เอกชนเฮ! ด่านลาวเปิดตามปกติ 9 พ.ค. นี้

วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ดร.จตุรงค์ บุนนาค ประธานสภาธุรกิจไทย-ลาว เปิดเผยว่า ขณะนี้เอกชนได้รับการแจ้งเอกสารจากสำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เรื่องมาตรการการเข้าออกประเทศ รวมทั้งการเปิดทุกด่านในวันที่ 9 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยสรุปมาตรการเปิดประเทศ ดังนี้ 1.เปิดด่านสากลทุกด่าน 2.อนุญาตให้พลเมืองทุกสัญชาติ ที่ยกเว้นวีซ่ากับ สปป.ลาว สามารถเข้าประเทศได้ไม่ต้องขอวีซ่า 3.สำหรับประเทศที่ไม่ได้ยกเว้นวีซ่า สามารถขอวีซ่าจากสถานทูต กงสุล หรือผ่านระบบ E-visa หรือขอวีซ่าที่หน้าด่านสากล ที่มีหน่วยงานวีซ่า 4.ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ทันมีใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดส ขอให้มีผลตรวจเชื้อโควิดแบบเร็ว ATK ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง เมื่อถึง สปป.ลาว ไม่ต้องมีการตรวจซ้ำ 5. ในกรณีที่ติดเชื้อโควิด ต้องรับผิดชอบค่ารักษาโควิดเอง 6.อนุญาตให้พาหนะต่างๆ เข้า-ออก ประเทศได้ตามปกติ 7.ให้มีการเปิดร้านบันเทิง แต่เอาใจใส่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 8.ปฏิบัติตั้งแต่ 9 พ.ค.2565 เป็นต้นไป

ที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-926531

 

นายกฯ สปป.ลาวแนะเจ้าหน้าที่รัฐปฏิรูปการลงทุนของรัฐป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ได้บอกกับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการลงทุนของภาครัฐให้มีการปฏิรูปการลงทุนของรัฐและดูแลให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเสริมสร้างเศรษฐกิจมหภาคและป้องกันวิกฤตทางด้านการเงินของสปป.ลาวที่อาจส่งผลกระทบหากไม่รีบแก้ไขคำแนะนำของนายกฯ เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานออกมาว่า การลงทุนของรัฐบาลในหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่สามารถให้ผลได้เต็มที่ บางโครงการใช้เงินลงทุนสูงเกินสมควรในขณะที่หลายโครงการไม่จำเป็นต้องลงทุน ปัญหาดังกล่าวทำให้การขาดดุลงบประมาณขยายตัวมากขึ้นและหนี้ก็เพิ่มขึ้นในระดับสูง การใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองได้สร้างความตึงเครียดด้านงบประมาณและการระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางของสปป.ลาวลาวแย่ลง ภายหลังจากการประชุมนายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงขั้นตอนที่จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อโอกาสในการดึงดูดนังลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_PM_26.php

ธนาคารต่างๆให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการลงทุนในแม่น้ำโขง – ล้านช้าง

ธนาคารพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการลงทุนในภูมิภาคแม่น้ำโขง – ล้านช้างเพื่อให้เกิดโครงการเส้นทางสายไหม ผู้จัดการทั่วไปของธนาคาร ICBC สาขาเวียงจันทน์ กล่าวว่าโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งธนาคารได้ร่วมมือกับธนาคารอื่นๆ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนในภูมิภาคแม่น้ำโขง รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับภาคพลังงานในสปป.ลาว อีกทั้งผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจของกระทรวงการต่างประเทศสปป.ลาวกล่าวว่าสปป.ลาวให้ความสำคัญกับความร่วมมือในแม่น้ำโขง-ล้านช้างและโครงการเส้นทางสายไหม กลุ่มอื่น ๆ รถไฟสปป.ลาว – ​​จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างกำลังดำเนินการภายใต้โครงการเส้นทางสายไหม เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ จะช่วยประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงให้บรรลุตามแผนแม่บทการเชื่อมต่อของอาเซียนในปี 68 ในฐานะที่เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลการปรับปรุงการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเชื่อมโยงทางบกและบูรณาการกับภูมิภาคได้ดีขึ้น ตัวแทนจากสถานทูตจีนประจำประเทศ สปป.ลาวกล่าวว่าผู้นำของสปป.ลาวและจีนเห็นด้วยที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยการตระหนักถึงความมุ่งมั่นของโครงการเส้นทางสายไหม รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในภาคการเงิน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/banks-commit-financial-support-investment-mekong-lancang-105282

การลงทุนภาคเอกชนในสปป.ลาว ชะลอตัวลง

การลงทุนของผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศไม่ได้เติบโตตามที่วางแผนไว้แม้จะมีมาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการเติบโตของภาคเอกชนและรักษาเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแผนการและการลงทุนกล่าวว่าบริษัทเอกชนลงทุนในโครงการ 1,266 โครงการในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ด้วยทุนจดทะเบียน 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามเงินทุนที่โอนผ่านธนาคารจริงมีเพียง 1.09 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือเท่ากับ 40% ของเป้าหมายในปีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสปป.ลาวกล่าวว่าการเติบโตของภาคเอกชนที่ซบเซาเป็นผลมาจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลในการจัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ โดยการขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอตัวลงเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าการลงทุนภาคเอกชนจะชะลอตัวลง ในไตรมาสแรกของปีนี้สินเชื่อเติบโตถึง 3.13% อีกทั้งสปป.ลาวมีโอกาสมหาศาลที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนกำลังบังคับให้บริษัทในภูมิภาคพิจารณาย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้า ดังนั้นสปป.ลาวจำเป็นต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Private.php

ธุรกิจสปป.ลาว ไทยหนุนการค้าการลงทุน

ธุรกิจของสปป.ลาวและไทยกำลังวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนในระดับทวิภาคีในปีต่อ ๆ ไปด้วยการเอาชนะอุปสรรคอันยาวนานหลายประการ ทั้งสองฝ่ายคาดหวังที่จะจัดตั้งคณะทำงานพิเศษที่จะร่วมมือกับบุคลากรจากทั้งสองฝ่ายในความหวังที่จะเชื่อมช่องว่างกับรัฐบาลสปป.ลาวและไทย แผนนี้ได้ตกลงกันในหลักการโดยผู้แทนสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว สภาธุรกิจไทย – สปป. และสมาคมนักธุรกิจไทยในสปป. ลาว มีการหารือในประเด็นและปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สู่ประเทศไทย อัตราภาษีกำไรและอุปสรรคด้านภาษีต่างๆ ความต้องการความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายตระหนักว่าธุรกิจของสปป.ลาวและไทยกำลังดิ้นรนกับปัญหาที่ค้างคายาวนาน เชื่อว่าเมื่อปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องโดยรัฐบาลสปป.ลาวและไทยปริมาณการค้าและการลงทุนในระดับทวิภาคีจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-thai-businesses-seek-bolster-trade-investment-100827