ปรับปรุงเส้นทางการค้าด่านหม่อตอง-สิงขร ดึงดูดผู้ค้ามากขึ้น

ตามการระบุของผู้ค้าท้องถิ่น เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปริมาณการค้าที่ด่านชายแดนหม่อตอง-สิงขร ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนเมียนมา-ไทยในเขตตะนาวศรี เพิ่มขึ้นเนื่องจากเส้นทางการค้าที่ดีขึ้น ดึงดูดธุรกิจการค้าชายแดนเมียนมาให้ยกระดับการค้าผ่านด่านมากขึ้น โดบมีผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นสินค้าส่งออกหลัก เช่นเดียวกับผลผลิตทางการเกษตร เช่น พริก กล้วย และหัวหอม ผลไม้ สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร นำเข้าจากประเทศไทย เนื่องจากมีเส้นทางการค้าที่ดี พื้นที่นี้จึงอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสำหรับผู้ประกอบการและคนในท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามสถิติที่เผยแพร่โดยกระทรวงการค้า ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 8 มิถุนายน มูลค่าการส่งออกที่ชายแดนหม่อตองอยู่ที่ 0.8377 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออก 0.8220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 0.0157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่ประตูชายแดนหม่อตองได้รับการเปิดอย่างถาวรโดยเมียนมา ในขณะที่ประตูชายแดนสิงขรในประเทศไทยยังคงถูกกำหนดให้เป็นประตูชายแดนชั่วคราวพิเศษ ซึ่งระยะทางจากมะริดไปยังหม่อตองคือมากกว่า 120 ไมล์ และค่าใช้จ่ายในการขนส่งรถบรรทุกอยู่ที่ประมาณ 700,000 จ๊าด หรือเกินกว่าจำนวนนั้นเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/improved-trade-routes-at-mawtaung-singkhorn-border-checkpoint-attracts-more-traders/

เมียนมา-ไทยหารือการพัฒนาการเกษตรและการผลิตปศุสัตว์

วานนี้ 11 พ.ค. 2567 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทานแห่งสหภาพเมียนมา อู มิน น่อง เข้าพบ นายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา และคณะ ณ ห้องประชุมกระทรวง ในการประชุมหารือการอนุญาตให้ผู้ประกอบการเอกชนของไทยลงทุนในการผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ตามกฎหมาย การขยายพันธุ์โคนมและการผลิตผลิตภัณฑ์จากนมเพื่อดึงดูดโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศในเมียนมา การส่งออกถั่วและถั่วชนิดต่างๆ จากเมียนมา การจัดตั้งเขตปลอดโรคปากและเท้าเปื่อยสำหรับโคในประเทศเมียนมา การดำเนินการเขตควบคุมโรคในสัตว์ นโยบายในการส่งออกสัตว์ข้ามพรมแดน ข้อกำหนดสำหรับการพัฒนาบันทึกความเข้าใจสำหรับการส่งออกโค ความร่วมมือในการอนุรักษ์ปลาดุกหัวสั้น กระบวนการเพื่อการผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืนที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือในการพัฒนาการเกษตรและปศุสัตว์ของทั้งสองประเทศ โดยมีปลัดกระทรวงและเจ้าหน้าที่กรมกระทรวงร่วมประชุมด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-discuss-developing-agriculture-and-livestock-production/#article-title

การค้าชายแดนเมียนมา-ไทยมีมูลค่าสูงถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 11 เดือน

การค้าชายแดนของเมียนมากับประเทศไทยมีมูลค่ารวม 4.136 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-มีนาคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 4.99 พันล้านดอลลาร์ที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งลดลงอย่างมากที่ 857.145 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาดำเนินการค้าข้ามพรมแดนกับไทยผ่านทางท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด บ้านพุน้ำร้อน และมอตอง ซึ่งชายแดนบ้านพุน้ำร้อน มีการค้าขายที่ครอบคลุมมากที่สุดซึ่งมีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ชายแดนเมียวดีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 1.097 พันล้านดอลลาร์ ที่ท่าขี้เหล็ก 150.597 ล้านดอลลาร์ ที่มะริด 132.668 ล้านดอลลาร์ ที่เกาะสอง 199.131 ล้านดอลลาร์ และที่มอตอง 21.6 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-tops-us4-1-bln-in-11-months/

การค้าชายแดนเมียนมาร์-ไทยมีมูลค่าทะลุ 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม

ช่วงระหว่างวันที่ 1 ถึง 28 มกราคมที่ผ่านมา การค้าชายแดนของเมียนมากับไทยผ่านทางชายแดนเมียวดี อยู่ใกล้เคียงมีมูลค่า 45.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 10.452 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 34.768 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ ถั่วลิสง หัวหอม พริกแห้ง และพริกสดมายังไทย ส่วนสินค้านำเข้าจะเป็น วัตถุดิบพลาสติก ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง ผงซักฟอก อาหาร และอะไหล่เครื่องจักร นอกจากนี้ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่เน่าเสียง่ายและผลิตภัณฑ์สีเขียว เช่น หัวหอมและพริก ที่ด่านชายแดน จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งรัดการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-reaches-over-us45-mln-in-january/#article-title

เมียนมาร์-ไทย ตัดสินใจยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ตามรายงานของสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) เมื่อวันที่ 17 มกราคม เมียนมา และไทยได้จัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคีไทย-เมียนมาเพื่อส่งเสริมการค้าและความสัมพันธ์ นายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์เอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา พร้อมคณะเข้าพบหารือกับประธาน UMFCCI นายอู เอ วิน และเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานใหญ่ของสหพันธ์ โดยในระหว่างการประชุม การอภิปรายมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างเมียนมาและไทย การเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้า การปรับปรุงมาตรการการค้าชายแดน การขยายธุรกิจและการลงทุน รับรองกระบวนการส่งออกและนำเข้าให้มีความราบรื่น (รวมถึงอาหาร ของใช้ส่วนตัว นม และผลิตภัณฑ์นม) ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 7 มกราคม กระทรวงการค้าได้ออกแถลงการณ์อนุญาตให้นักธุรกิจเปลี่ยนค่ายการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการส่งออกและนำเข้าของเขตการค้าเมียวดี ผู้ประกอบการส่งออกได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุมัติเพื่อส่งไปยังตลาดต่างประเทศผ่านค่ายการค้าชายแดนตามแนวชายแดนเมียนมาร์-ไทย ถ้าไม่เช่นนั้นก็สามารถเลือกเส้นทางการค้าทางทะเลได้ นอกจากนี้ ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา การค้าเมียนมา-ไทย มีมูลค่าทะลุ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ หากเทียบกันในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2022-2023 มูลค่าการค้าสูงถึง 3.951 พันล้านดอลลาร์ ดังนั้นมูลค่าการค้าในปีการเงินปัจจุบันจึงลดลง 385.353 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-decide-to-enhance-economic-cooperation/