“เวียดนาม” เผยช่วง 4 เดือนแรกของปี 66 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.7 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 3.7 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 และนักท่องเที่ยวในประเทศมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 38 ล้านคน ทำรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวประมาณ 196.6 ล้านล้านดอง (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ หากพิจาณาเฉพาะในเดือน เม.ย. 2566 พบว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 984,000 คน นับว่าเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว” ที่ถ่ายทำในเวียดนาม ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลกและยังนำเสนอถึงความงามของภูมิประเทศและวัฒนธรรมในท้องถิ่น

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/tourism/vietnam-greets-37-million-foreign-tourists-in-four-months-604229.html

งานสร้างภาพยนตร์ในเมียนมา

การชมภาพยนตร์ของเมียนมาในยุคก่อนๆ เจริญกว่าไทย ด้วยค่าเงินแข็งกว่าไทย ตึกรามบ้านช่องก็เจริญกว่าไทย ดังนั้นการได้ไปชมภาพยนตร์ที่นั่นจะนำหน้ากว่าไทยไปก่อนหนึ่งก้าว ภาพยนตร์ชาติต่างๆ จะเป็นใหม่กว่าที่ประเทศไทยมาก พอมีการปิดประเทศ วงการภาพยนตร์ก็เริ่มถดถอยลง ไม่ค่อยจะมีภาพยนตร์ดีๆออกมาให้ชมกัน ส่วนมากมักจะเป็นแนวเดิมๆ พอเข้าสู่โหมดการเปลี่ยนแปลง วิถีของภาพยนตร์ก็เริ่มเปลี่ยนไป แม้ต่างประเทศภาพยนตร์จะถูกกระแสการเปลี่ยนแปลงจาก IT Disruption ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่เมียนมาการดูภาพยนตร์วัยรุ่นยังเข้าแถวรอชมกันอยู่ แสดงว่าความนิยมยังมีอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดของภาพยนต์ยังไม่ถูก Disrupt ไปเสียทั้งหมด และคนไทยเองก็มีผู้กำกับรุ่นใหม่เข้าไปสร้างหนังดีๆ ออกสู่ตลาด ยกตัวอย่างเช่น คุณนนทวัฒน์ นำเบญจพล ที่สร้างภาพยนต์เรื่องดินไร้แดน (Soil without Land) ,Manta Ray , Michael’s , ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงท่านนี้ได้สร้างภาพยนต์ได้น่าสนใจมากๆ คือไม่จำเป็นที่จะใช้ดาราแสดงนำที่สวย หล่อ มีชื่อเสียงเลย แต่สามารถดึงดูดให้ชมจนอินไปด้วยกับเนื้อหาจริงๆ เป็นที่น่าสนับสนุนผลงานของคนไทยเป็นอย่างมาก

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/trade/607835

กฎหมายภาพยนตร์ใหม่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์: รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสปป.ลาวจะได้รับการส่งเสริมที่สำคัญในไม่กี่ปีข้างหน้าหลังจากการแนะนำกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์ตามที่รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว หนึ่งในผลลัพธ์ที่สำคัญที่กระทรวงคาดหวังจากกฎหมายคือสปป.ลาวและผู้สร้างภาพยนตร์นานาชาติจะได้รับการสนับสนุนให้ผลิตภาพยนตร์ในสปป.ลาวมากขึ้นด้วยกฎที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เนื้อหารายละเอียดของกฎหมายจะเป็นแหล่งอ้างอิงที่มีประโยชน์สำหรับผู้ผลิตภาพยนตร์ นอกเหนือจากการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ กฎหมายใหม่จะให้แนวทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ และจะทำให้ผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์เรียนรู้จากประชาคมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับวิธีการควบคุมอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิภาพ ในการร่างกฎหมายกระทรวงได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลกระบวนการและเสริมว่าคณะกรรมการศึกษาเนื้อหาของกฎหมายที่คล้ายกันในประเทศเพื่อนบ้านก่อนที่จะร่าง นอกจากนี้คณะกรรมการจัดประชุมกับผู้แทนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐและกฎหมายอื่น ๆ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_film_259.php