ภาครัฐบาลและภาคเอกชนกัมพูชาเร่งปรับปรุงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ชายแดนระหว่างประเทศต้องปิดตัวลง การท่องเที่ยวภายในประเทศจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติในกัมพูชา โดยในการตอบสนองหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนได้รับการผลักดันเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการด้านการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการปฏิบัติด้านสุขอนามัยเพื่อสนับสนุนการเดินทางมายังกัมพูชาของนักท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงภาครัฐฯและภาคเอกชนมองว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั่วประเทศกำลังจะกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นหลายแห่ง โดยกำลังขอให้รัฐบาลเพิ่มโอกาสด้วยการสร้างแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้น ผ่านการลงทุนโดยภาคเอกชนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742181/public-and-private-sector-needed-to-improve-eco-tourism-development/

สนามบินมณฑลคีรีร่วมวางแผนสำหรับภูมิภาคท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา

กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินระบุว่าจังหวัดมณฑลคีรีได้รับการยอมรับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและนิเวศน์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา โดยการศึกษาความเป็นไปได้รวมถึงการยกระดับสนามบินสำหรับเมืองหลวงเซน โมโนรม ซึ่งมณฑลคีรีเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในกัมพูชามีพื้นที่มากกว่า 14,000 ตารางเมตรโดย เซน โมโนรม ห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 390 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสามสายและน้ำตก Bou Sra ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีป่าเขตร้อนบริสุทธิ์ตามฤดูกาลและพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวได้กล่าวเสริมถึงมณฑลคีรีว่าสามารถเป็นศูนย์กลางหลักของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการผจญภัยได้ รวมถึงประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชายังกล่าวว่าภาคการท่องเที่ยวมีการชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัวโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687605/airport-will-aid-plans-for-biggest-eco-tourism-region-in-cambodia