สายการบิน สปป.ลาว วางแผนเพิ่มเที่ยวบินสู่จีน

หลังจากประเทศจีนเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลทำให้สายการบินใน สปป.ลาว มีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินในการให้บริการไปยังเมืองต่างๆ อาทิเช่น จากเวียงจันทน์ไปยังกวางโจว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ฉางโจว และหางโจว โดยคาดว่าเที่ยวบินจะเริ่มมีการเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม กล่าวโดยนาย Noudeng Chanthaphasouk ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของสายการบิน ซึ่งปัจจุบันสายการบินแห่งชาติให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเวียงจันทน์ไปยังคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนาน โดยสายการบินยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากหลวงพระบางและจำปาศักดิ์ไปยังประเทศจีนเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการเดินทางจะพุ่งสูงขึ้นหลังจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ซึ่งหลังจากจีนประกาศเปิดพรมแดนไปเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ในช่วงสองวันแรก (วันอาทิตย์ที่ 8 และวันจันทร์ที่ 9) มีประชาชนมากกว่า 1,200 คนเดินทางผ่านชายแดน สปป.ลาว-จีน ณ จุดผ่านแดนระหว่างประเทศบ่อเต็น-โมฮัน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ถือวีซ่าธุรกิจ นักศึกษา ทูต และประเภทอื่นๆ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Lao08.php

ซิตี้แบงก์ มองเศรษฐกิจไทยรับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ ปีนี้ขยายตัว 4.3%

นางสาวนลิน ฉัตรโชติธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ที่ราว 25.5 ล้านคน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 3.9 ล้านคน (หรือร้อยละ 35 ของนักท่องเที่ยวจีนปี 2562) อันเป็นผลจากการที่ประเทศจีนเปิดประเทศเร็วกว่าความคาดหมาย ทำให้มีนักเดินทางชาวจีนเดินทางเข้าประเทศเกินกว่าการประมาณการไว้ในเบื้องต้น 1.7 ล้านคน (หรือร้อยละ 15 ของปี 2562) อย่างไรก็ตาม ด้านยอดการใช้จ่ายต่อคนของนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มลดลงกลับคืนสู่ระดับใกล้เคียงปี 2562 หรือ 1,562 ดอลลาร์สหรัฐ หลังข้อมูลล่าสุดชี้ว่ากำลังการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้ลดลงต่ำกว่าในปี 2563 (ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และ 2564 (ที่ราว 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องมาระยะยาวหรือเป็นการเดินทางเพื่อเจรจาธุรกิจมากกว่าการมาพักผ่อนระยะสั้นๆ ด้วยเหตุนี้ ซิตี้แบงก์จึงได้ปรับการคาดการณ์ดุลบัญชีเงินสะพัดของปี 2565 มาอยู่ที่ -3.3% ของ GDP จากเดิมที่ -1.6% รวมถึงปรับลดดุลบัญชีสะพัดปี 2566 ที่น่าจะกลับมาเกินดุล มาอยู่ที่ 2.4% ของ GDP ในปี 2566 จากเดิมที่ 3.8% (โดยใช้ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อหัวที่ 1,590 ดอลลาร์สหรัฐ)

ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-1174004