‘เวียดนาม’ เผยยอดขายรถยนต์ดิ่งลงฮวบ แม้ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนรถยนต์ลดลงครึ่งหนึ่ง

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ระบุว่าในปี 2566 นับเป็นปีที่มีความท้าทายแก่ตลาดรถยนต์เวียดนาม เนื่องจากยอดขายรถยนต์ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการปรับลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถยนต์ 50% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองทั่วโลก

อย่างไรก็ดีคาดการณ์ว่าในปีนี้ เศรษฐกิจและอุปสงค์จะกลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์มีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายและผู้ผลิตรถยนต์ที่จะนำกลยุทธ์ทางธุรกิจมาใช้และยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/auto-sales-plunge-despite-registration-fee-cut-by-half-2237979.html

‘เวียดนาม’ เผยดัชนีภาคอุตสาหกรรม โต 3.1%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) รายงานว่าดัชนีภาคอุตสาหกรรมและแปรรูป ประจำเดือน ธ.ค.66 เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ระบุว่าดัชนีเพิ่มขึ้นเพียง 1.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเติบโตที่ 7.1% จากปีก่อน ในขณะเดียวกัน มูลค่าเพิ่มของภาคอุตสาหกรรมในปีนี้ เพิ่มขึ้น 3.62% ทั้งนี้ กระทรวงฯ มองว่าตัวเลขอัตราการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ของอุตสาหกรรมทั้งประเทศที่เผชิญกับความท้าทายและอุปสรรรค โดยมูลค่าเพิ่มการผลิตเติบโตในอัตราที่ต่ำที่สุด ตั้งแต่ปี 2554-2566 และมีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไม่มากนัก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/sales-index-of-processingmanufacturing-up-31/276097.vnp

AIDC ผนึกกลุ่ม ปตท. ร่วมพัฒนาสวนกาแฟวนเกษตร

Asia Investment, Development and Construction Sole Co., Ltd. (AIDC) และกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท ปตท. (ลาว) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ความเข้าใจ (MOU) ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในการสนับสนุนสวนกาแฟวนเกษตรในประเทศลาว เป้าหมายของความร่วมมือคือเพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมีสถานที่ปลูกพืชที่มีประสิทธิผลและยั่งยืนมากขึ้น ข้อตกลงดังกล่าวลงนามระหว่างประธาน AIDC นายเพชรสภา ภูมิมาศักดิ์ และตัวแทน OR ปตท. และ ปตท. (ลาว) ซึ่งมี CEO ของ OR นายดิสทัต ปันยารชุน และบุคคลอื่น ๆ เป็นสักขีพยาน

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_08_AIDC_y24.php

ลาวเทเลคอมเปิดตัวบริการ 5G นำลาวสู่ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ

บริษัท ลาวโทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักในชื่อลาวเทเลคอม ได้เปิดตัวบริการ 5G พร้อมแพ็คเกจข้อมูล 5G พิเศษ เพื่อรองรับลูกค้าของลาวเทเลคอม ซึ่งตรงกับการเริ่มต้นสัปดาห์ดิจิทัลลาว 5 วัน งานดังกล่าวมีระยะเวลา 5 วันเริ่มต้นขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติในเวียงจันทน์ และดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม 2567 ในงานเดียวกัน รัฐบาลยังได้ประกาศให้วันที่ 10 มกราคม เป็นวันดิจิทัลแห่งชาติ โดยลาวเทเลคอมเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายแรกในลาวที่เปิดตัวบริการ 5G อย่างเต็มรูปแบบ สอดคล้องกับการประกาศวันดิจิทัลแห่งชาติ และแสดงถึงความสำคัญต่อการพัฒนาของลาว นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ยังได้เข้าร่วมพิธีเปิดตัวบริการ 5G ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท รองผู้อำนวยการ บริษัทลาวโทรคมนาคม พร้อมด้วยแขกรับเชิญอื่นๆ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_08_laotel_y24.php

ราคาทองคำบริสุทธิ์แตะประมาณ 3.75 ล้านจ๊าดในตลาดภายในประเทศ

ราคาทองคำบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.75 ล้านจ๊าดต่อ tical (1 tical = 0.578 ออนซ์หรือ 0.016 กิโลกรัม) ในตลาดที่ไม่เป็นทางการ แม้ว่าราคาทองคำสปอตและราคาอ้างอิงโดยสมาคมผู้ประกอบการทองคำย่างกุ้ง (YGEA) จะลดลงก็ตาม โดยราคาทองคำสปอตปัจจุบันอยู่ที่ 2,031 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ YGEA กำหนดราคาอ้างอิงไว้ที่ 3.6514 ล้านจ๊าดต่อ 1 tical ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกัน 100,000 จ๊าดต่อ 1 tical ระหว่างราคาของ YGEA และมูลค่าตลาดจริง อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ YGEA ใช้อัตราการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารที่กำหนดโดยธนาคารกลางแห่งเมียนมา CBM ในการคำนวณราคาอ้างอิงสำหรับทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งบ่งชี้ถึงช่องว่างขนาดใหญ่ที่ 400,000-500,000 จ๊าดต่อ tical ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนมีมูลค่าประมาณ 3,500 จ๊าดต่อดอลลาร์ ในตลาดซื้อขายที่ไม่เป็นทางการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pure-gold-price-hits-around-k3-75-mln-in-domestic-market/#article-title

‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาด GDP เวียดนาม ปี 67 โต 6.7%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ในปี 2567 อยู่ที่ 6.7% (6.2% และ 6.9% ในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของปี ตามลำดับ) ในขณะที่นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำประเทศไทยและเวียดนาม มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามยังคงอยู่อยู่ในระยะกลาง พร้อมกับคงรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/standard-chartered-forecasts-vietnams-2024-gdp-growth-at-67/276076.vnp