ราคาหัวหอมลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยอาศัยอุปสงค์ในประเทศเพียงอย่างเดียว

ตลาดหัวหอมของเมียนมาร์ต้องพึ่งพาตลาดภายในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีตลาดต่างประเทศในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ยังมีหัวหอมจากฤดูมรสุมที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดย่างกุ้งเพิ่มเติมอีกในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี สต็อกหัวหอมขนาดใหญ่ในบางภูมิภาคอาจทำให้ราคาหัวหอมปรับลดลงอีก ด้านผู้ค้าจากพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำกล่าวว่า ระหว่างวันที่ 6 ถึง 11 พฤศจิกายน ตลาดในย่างกุ้งมีอุปทานหัวหอมวันละกว่า 150,000 viss และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน หัวหอมประมาณ 90,000 หัว ไหลเข้าสู่ตลาดย่างกุ้ง ทำให้ราคาหัวหอมฤดูร้อนจึงลดลงเหลือ 2,300-3,700 จ๊าดต่อหัว ขึ้นอยู่กับขนาดและพื้นที่การผลิต ราคาแสดงให้เห็นการลดลง 200-400 จ๊าดต่อviss เมื่อเทียบกับราคาของสัปดาห์ก่อน หากเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาหัวหอมแตะระดับสูงสุดที่ 3,400-4,300 จ๊าดต่อviss

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/onion-prices-decrease-as-market-shifts-to-solely-rely-on-domestic-demand/

“เมียนมา” เผยตลาดถั่วเขียวนิ่ง เหตุจากอุปสงค์ทั่วโลกซบเซา

หอการค้าและอุตสาหกรรมเขตย่างกุ้ง เปิดเผยว่าราคาถั่วเขียว (Green Gram) ตกต่ำลงมาก ตามความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่อ่อนแอลง โดยราคาถั่วเขียวของภาคกลาง แตะระดับสูงสุดที่ 2.092 ล้านจ๊าตต่อตันในช่วงกลางเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเขียวในปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 1.765 ล้านจ๊าตต่อตัน แสดงให้เห็นว่าราคาถั่วเขียวลดลงราว 300,000 จ๊าตต่อตัน เพียงแค่ 1 เดือนครึ่ง ทั้งนี้ ในเดือน พ.ค. จีนเริ่มมีการดำเนินนโยบายภาษี ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดถั่วเขียวและทำให้ราคาถั่วเขียวปรับตัวลดลง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าเมียนมาเตรียมความพร้อมที่จะส่งออกถั่วเขียวไปยังสหภาพยุโรปในปีนี้ ซึ่งจะทำให้เมียนมามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งมากขึ้นในตลาดโลก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/green-gram-market-calms-down-on-sluggish-global-demand/#article-title