กระเทียมกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของจังหวัดมณฑลคีรีในกัมพูชา

กระเทียมกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของจังหวัดมณฑลคีรี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา กล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัว ซึ่งกล่าวเพิ่มเติมถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกกระเทียมประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกโดยใช้เวลาเพียง 3 เดือน รวมถึงได้ปริมาณและคุณภาพที่สูงตามกำหนด ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก อีกทั้งความต้องการของตลาดในประเทศก็สูงเช่นกัน โดยแนวคิดในการทำฟาร์มกระเทียมในมณฑลคีรีเริ่มจากรัฐมนตรีและทีมงานได้แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์กระเทียมให้กับเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกในจังหวัดโดยเริ่มดำเนินการครั้งแรกในเดือนธันวาคมปี 2020 ซึ่งได้ผลที่น่าพอใจ โดยหน่วยงานของจังหวัดคาดว่าจะขยายการทำไร่กระเทียมต่อไป ร่วมกับการพลักดันกระเทียมให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำเงินให้กับคนในพื้นที่ได้ในอนาคตอันใกล้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50827814/garlic-becoming-potential-cash-crop-in-mondulkiri/

พาณิชย์ลุยแก้ปัญหาตกเขียวกระเทียม ดึงเอกชนช่วยรับซื้อกก.13.50บ.

พาณิชย์ คลอดมาตรการเชิงรุกช่วยเหลือชาวไร่กระเทียม ดึงเอกชน 8 รายทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กก.ละ 13.50 บาท หลังพบตกเขียวกดราคาเหลือ กก.8 บาท พร้อมอัดมาตรการเสริม ช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% เพื่อซื้อกระเทียมเก็บ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมวางแผนเชิงรุกรองรับการแก้ไขปัญหากระเทียม ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ว่า กระทรวงฯ ได้เตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเป็นการล่วงหน้าเพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. โดยกรมการค้าภายในได้ประสานงานกับพาณิชย์จังหวัด ซึ่งเป็นทีมเซลส์แมนของจังหวัด ร่วมกับภาคเอกชนจัดให้มีการเจรจาซื้อขายกระเทียมสดในราคาที่เป็นธรรม 8 สัญญา มีภาคเอกชน 8 บริษัทเป็นผู้ซื้อและกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่มเป็นผู้ขาย ในราคากระเทียมสดกิโลกรัมละ 13.50 บาท ซึ่งเป็นราคาชี้นำตลาดในฤดูกาลผลิตนี้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดมาตรการเสริมในช่วงที่กระเทียมออกมาก โดยมีมาตรการชะลอขาย ถ้าเกษตรกร ผู้รวบรวมกระเทียมหรือสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชะลอขาย จะมีวงเงินช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ผู้รวบรวมกระเทียม ประมาณ 6 เดือน เมื่อราคาดีค่อยขาย ช่วยดอกเบี้ย 3% และมาตรการทางกฎหมายให้มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้กรมศุลกากร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เคร่งครัดการแก้ปัญหาลักลอบการนำเข้า ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปเรียนให้ที่ประชุม ครม.ทราบอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 26 ม.ค.64 เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ากระเทียมต่อไป  นอกจากนี้ จะเข้มงวดการออกไปอนุญาตนำเข้ากระเทียม ให้มีการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของกระเทียมที่นำเข้า และเข้มงวดการตรวจสอบการขนย้าย หากตรวจพบการกระทำผิดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/820902