ฮานอยยังคงเป็นจุดหมายในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงสุด ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของหน่วยงานคณะกรรมการประชาชนประจำนครเมือง (The Municipal People’s Committee) เปิดเผยว่ากรุงฮานอยมีมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ประมาณ 6.23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยมูลค่าเงินทุนจากต่างประเทศ 503 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากทั้งหมด จะนำไปส่งเสริมโครงการใหม่ 631 โครงการ และนักลงทุนต่างชาติอัดฉีดเงินทุนกว่า 5.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไห้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น ผ่านการซื้อหุ้นและสนับสนุนเงินทุน ในขณะเดียวกัน กรุงฮานอยตั้งเป้ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 ซึ่งจะลงทุนผ่านการเป็นหุ้นส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นแหล่งเงินทุน FDI มากที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาสิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ นอกจากนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินงานปรับปรุงให้เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ และเร่งปฏิรูปการบริหารภาครัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hanoi-remains-vietnams-biggest-fdi-magnet-in-nine-months-404452.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังจีนพุ่งสูงขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังประเทศจีน ด้วยมูลค่า 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.4 ทางด้านปริมาณอยู่ที่ 42,199 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกา จีน และเนเธอร์แลนด์ ยังคงเป็นผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในช่วงเวลาดังกล่าว ในส่วนของสถานการณ์การส่งออกสินค้าไปยังจีนนั้นอย่างเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องมาจากความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เป็นต้น นอกจากนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-cashew-nut-exports-to-china-surge-in-nine-months-404405.vov

จำนวนนักท่องเที่ยวในปีงบประมาณที่ผ่านมา

ปีงบประมาณ 61-62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อทำธุรกิจจำนวน 1,218,891 คนเพิ่มขึ้น 442,843 คน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 526,248 คน ซึ่งในปี 62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 954,929 คน และที่เข้ามาทำธุรกิจ 263,962 คน จากเดือน ม.ค. – ส.ค ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนสูงสุด รองลงมาคือเกาหลี โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 161% และเกาหลีเพิ่มขึ้น 77% จากปัญหาชาวยะไข่ในปี 60 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกลดลงถึง 40% ภายในปี 61 นโยบาย Look East ในปี 61-12 ที่ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊าและวีซ่าสำหรับพลเมืองจีนที่เดินทางเข้าประเทศโดยเครื่องบิน ซึ่งมีระยะทดลอง 1 ปี หลังจากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้นจาก 3,443,133 คน ในปี 60 เป็น 3,551,428 ในปี 61 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านชายแดนเป็นอันดับแรกและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศด้วยการยื่นขอวีซ่าเป็นครั้งที่สอง

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/tourist-arrivals-up-last-fy

เนปิดอร์ตั้งเป้าหารายได้จากธุรกิจการจัดประชุม

เนปิดอร์มุ่งเน้นที่จะพัฒนาการจัดประชุม การจัดนิทรรศการและการแข่งขันกีฬาในปี 63 เพื่อสร้างรายได้มากขึ้นให้กับเมืองหลวง สมาคมการท่องเที่ยวแห่งเมียนมาอ้างจากสื่อของรัฐว่า เนปิดอร์มีศักยภาพในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดประชุมขนาดใหญ่ การประชุมทางวิชาการหรือวิชาชีพ และการจัดกิจกรรมกีฬา เนปิดอร์มีโรงแรมหลายแห่งและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำ สนามกีฬา และสนามกอล์ฟ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการแข่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ แผนการสำหรับการท่องเที่ยวการกีฬาได้ถูกร่างขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเริ่มในปี 63

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/nay-pyi-taw-targets-convention-business.html

เจ้าหน้าที่สปป.ลาวทบทวนความพยายามในการปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน

คณะกรรมการเลขาธิการแห่งชาติว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนและกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้พบปะกันเพื่อทบทวนงานเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางถนนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนยานพาหนะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและความแออัดของการจราจรมากขึ้น โดยเฉลี่ยในแต่ละปีตั้งแต่ปี 57-61 มีผู้เสียชีวิต 15 คนต่อประชากร 100,000 คนในประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุมยังได้หารือถึงกิจกรรมร่วมในอนาคตที่เป็นไปได้โดยมีจุดประสงค์ในการร่วมมือกันเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต กระทรวงโยธาธิการและขนส่งโดยร่วมมือกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกระทรวงสาธารณสุข องค์กรระหว่างประเทศและกลุ่มอื่น ๆ กำลังดำเนินการเพื่อหาวิธีในการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เสริมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎจราจร  การเพิ่มทางแยกสร้างวงเวียนปรับปรุงและติดตั้งสัญลักษณ์และป้ายจราจรเพิ่มเติมและทาสีเครื่องหมายเลนเพิ่มเติมและตัวบ่งชี้อื่น ๆ บนถนน และการสนับสนุนความปลอดภัยทางถนนและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_officials_225.php