อิรวดี ทุ่มงบ 100 ล้านจัต ซื้ออุปกรณ์การแพทย์

ด้วยเป้าหมายที่จะป้องกัน COVID-19 รัฐบาลภูมิภาคอิรวดีใช้จ่าย 100 ล้านจัตสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจและชุดป้องกัน โดยเงินจะถูกเก็บรวบรวมผ่านกองทุนของรัฐบาลเขตอิระวดีและถูกส่งไปยังกรมอนามัยในภูมิภาค แม้เมียนมาจะไม่พบผู้ป่วย COVID-19 แต่ต้องหาทางเตรียมการไว้ ดังนั้นจึงต้องการงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อเครื่องช่วยหายใจและชุดป้องกัน และควรเตรียมพื้นที่สำหรับ COVID-19 อีก เมียนมามีโรงพยาบาลระดับอำเภอ 200 เตียงจำนวนห้าเตียงในเขตอิระวดี ในเขตอำเภอปะทิวมีโรงพยาบาลขนาด 500 เตียง หากพบผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะเป็น COVID-19 ในภูมิภาคอินวดี จะถูกส่งตัวไปที่ที่โรงพยาบาลเขตพะสิม

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/ayeyawady-region-to-spend-ks-100-million-on-medical-equipment

รัฐบาลเมียนมาเตรียมแผนรับมือผลกระทบ COVID-19 ต่อเศรษฐกิจของประเทศ

นางอองซานซูจีที่ปรึกษาของรัฐบาลเมียนมากล่าวในที่อยู่ทางโทรทัศน์เกี่ยวกับมาตรการที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันควบคุมไวรัสหากตรวจพบในเมียนมา โดยรัฐบาลจะลดภาษีและอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบและป้องกันการว่างงาน รักษาโรงงานให้ทำงานและลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ สินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจที่มีความเสี่ยงอย่างการผลิตเสื้อผ้า, โรงแรมและการท่องเที่ยวและ SMEs ภาษีล่วงหน้า 2% สำหรับสินค้าส่งออกจะถูกยกเลิกไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณนี้ ธนาคารกลางของเมียนมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5%  โดยการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการรับมือกับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้คณะทำงานระดับชาติกำลังทำงานในแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาด หนึ่งในแผนดังกล่าวคือความพยายามที่จะกระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยว การสร้างงานใหม่ และการฝึกอบรมสำหรับผู้ว่างงาน โดยการปิดโรงงานหาแหล่งวัตถุดิบอื่น เสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับภาค SME

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/govt-preparing-plans-counter-virus-impacts-countrys-economy-state-counsellor-says.html

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเรียกร้องให้ผู้คนปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคเอง

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเรียกร้องให้ชาวสปป.ลาวเริ่มปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่บ้านเพื่อบริโภคในกรณีที่เสบียงอาหารจะหมดไปท่ามกลางการระบาดของโควิด -19 โดยประชาชนควรเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสยังคงเพิ่มขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ท่ามกลางความกังวลว่าหากมีการหยุดชะงักของการค้าระหว่างประเทศจะทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศโดยเฉพาะอาหารเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่การปิดประเทศอาจกลายเป็นจริง เช่นในประเทศไทย ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังเรียกร้องให้รัฐกำหนดให้ปิดประเทศเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้โควิด -19  แพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด สมาพันธุ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทยเสนอให้ปิดการเชื่อมโยงทั้งทางบกและทางอากาศเป็นเวลาสองสัปดาห์หรือไม่เกินหนึ่งเดือนซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนในการรับมือกับการระบาดของโรค ทั้งนี้ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสปป.ลาวกล่าวว่าความกังวลดังกล่าวนั้น ผู้บริโภคสปป.ลาวจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างจริงจัง เขาเสริมว่าชุมชนชนบทในสปป.ลาวมีประเพณีการทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเองมานานซึ่งหมายความว่าผลกระทบของการหยุดชะงักทางการค้าในประเทศจะไม่รุนแรงเท่ากับในประเทศอื่น ๆ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/03/18/lao-pm-urges-people-to-grow-crops-raise-animals-for-own-consumption/

เพิ่มสามโครงการการลงทุนในกัมพูชาเพื่อสร้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่ง

สภาเพื่อการพัฒนาของกัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนสามโครงการด้วยเงินทุนรวม 7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโครงการใหม่สามโครงการจะสร้างงานเกือบ 2,000 ตำแหน่ง สำหรับคนในท้องถิ่น ซึ่งโครงการลงทุนแรกมูลค่าอยู่ที่ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นของ บริษัท จินหมิงหลี่เจี้ยนวันจำกัดซึ่งจะสร้างโรงงานผลิตเส้นด้ายในเขตกงปิสซีจังหวัดกำปงสปือสามารถจ้างพนักงานได้ที่ 180 คน โครงการที่ 2 เงินลงทุนจำนวน 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งอยู่ในจังหวัดตบุงคุมเป็นของ บริษัท ซูเซ็น(กัมพูชา) อุตสาหกรรมจำกัด โดยต้องการคนงานอยู่ที่ 726 ตำแหนน่งในการผลิตเสื้อผ้า โครงการที่สามยังคงอยู่ในภาคการตัดเย็บเสื้อผ้าคือ บริษัท มิลล์ยูไนเต็ดแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เงินลงทุนอยู่ที่ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้างโรงงานในจังหวัดกันแลนด์คาดว่าจะสร้างงาน 912 ตำแหน่งให้กับคนในท้องถิ่น แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ แต่การลงทุนใหม่ในภาคเสื้อผ้ายังคงดำเนินต่อไปโดยให้ความหวังกับเยาวชนสำหรับโอกาสการจ้างงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50702925/three-investment-projects-to-create-2000-jobs/

ธนาคารกลางของกัมพูชาประกาศมาตรการกระตุ้นสินเชื่อภายในประเทศ

ธนาคารกลางกัมพูชาได้ประกาศมาตรการใหม่ 3 มาตรการ เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งขึ้น โดยสนับสนุนให้สถาบันการเงินของประเทศดำเนินการให้กู้ยืมเงินกับภาคเอกชนต่อไปท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งผู้อำนวยการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ได้บรรยายสรุปว่า NBC จะชะลอการดำเนินงานของ Capital Conservation Buffer (CCB) จนถึงปีหน้า, ลดอัตราดอกเบี้ยในการดำเนินงานด้านสภาพคล่อง (LPCO) และลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหนังสือรับรองการฝากเงิน (NCD) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินรายย่อย รวมถึงกระตุ้นให้สถาบันการเงินดำเนินการให้สินเชื่อต่อไปได้ โดยก่อนหน้านี้ NBC ได้ขอให้สถาบันการเงินทุกแห่งรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนไว้ที่ 50% อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ NBC ได้ขอให้เพิ่มเป็น 100% ส่วนต่อมาคือการลดอัตราดอกเบี้ยของ LPCO จาก 3% เป็น 2.5% สำหรับสินเชื่อระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี สำหรับสินเชื่ออายุไม่เกิน 6 เดือนจาก 2.8% เป็น 2.3% และสำหรับสินเชื่ออายุไม่เกิน 3 เดือนจาก 2.6% เป็น 2.1% เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50702862/the-central-bank-announces-measures-to-boost-lending/