เมียนมาเปิดตัวคลังสินค้าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำแม่โขง-ล้านช้าง

เมื่อวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นาย เจิ้ง จื้อหง เอกอัครราชทูตจีนในเมียนมา เปิดเผยว่าเมียนมาได้เปิดตัวศูนย์คลังสินค้าโครงการในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำแม่โขง-ล้านช้างในรัฐฉาน ภายใต้กองทุนพิเศษความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง(LMC) สร้างขึ้นในเมืองปินดายา เพื่อจัดเก็บสิ่งของบรรเทาทุกข์และสร้างความรู้ตระหนักเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ  ในการนี้ นาย Thet Thet Khine รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคม การบรรเทาทุกข์และการตั้งถิ่นฐาน ได้กล่าวขอบคุณจีน ที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ โดยความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง(LMC) จะประกอบด้วย 6 ประเทศ คือ จีน กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และไทย

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20221130/44be77645715422797fb24a481a2702d/c.html

ออสเตรเลีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์มอบเงิน 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงลุ่มน้ำโขง

ออสเตรเลีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ให้คำมั่นที่จะให้เงินทุนเกือบ 13 ล้านดอลลาร์แก่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่เร่งด่วน การสนับสนุนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาสังคม และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงอย่างกัมพูชา สปป.ลาว ไทย และเวียดนาม ตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2564-2568 ที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) วางไว้ ซึ่งภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงจะมีแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าแห่งชาติให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ยังรวมถึงความมั่นคงของอาหารของประทศในลุ่มแม่น้ำโขง ตลอดจนการพัฒนาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Australia122.php

จีนเตรียมจัดจ่ายวัคซีน COVID -19 ให้ประเทศในลุ่มน้ำโขงเมื่อพัฒนาสมบูรณ์

นายหลี่เค่อเฉียงนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือล้านช้าง – แม่โขง (LMC) ครั้งที่สามผ่านลิงก์วิดีโอซึ่งตามรายงานในซินหัว นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า “จีนจะให้ความสำคัญกับการเข้าถึงประเทศในลุ่มน้ำโขงเพื่อจัดหาวัคซีน COVID-19 เมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ” จีนตั้งใจที่จะจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในสปป.ลาว ภายใต้กรอบของกองทุนพิเศษ LMC และจะจัดหาวัสดุป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 รวมถึงการสนับสนุนมาตราฐานทางการแพทย์ที่ดีขึ้น ในที่ประชุมยังได้มีการเสนอแนวทางการร่วมมือด้านอื่นๆ ที่จะเป็นผลดีต่อประเทศในกลุ่มแม่น้ำโขลง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันข้อมูลอุทกวิทยาของแม่น้ำโขลงรวมถึงการค้าและการท่องเที่ยว ในส่วนของสปป.ลาวเองยังคงได้รับสนับสนุนในการขยายเส้นทางรถไฟสปป.ลาว-จีนที่จะเชื่อมต่อมายังจีนและไทยได้ เป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคและจะเป็นเส้นทางที่สำคัญด้านการค้าและการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/08/26/china-to-provide-mekong-countries-with-covid-19-vaccine/

ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น หารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจและหลักประกันสุขภาพ

รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจสังกัดกระทรวงการต่างประเทศนาย King Phokeo Phommahaxay นำคณะผู้แทนสปป.ลาวเข้าร่วมประชุมผ่านวิดีโอลิงค์ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่นครั้งที่ 13 ในวันที่ 10 มิถุนายนผ่านมาในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับร่างแถลงการณ์ความร่วมมือแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้น ความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระดับภูมิภาคระหว่างญี่ปุ่น – กลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคแม่น้ำโขงรวมถึงการปรับปรุงวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การจะบรรลุเป้าหมายได้นั้นทุกภาคส่วนต้องมีการร่วมมือซึ่งกันและกัน ผลของการร่วมมือจะนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจรวมถึงวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Mekong_113.php

ไฮ-คูล รุกตลาดลุ่มน้ำโขง จ่อขึ้นเบอร์1ฟิล์มกรองแสง

ไฮ-คูลลั่น ปีนี้โกยรายได้ทะลุ 700 ล้าน เตรียมรุกหนักตลาด CLMV เล็งเปิดสาขา ในเวียดนามเพิ่มเท่าตัว หวังขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งลุ่มน้ำโขงใน 3 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงไฮ-คูล เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดฟิล์มกรองแสงโดยรวมปีนี้อยู่ในภาวะที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจ และตลาดรถยนต์ ที่มีอัตราการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ แต่สำหรับไฮ-คูลกลับมีผลการดำเนินธุรกิจสวนกระแสภาวะตลาด มียอดขายของบริษัทปีนี้เติบโต 8-9% จากรายได้ที่ ตั้งเป้าไว้ทั้งปีที่ 700 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามกลยุทธ์การตลาดที่วางไว้ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย ประกอบกับการเดินหน้ารุกตลาดในประเทศไทยต่อเนื่อง และการเดินหน้าเปิดตลาดฟิล์มกรองแสงไปยังประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง หรือ CLMV  โดยเฉพาะตลาดเวียดนามถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และกลุ่มพันธมิตรที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงไฮ-คูล ในปีที่ผ่านมาถึง 70 ราย และปี 63 จะเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัวเป็น 160 ราย ทั้งนี้บริษัทจะต้องก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายใน 3 ปี หลังจากในปีที่ผ่านมา สามารถก้าวขึ้นเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 3 ในประเทศเวียดนามได้แล้ว

ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 – 15 ธ.ค. 2562