แห่ขอบีโอไอไตรมาสแรก 1.8 แสนล้าน เพิ่ม 77% “เกาหลีใต้” ลงทุนมากสุด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่าสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก (ม.ค. – มี.ค.) ปี 2566 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 397 โครงการ เพิ่มขึ้น 9% และมีมูลค่าเงินลงทุน 185,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตัวเลข FDI ในช่วงไตรมาสแรก มีโครงการลงทุนจากเกาหลีใต้และสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโครงการใหญ่ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น แม้จะอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ แต่ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่เลือกใช้ไทยเป็นฐานผลิตสำคัญในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ การออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงการลงทุนจริงมากที่สุดก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาสแรก มีจำนวน 431 โครงการ เพิ่มขึ้น 25% เงินลงทุนรวม 123,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เป็นสัญญาณที่ดีว่าในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า จะมีเม็ดเงินลงทุนเกิดขึ้นจริงมากขึ้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1298638

สปป.ลาวมุ่งมั่นที่จะรับสิทธิประโยชน์ด้านการค้าของประเทศด้อยพัฒนาน้อยที่สุด (LDC)

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมีการจัดประชุมทางวิดีโอระหว่างสำนักงานผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติ (UN) และกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด (LDC) การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทบทวนการสำเร็จการศึกษาของสปป.ลาวจากสถานะการได้รับสิทธิประโยชน์ LDC ซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพด้านการค้าของสปป.ลาวเพราะสิทธิดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการค้าของสปป.ลาวกับคู่ค้าที่สำคัญอย่างยุโรป แต่การสิทธิดังกล่าวจะหมดลงในปี 2567 และจะมีการพิจารณากันในปีนี้ซึ่งจะมีเกณฑ์ 3 ประการ ได้แก่ ดัชนีสินทรัพย์มนุษย์ (HAI) ซึ่งประเมินเป้าหมายด้านสุขภาพและการศึกษาความเปราะบางทางเศรษฐกิจ (EVI) และรายได้ประชาชาติมวลรวม (GNI) ต่อหัว สปป.ลาวผ่านเกณฑ์ประการ 1 และ 2 แต่ในประเด้นด้านเศรษฐกิจสปป.ลาว การเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงร้อยละ 6-7 ต่อปี นอกจากนี้อัตราความยากจนลดลงจากร้อยละ 46 ในปี 2535 เหลือเพียงร้อยละ 18 ในปี 2563 เกณฑ์ดังกล่าวจึงเป็นอุปสรรคของสปป.ลาวในการจะได้รับสิทธิ LDC อย่างไรก็ตามสปป.ลาวยังมีเวลาที่ยื่นขอสิทธิดังกล่าวถึงแม้จะไม่เข้าเกณฑ์ด้านเศรษฐกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos176.php