หอการค้าไทยหวังเม็ดเงินสะพัดเลือกตั้งดันจีดีพี

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. พบว่าปรับตัวดีขึ้นในรอบ 5 เดือน อยู่ที่ระดับ 80.07 จากความชัดเจนในการกำหนดการเลือกตั้ง ระบุผู้บริโภคระมัดระวังใช้จ่ายกังวลเศรษฐกิจโลก-ไทยชะลอตัวจากปัจจัยลบต่างประเทศ คาดเม็ดเงินสะพัดเลือกตั้งดันจีดีพีไตรมาส 1 โต 3.5-4% แม้ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ สงครามการค้า ฯลฯ ด้านสินค้าเกษตรยังทรงตัวทำให้ผู้บริโภคระวังในการใช้จ่าย และคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัว 4 – 4.2%

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/691846

06/02/62

ประเทศต่างๆสนใจจ้างแรงงานชาวเวียดนาม

กระทรวงแรงงาน ทุพพลภาพ และสวัสดิการสังคม (MOLISA) เผยรายงานเวียดนามกำลังมองหาตลาดแรงงานใหม่สำหรับแรงงานชาวเวียดนามในปีนี้ นอกเหนือจากตลาดเก่า รวมไปถึงหลายประเทศแสดงความสนใจจ้างแรงงานชาวเวียดนาม ประกอบไปด้วยบางประเทศแถบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง ดังเช่น คูเวตที่ต้องการเซ็นสัญญากับแรงงานชาวเวียดนาม เป็นต้น ในปีที่แล้ว เวียดนามส่งแรงงานไปยังต่างประเทศถึง 140,000 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้และเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 60

ที่มา : http://vovworld.vn/en-US/news/countries-keen-to-recruit-vietnamese-workers-721899.vov

06/02/62

กฟผ จ่อซื้อ ไฟฟ้าสปป.ลาว 2 โครงการเข้าระบบปีนี้

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เผยในปีนี้ กฟผ.เตรียมรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน จำนวน 3 โครงการ คือ โครงการไซยะบุรี กำลังผลิต 1,220 เมกะวัตต์, โครงการน้ำเงี๊ยบ 1 กำลังผลิต 269 เมกะวัตต์ และโครงการเซเปียน- เซน้ำน้อย กำลังผลิต 345 เมกะวัตต์ แต่ในส่วนของโครงการเซเปียน- เซน้ำน้อยนั้นต้องเลื่อนจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) คาดว่าไม่ทันปีนี้ หลังจากในปีที่ผ่านมาประสบปัญหาเขื่อนดินแตก และทางการ สปป.ลาวอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม คาดว่าการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศในอนาคตส่วนใหญ่ไทยจะยังคงเป็นการรับซื้อจาก สปป.ลาวเป็นหลัก เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำมีต้นทุนต่ำอยู่ที่กว่า 2 บาทต่อหน่วย และปัจจุบันประเทศไทยทำสัญญา ซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ประเทศเดียวเท่านั้น ส่วนจีนที่เคยมี ข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้า ปริมาณ 3,000 เมกะวัตต์นั้นได้หมดอายุไปตั้งแต่ปี 61 แล้ว

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

07/02/62

กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75%

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 4 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ ร้อยละ 1.75 ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์  โดย 2 เสียงเห็นว่าควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 เป็น ร้อยละ 2 ต่อปี ขณะที่มีกรรมการ 1 คน ลาประชุม โดยกนง.มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องแม้การส่งออกยังมีความเสี่ยง

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c5a8cd2e3f8e40ace8e36b3

07/02/62

กกร. คาด GDP ไทยปี 62 ขยายตัว 4.0-4.3% เมื่อเทียบกับปี 61 โต 4.1% ห่วงค่าเงินบาทแข็งกระทบส่งออก

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาด GDP ไทยปี 62 ขยายตัวได้ในกรอบประมาณการของ กกร.ที่ร้อยละ 4.0-4.3 จากทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 61 ขยายตัวร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขไตรมาส 4 ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องส่งออก และการลงทุนภาครัฐ และจากปัญหาสงครามการค้า คาดจะส่งผลให้การส่งออกของไทยในปี 62 อาจขยายตัวชะลอลงมาอยู่ในกรอบประมาณการ ที่ร้อยละ 5-7 จากปี 61 ขยายตัว ร้อยละ 6.7 นอกจากนี้ กกร.ยังห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c5a818be3f8e40ac38e3231

07/02/62

 

จ. พะเยา จับมือแขวงไซยะบุลี สปป.ลาว พัฒนาศักยภาพบุคลากรด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ร่วมกันจัดประชุมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและหน่วยบริการสุขภาพที่ติดอำเภอชายแดนของไทยและสปป.ลาว ระหว่างจังหวัดพะเยากับแขวงไซยะบุลี เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและหน่วยบริการสุขภาพที่ติดอำเภอชายแดนของประเทศไทยและสปป.ลาว ด้านช่องทางเข้า-ออกด่านให้ได้ตามมาตรฐานพ.ร.บ.โรคติดต่อปี 58 และทบทวนข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสถานการณ์โรคในพื้นที่โดยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านสาธารณสุขเฝ้าระวังโรคติดต่อและควบคุมวัณโรคชายแดนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์อาหารผลิตภัณฑ์สุขภาพคุ้มครองผู้บริโภคและพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพการป้องกันควบคุมโรคอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : www.thainews.prd.go.th

07/02/62

จับประเด็น GPSC เล็งตั้งโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่เมียนมา

บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เผยบริษัทร่วมกับกลุ่ม ปตท.เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 2 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปแผนการพัฒนาโครงการ ภายในปี 62 นี้จะมีความชัดเจน โครงการโรงไฟฟ้าที่เมียนมาจะเป็นการร่วมมือกับ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. 1 โครงการ และอีก 1 โครงการ เป็นการร่วมกับธุรกิจก๊าซธรรม ชาติ บมจ.ปตท. ที่มีแผนจัดตั้งคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ภายใต้แผนกลยุทธ์การลงทุนต่อยอด Gas To Power เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของกลุ่ม ปตท. โดยมี GPSC เป็นแกนนำลงทุนธุรกิจไฟฟ้า

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/tpd/2950264

06/02/62

ครีมเวียดนามเถื่อนทะลักเตือนใช้หน้าพัง

ศุลกากรหนองคายนำทหารดักจับ 2 หนุ่มลอบขนเครื่องสำอางเถื่อนข้ามโขงเข้าไทย ยึดของกลาง 40 กระสอบ ผู้ต้องหาเผยแม่ค้าชาวสปป.ลาวจ้างส่งให้ลูกค้าชาวไทย พบเป็นสินค้าจากเวียดนาม ส่งขายตามตลาดนัด คาดผสมสารอันตราย พบของกลางเครื่องสำอางประเภทครีมทาหน้า 40 กระสอบ รถกระบะซูซูกิ และเรือยนต์ 1 ลำ มูลค่าของกลางเฉพาะเครื่องสำอางรวมภาษีประมาณ 1 ล้านบาท ถูกว่าจ้างให้นำสินค้ามาส่งให้ลูกค้าที่หนองคาย จำนวน 3 เที่ยว ได้เงินค่าจ้าเที่ยวละ 3,000 บาท ซึ่งเครื่องสำอางประเภทนี้ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ป็นอันตรายต่อสุขภาพ คาดว่าเครื่องสำอางเหล่านี้จะไปวางขายตามตลาดนัด

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/tpd/2950229

06/02/62

การพัฒนาตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชากรณีศึกษาตลาดการค้าชายแดนช่องจอมจังหวัดสุรินทร์

จากการวิเคราะห์ SWOT พบว่า จุดแข็ง คือ ที่ตั้งตลาด จุดอ่อน คือ จำนวนขอทานมีมากและไม่ความปลอดภัย โอกาส คือ ใกล้กับชายแดน การติดต่อค้าขายกันสะดวก รัฐฯ มีนโยบายหนุนการค้าขายกับต่างชาติ เปิดเสรีการค้า สนับสนุนการพัฒนาจังหวัด ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่ม ASEAN และอุปสรรค คือ เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ เงินต่างสกุลกัน ความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ ซึ่ง แนวทางการพัฒนาตลาดการค้าชายแดนเป็นสารสนเทศที่ อบจ.จังหวัดสุรินทร์และ อบต.ด่านพัฒนา อําเภอกาบเชิง  สามารถใช้เป็นแนวทางการจัดการ เช่น การจัดทําแผนผังในตลาด การจัดทําคู่มือท่องเที่ยวตลาดช่องจอม

ที่มา: https://tci-thaijo.org/index.php/npuj/article/view/43939/36326

แนวทางการพัฒนาตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีศึกษาตลาดการค้าชายแดนจังหวัดจันทบุรี

ควรปรับปรุงพัฒนาด่านและตลาดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เพิ่มความรู้และศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ การปรับปรุงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และระบบคมนาคมโลจิสติกส์ ปรับปรุงระบบภาษี พิธีการทางศุลกากรให้เหมาะสม เป็นต้น จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและประสานงานการค้าชายแดนไทย -กัมพูชาประจำจังหวัดจันทบุรี เพื่อให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา และประสานงานการค้าชายแดนแก่นักธุรกิจที่สนใจ

ที่มา: https://drive.google.com/open?id=1k6Nz_-ZeiuRHcTvpZ8M_CMSVrU1qPivI