เมียนมาส่งออกเนื้อวัวมากกว่า 215,000 ตัว ในระยะเวลา 2 ปี

กระทรวงการพาณิชย์กล่าวว่าขณะนี้มีการส่งออกเนื้อวัวจำนวนกว่า 215,000 ตัว มูลค่า  261.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงได้ดำเนินการลงนามในข้อตกลงระหว่างปศุสัตว์ กรมสัตวแพทย์และสัตวแพทย์ และสำนักบริหารคุณภาพการตรวจสอบและกักกันของจีน เพื่อพิสูจน์ว่าวัวที่ส่งออกของประเทศปลอดโรค กระทรวงได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานมาตรฐานเพื่อรักษาทรัพยากรปศุสัตว์ของเมียนมา เฉพาะวัวอายุ 5 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกและต้องมีการคัดตัววัวชายก่อนส่งออก หลังจากออกใบอนุญาตส่งออกแล้วเราแจ้งให้รัฐบาลในระดับภูมิภาคหรือรัฐอำนวยความสะดวกในการขนส่งและเรามั่นใจว่าไม่มีการส่งออกที่ผิดกฎหมาย

ที่มา :  https://www.mmtimes.com/news/myanmar-exports-over-215000-cattle-two-years.html

30/11/61

ธนาคารซูซี่เตรียมจัดตั้งศูนย์การเงินเมียนมาในปีหน้า

เตรียมจัดตั้งศูนย์เพื่อเป็นฐานแรกของธนาคารในต่างประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ภาคใต้ที่ออกแบบมาเพื่อสำรวจตลาดการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และขยายบริการทางการเงินให้กับอุตสาหกรรมการประมงในเมียนมา เพื่อขยายการให้บริการทางการเงินแก่อุตสาหกรรมการประมงในเมียนมาในปีหน้า ซึ่งจะเป็นนิติบุคคลในต่างประเทศแห่งแรกของธนาคาร Suhyup เมียนมาอยู่ในขั้นตอนแรกของการปฏิรูปทางการเงินซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันระบบการเงินเมียนมายังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในโลก เมียนมายังคงเป็นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นเงินสด ประวัติความเป็นมาของเงินเฟ้อที่สูงการไหลเข้าของธนาคารและการปล่อยสินเชื่อภายในทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจจากธนาคารและอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน

ที่มา : http://newsworld.co.kr/detail.htm?no=4775

30/11/61

รัฐบาล สปป.ลาว เสนอการยืนยันโควต้าข้าราชการ

รัฐบาลสปป.ลาวจะลดจำนวนข้าราชการประจำปี 62 เหลือเพียง 1,500 คนซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในปี 61 ซึ่งเป็นสัดส่วนของข้าราชการพลเรือนที่สูงที่สุดในอาเซียน นอกจากนี้ยังระงับการเพิ่มขึ้นของดัชนีเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน โดยนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวกล่าวว่าแม้ว่าอัตราส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญจะสูงที่สุดในอาเซียน แต่คุณภาพก็ต่ำ รัฐบาลจึงจะจัดให้มีการจัดตั้งประชาคมทั่วประเทศตั้งแต่กลางถึงระดับท้องถิ่น และจัดสรรงบประมาณใหม่ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ครูชนบท เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสำนักงานที่ต้องการจริงๆ การจัดสรรความรับผิดชอบภายในหน่วยงานรัฐบาลจะขึ้นอยู่กับหลักการที่ว่าข้าราชการพลเรือนสามารถทำงานได้ในเชิงคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของข้าราชการพลเรือนเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตผลงานที่มีประสิทธิภาพและส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางไปยังระดับท้องถิ่นเพื่อช่วยเสริมสร้างอำนาจของหน่วยงานท้องถิ่น

ที่มา :  http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=41938

29/11/61

EXIM BANK ตั้งสนง.ในเวียงจันทน์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)และคณะกรรมการ ร่วมกันเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งเป็นการสนองนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบนโยบายให้เอ็กซิมแบงก์ไปศึกษาลู่การทางเปิดสำนักงานให้บริการผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ เพื่อดูแลและช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเริ่มจากกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 17พ.ค 61 EXIM BANK ได้รับใบอนุญาตจาก Ministry of Planning and Investment สปป.ลาว ในการจัดตั้งสำนักงานผู้แทนและได้เปิดดำเนินการ

ที่มา : www.innnews.co.th

30/11/61

กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว เตรียมพร้อมตัดค่าไฟฟ้าให้เกษตรกรในท้องถิ่นถึง 50%

กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ยังคงดำเนินการแก้ไขยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าของภาคการผลิตทางการเกษตรได้ ซึ่งแผนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรกรรมโดยการลดราคาไฟฟ้า 50% สำหรับผู้ผลิตพืชผล และ 30% สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งการสนับสนุนจากภาครัฐจะส่งผลให้ผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยลดหนี้สินในส่วนของไฟฟ้าที่สะสมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ซึ่งมีประมาณ 200,000 ล้านกีบ

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=41948

29/11/61

ท่าอากาศยานนานาชาติสีหนุวิลล์จำเป็นต้องได้รับการยกระดับ

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เผย ท่าอากาศยานนานาชาติสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามท่าอากาศยานนานาชาติของกัมพูชา จำเป็นต้องได้รับการยกระดับ ทั้งในส่วนของรันเวย์ อาคารผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อเพิ่มความสามารถในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 3 ล้านคนต่อปี และรองรับความต้องการในการเดินทางในอนาค

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5bff9713e3f8e4e9040db4e0

30/11/61

กัมพูชาร้องขอให้ UAE ลงทุนในสาขาสำคัญ ๆ

กัมพูชาขอให้ UAE ลงทุนในอุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยวอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา เพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดความยากจน โพสต์บนหน้า Facebook ของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศของ UAE Reem al-Hashimi โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชยศาสตร์ นายศศักดิ์ เข้าร่วมงาน Dubai World Expo 2020 ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้ให้ความสำคัญกับความคืบหน้าของการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาและนโยบายกระตุ้นที่รัฐบาลมอบให้กับ บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในกัมพูชา

ที่มา :  https://www.phnompenhpost.com/business/kingdom-requests-uae-invest-key-sectors

29/11/61

ธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์ : โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม

ปัจจุบันเวียดนามกลายเป็นแหล่งส่งออกกาแฟกว่า 1.4 ล้านเมตริกตัน เป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล (2.5 ล้านเมตริกตัน) คนเวียดนามนิยมดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว การบริโภคเฉลี่ยต่อหัวสูงขึ้นถึง 1.5 กิโลกรัม/ปี เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคกาแฟแบบเดิมเปลี่ยนไปและชนชั้นกลางที่มากขึ้น อย่างร้านกาแฟ/คาเฟ่ที่ได้รับความนิยมในนครโฮจิมินห์มักจะมีการตกแต่งที่ทันสมัย มีบริการ Wifi และเครื่องปรับอากาศ เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมทางสังคม อีกทั้งการกินกาแฟยังมีแตกต่างกันออกไปโดยแบ่งเป็นภาคเหนือและภาคใต้ โอกาสของธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์ 1) ภาคใต้มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมและมีชนชั้นกลางจำนวนมาก เหมาะสำหรับการขยายธุรกิจแฟรนไซส์กาแฟเพราะทั้งรายได้ประชากรและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 2.) พฤติกรรมการบริโภคที่เร่งรีบมากขึ้น กาแฟแคปซูล จึ่งเป็นสินค้าที่น่าสนใจเพราะมีการเติบโต 11% และกำลังตีตลาดในอาเซียน 3) กาแฟสำเร็จรูปของไทยมีคุณภาพและมีโอกาสที่จะทำตลาดได้ 4) อุตสาหกรรมสนับสนุนหรือธุรกิจต่อยอด เช่น การนำไปใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์

ที่มา: ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์

เมษายน 2561

ทำไมคนเวียดนามในภาคใต้จึงนิยมบริโภคสินค้าไทย ?

ปัจจุบันชนชั้นกลางเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจของเวียดนาม ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจึงมีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยราคาสมเหตุสมผลคุณภาพทัดเทียมกับสินค้าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ปัจจัยที่พิสูจน์ว่าสินค้าไทยมีดีอย่างไร คือ 1) การเต็มใจจ่ายซื้อสินค้า 2) การซื้อสินค้าไม่เอาราคาเป็นที่ตั้ง 3) สัญลักษณ์ Made in Thailand สามารถการันตีได้ถึงคุณภาพ แม้ปัจจุบันจำนวนคู่แข่งจะมากขึ้นแต่โอกาสยังสดใสอยู่ โดยเฉพาะเมืองอย่างโฮจิมินห์ ดานัง และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เพราะกำลังซื้อที่เพิ่มถึง 10% ในปี 2560 และคาดว่าในปี 2563 มูลค่าการค้าปลีกจะอยู่ที่ 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หนทางสำหรับสินค้าไทยยังมีอยู่มากจากความชื่นชอบสินค้าไทยในคุณภาพ ภาพลักษณ์ และราคา และการที่ปัจจัยทางด้านการคมนาคมที่เชื่อมกัน รวมถึงระบบโลจิสติกส์มีความเข้มแข็ง สินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตในภาคใต้เวียดนาม ได้แก่ สินค้าด้านการดูแลสุขภาพ เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม และการศึกษา

ที่มา: ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์

21 กันยายน 2560