การท่าเรือเมียนมา : เรือคอนเทนเนอร์ 52 ลำมีกำหนดเทียบท่าในเดือนพฤษภาคม

การท่าเรือเมียนมาประกาศว่า เรือคอนเทนเนอร์จำนวน 52 ลำจะเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 ประกอบด้วยเรือคอนเทนเนอร์จำนวน 7 ลำดำเนินการโดยสายเรือ Maersk A/S Line, 6 ลำ โดยสายเรือ Cosco Shipping Line และ Samudera Shipping Line, 5 ลำ โดยสายเรือ MSC Line และ SITC Shipping Line, 4 ลำ โดยสายเรือ Ti2 Container Line, 3 ลำ โดยสายเรือ BLPL Shipping Line, CMA CGM ONE Line และ RCL Line และ 2 ลำโดยสายเรือ Evergreen Line, IAL Shipping Line และ PIL Line อย่างไรก็ดี การท่าเรือเมียนมาระบุว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเรือคอนเทนเนอร์เข้ามาเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้ง ในเดือนมกราคม มี 49 ลำ ในเดือนกุมภาพันธ์ 53 ลำ ในเดือนมีนาคม 55 ลำ และในเดือนเมษายน 50 ลำ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanma-port-authority-52-container-vessels-scheduled-to-call-in-may/#article-title

จุรินทร์ บุกท่าเรือแก้ ตู้คอนเทนเนอร์ ขาดแคลน 14 ธ.ค.นี้

รายงานข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันจันทร์ 14 ธ.ค.2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนและอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้น  พร้อมตรวจเยี่ยมกิจการการท่าเรือ ณอาคารที่ทำการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ด้านนางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่าปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าและค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากสายเรือมีนโยบายจัดสรรระวางตู้สินค้า (Space Allocation) และจัดสรรตู้เปล่าหมุนเวียน (Container Allocation) กลับไปยังประเทศจีนและเวียดนามมาก เนื่องจากให้อัตราค่าระวางที่สูงกว่าไทย และการระบาดของ COVID-19 รอบ 2 ในยุโรปและสหรัฐ ทำให้ตู้สินค้าตกค้างที่ปลายทางเป็นจำนวนมาก ต่อเนื่องให้ปริมาณตู้สินค้าที่ต้องหมุนเวียนกลับสู่ระบบหายไปจำนวนมาก ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงให้อัตราค่าระวางที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางสรท.ได้ขอให้สายเรือคงอัตราค่า Local Charge เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการไทย และขอให้ภาครัฐควรพิจารณามาตรการจูงใจให้สายเรือนำตู้เปล่ามายังประเทศไทย เช่น การยกเว้นค่ายกขนตู้เปล่ากลับมาประเทศไทย การยกเว้นค่าภาระท่าเรือให้กับเรือขนส่งสินค้าเป็นการชั่วคราว และขอให้ภาครัฐเจรจาในระดับประเทศเพื่อหาแนวทางส่งตู้ส่วนเกินในประเทศที่มีการนำเข้ามากกว่าส่งออก กลับมาให้ประเทศไทย

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/911654