตหรือการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของอาหารอาหาร 6.การผลิตยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ 7.ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพและวัสดุที่เกี่ยวข้อง และ 8.การขนส่งสาธารณะ ซึ่งหากนักลงทุนชาวเมียนมาและนักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนให้ติดต่อ MIC กระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดเตรียมเอกสารหรือหลักฐานที่จำเป็นในการยื่นข้อเสนอในการขอลงทุน ตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 ถึงมี.ค. 2565 ได้มีการอนุมัติการลงทุน 48 รายการ เป็นเงิน 684.686 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาการลงทุนจากต่างประเทศ และการลงทุนของชาวเมียนมาเองอีก 38 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 468,393.528 ล้านจัต สร้างตำแหน่งงานได้ถึง 42,880 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564-2565 MIC ได้อนุมัติการทั้งลงทุนในประเทศและต่างประเทศไปแล้วกว่า 684 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 468 พันล้านจัต ตามลำดับ
ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mic-invites-eoi-for-eight-investment-sectors/
เขตพะโค ดูดเม็ดเงิน FDI -สะพัดกว่า 117.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บวกการลงทุนในประเทศอีก 9.5 พันล้านจัตภายใน 1 ปี
คณะกรรมการการลงทุนเขตพะโค (BRIC) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 ถึงเม.ย. 2565 เขตพะโคดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่า 117.612 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการลงทุนภายในประเทศ มูลค่า 9.529 พันล้านจัต ซึ่งสร้างตำแหน่งงานให้กับประชากรในพื้นที่กว่า 6,000 ตำแหน่ง ซึ่งเศรษฐกิจของเขตพะโคขึ้นอยู่กับการเกษตรและปศุสัตว์เป็นหลัก เนื่องจากมีวัตถุดิบมากมายสำหรับการผลิตปุ๋ยธรรมชาติ โดยหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของเขตพะโคได้เรียกร้องให้ BRIC เชิญชวนให้นักลงทุนที่สนใจมาลงทุนในโรงงานปุ๋ยและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานมีความสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตและการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ เนื่องจากเขตพะโคต้องอาศัยแหล่งน้ำ เขื่อน และแม่น้ำสำหรับภาคการเกษตร และได้อำนวยความสะดวกในการให้เช่าพื้นที่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมที่เริ่มมีการขยายตัว
ธุรกิจประมงปลาหมึกบูมสุดๆ ในปีนี้
ผู้ประกอบการเรือประมง เผย ธุรกิจประมงปลาหมึกในฤดูกาลนี้เฟื่องฟูสุดๆ เนื่องจากได้ราคาดี โดยราคาในช่วงการจับปลาหมึกระหว่างเดือนต.ค.64 ถึงเม.ย. 65 ราคาพุ่งไปถึง 160,000 จัตต่อ 10 viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในเมืองทวาย ส่วนเมืองมะริดจะอยู่ที่ 140,000 ต่อ viss ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้เรือประมงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทว่าธุรกิจเประมงยังไปได้ดีเพราะราคายังสูงอยู่ และคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงในปีหน้า ดังนั้นผู้ประกอบการเรือประมงต้องเสี่ยงราคาที่ผันผวนของตลาด ปัจจุบันมีเรือขนาดใหญ่ที่ได้รับการจดทะเบียนจำนวน 300 ลำ และเรือขนาดเล็กจำนวน 500 ลำ ในเมืองมะริด เขตตะนาวศรี โดยส่วนใหญ่แล้วปลาหมึกของเมียนมาถูกส่งออกไปยังจีนและไทยเป็นหลัก