ราคาข้าวในประเทศพุ่ง 2,000 จัตต่อถุง

ราคาข้าในประเทศเพิ่มขึ้น 2,000 วอนต่อถุง ปัจจุบันราคาข้าวมีมูลค่า 32,000-35,000 จัตต่อถุซึ่งงเป็นที่ต้องการของตลาดมาก คาดราคาข้าวดีดตัวก่อนเทศกาลติงจัน (เทศกาลปีใหม่เมียนมาในเดือนเมษายน) หลังจากนั้นไม่นาน ราคามักจะสูงขึ้น ในช่วงต้นมรสุม มักพบสต๊อกข้าวอยู่ในโรงสีแทนที่จะเป็นชาวนา ดังนั้น การขึ้นราคาจึงเกิดขึ้นท่ในช่วงที่อุปทานต่ำ ราคาข้าวมักจะพุ่งสู่จุดสูงสุดในเทศกาลติงจันและทาซวงแดง (ต.ค.-พ.ย.) แต่เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวราคาก็จะตกต่ำลง ราคาอาจยังคงสูงอยู่ในขณะนี้ แต่ความต้องการในตลาดค้าปลีกนั้นไม่ค่อยดีนัก การส่งออกยังไม่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่งผลให้ราคาไม่ดีดตัวขึ้นท่ามกลางอุปสงค์ที่ยังต่ำอยู่ ก่อนหน้านี้มีการซื้อขายข้าวและข้าวหักประมาณ 80,000 ถุงต่อวันที่ศูนย์ค้าส่งข้าวบุเรงนอง ในทางตรงกันข้ามปัจจุบันมีความต้องการลดลงเหลือประมาณ 30,000 ถุง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/domestic-rice-prices-up-by-k2000-per-bag/#article-title

ผู้ประกอบการเนื้อหมูขายราคาหมูเกินราคาที่กำหนด

ผู้ขายเนื้อหมูหลายรายในเมืองหลวงกำลังขายเนื้อหมูให้กับผู้บริโภคโดยไม่มีป้ายราคาเพื่อหวังจะขายราคาที่เกินกว่ารัฐบาลตั้งไว้ ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ได้ประกาศเมื่อวันที่ 30 มกราคมว่าหมูเกรด A ในตลาดควรจำหน่ายปลีกที่ 40,000 kip ต่อกิโลกรัมและ 38,000 kip ต่อกิโลกรัมสำหรับเกรด B แต่ด้วยผลผลิตหมูที่ขาดแคลนหนักจากเชื้อไวรัสสุกรจึงส่งผลให้ราคาของหมูสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 2-3เดือนที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเนื้อหทมูถือเป็นเนื้อสัตว์ที่ คนสปป.ลาวนิยมบริโภคมากที่สุด ดังนั้นหากราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงก็จะส่งผลต่อการบริโภคของประชาชนและในระยะยาวอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเนื่องจากสินค้าหรืออาหารที่มีการนำหมูไปประกอบวัตถุดิบจะต้องมีการปรับราคาสูงตามราคาหมูที่ปรับขึ้นจึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลควรแก้ไขและตรวจสอบผู้ที่ขายราคาเกินจริงอย่างจริงจัง  

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/pork-vendors-flout-price-ceiling-bring-home-bacon-113703