พลังงานแสงอาทิตย์ยังคงมีความสำคัญกว่าการนำขยะมาผลิตพลังงานในกัมพูชา

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 เมกะวัตต์ในจังหวัดโพธิสัตว์ ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าให้กับกริดแห่งชาติโดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติอีกสามโครงการที่จะผลิตพลังงานในปลายปี 2020 แต่สิ่งนี้ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับการที่จะนำขยะภายในท้องถิ่นมาเข้าขบวนการเปลี่ยนเป็นพลังงาน หรือที่เรียกันว่าพลังงานขยะ (WTE) ยังไม่ถูกนำมาใช้ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 140 เมกะวัตต์จะแล้วเสร็จใน 4 จังหวัดทั่วกัมพูชาภายในสิ้นปี 2020 โดยพลังงานแสงอาทิตย์เป็นทิศทางที่กัมพูชากำลังดำเนินไปในแง่ของพลังงานหมุนเวียนในขณะนี้แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนก็ตาม ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะอยู่ที่ประมาณ 0.14 ถึง 0.15 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงที่ขายให้กับ Electricite du Cambodge (EDC) และอัตราค่าไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำอยู่ที่ 0.06 ถึง 0.07 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ และจากโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 0.08 เหรียญต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามรายงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมมีการรวบรวมและส่งขยะมูลฝอยกว่า 1.7 ล้านตัน ไปยังที่ทิ้งขยะซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยขยะมูลฝอยคิดเป็นร้อยละ 51 ของขยะทั้งหมดในปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50766293/solar-still-beats-waste-to-energy/

สปป.ลาวเตรียมทำแผนระบบการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานการจัดการและบริการนครหลวงเวียงจันทน์ (VCOMS) สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KOICA) และสถาบัน Global Green Growth (GGGI) ประชุมกันเมื่อวันศุกร์เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์การจัดการขยะมูลฝอยและแผนปฏิบัติการที่ยั่งยืนสำหรับเวียงจันทน์ในปี 2563-2573 การประชุมเชิงปฏิบัติการยังสื่อสารถึงเป้าหมายสำคัญที่จะบรรลุในปี 2030 คือการสร้างขีดความสามารถในการบำบัดน้ำเสียและขยะเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการระดมทุนจากกองทุนคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์จะเพิ่มโอกาสในการเสียทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยใช้การแยกแหล่งที่มาและกลไกการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการคืนสภาพวัสดุให้สูงสุดโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการบำบัดของเสียโดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกเชิงกลและทางชีวภาพ (MBT) ในอนาคตหากแผนการพัฒนาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเวียงจันทน์จะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่มีระบบการจัดการขยะได้มาตราฐานสากลรวมถึงสิ่งแวดล้อมที่จะดีขึ้นตามมาด้วย

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane115.php