รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกเดินทางร่วมงาน VIFA EXPO ครั้งที่ 15 ที่ประเทศเวียดนาม

คณะผู้แทนเมียนมานำโดย U Min Min รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางออกจากย่างกุ้งไปยังเวียดนามเมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมงาน Vietnam International Furniture and Home Accessories Fair ครั้งที่ 15 ซึ่งวางแผนจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 กุมภาพันธ์ ที่ SKY EXPO Vietnam International Exhibition Center ในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยนิทรรศการนี้จะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ เช่น ผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้ซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจากต่างประเทศ ได้ร่วมเจรจาโดยตรงระหว่างนักธุรกิจด้วยกัน และบรรลุโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจเพื่อเพิ่มการส่งออกผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เมียนมาไปยัง ตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนเมียนมาจะเข้าร่วมงาน ศึกษาสภาพการปลูกมะพร้าวและการส่งออกในเวียดนาม และหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตร

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/deputy-minister-for-commerce-leaves-for-15th-vifa-expo-in-vietnam/

ตลาดจิ้งหรีดกัมพูชายังคงเติบโตในระดับต่ำ แม้ตลาดจะมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

Lundy Chou ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ บริษัท Agri House Co., Ltd. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้คนในกัมพูชา รวมถึงภาคการลงทุน ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญในอุตสาหกรรมการแปรรูปจิ้งหรีด โดยเดิมทีจิ้งหรีดมักถูกบริโภคในหมู่ผู้คนกัมพูชามาโดยตลอด ซึ่งจริงๆ แล้วแมลงชนิดนี้ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สามารถนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างโปรตีน โดยบริษัทคาดว่าอุตสาหกรรมจิ้งหรีดในปัจจุบันมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้าน Nhourk Pearum เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจิ้งหรีด มองเห็นถึงความท้าทายหลักของอุตสาหกรรมจิ้งหรีด โดยเฉพาะด้านราคาภายในประเทศ รวมถึงกฎเกณฑ์การผลิตและการแปรรูปในตลาดโลกที่ค่อนข้างเข้มงวด สำหรับสถานการณ์ในตลาดโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับผงคริกเก็ต (จิ้งหรีด) ซึ่งถือเป็นโปรตีนทางเลือกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัวกว่าร้อยละ 30 ต่อปี ในอีกห้าปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกขยายตัวต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501443951/kingdoms-multi-million-dollar-market-for-crickets-lies-low/

คาด GDP กัมพูชาปีนี้พุ่งแตะ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์

คาด GDP กัมพูชาปีนี้ อาจเพิ่มขึ้นไปแตะมูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) นอกจากนี้คาดว่า GDP ต่อหัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,071 ดอลลาร์ ภายในปี 2024 เทียบกับมูลค่า 1,917 ดอลลาร์ ในปี 2023 ขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 6.6 ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.1 ในปีนี้ อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ขยายวงกว้าง ด้าน Phan Phalla รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า ภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มในระบบเศรษฐกิจกำลังเติบโตได้ดี รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การเพิ่มขึ้นของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นำมาโดยนักลงทุนจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501443985/cambodias-gdp-likely-to-touch-35b-this-year-ministry-says/

ภาคเอกชน ขอ ธปท.ดูอัตราดอกเบี้ย ชี้ไทยสูงกว่าประเทศอื่นในอาเซียน

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่อยู่ระดับ 2.5% ซึ่งสูงในรอบ 10 ปี ว่า อยากเสนอแนะต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แบงก์ชาติ ให้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือว่าอยู่ในอัตราที่สูง และยังไม่มีกลไกกำกับดูแลว่า ควรจะอยู่ที่อัตราเท่าไหร่ หากเปรียบเทียบตัวเลขระหว่างเงินกู้ไทยเทียบกับประเทศอาเซียน ปรากฎว่า อัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยสูงกว่ามาก ดังนั้น อาจต้องพิจารณาระดับที่เหมาะสม

ที่มา : https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/388225

‘IMF’ ชี้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม ขยายตัวสูง

นายเปาโล เมดาส หัวหน้าฝ่ายการคลังของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประจำประเทศเวียดนาม ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ‘Dau Tu’ บอกถึงข้อสังเกตของทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้ว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถส่งเสริมการบริโภคและการผลิต ขณะที่เร่งการเบิกจ่ายจากงบประมาณการลงทุนภาครัฐได้อีกด้วย และแนวโน้มชองเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวได้ดี

ทั้งนี้ ธนาคารกลางควบคุมอัตราเงินเฟ้อของประเทศและบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยไม่สูญเสียทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ดีในปัจจุบันยังไม่เห็นช่องทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง

นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.8% ในปี 2567 เนื่องมาจากได้แรงหนุนจากการส่งออก แต่สิ่งสำคัญที่เวียดนามต้องเร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว คือ ภาคอสังหาฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดตราสารหนี้ขององค์กร

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-likely-to-maintain-high-economic-growth-in-medium-term-imf-expert-2251714.html

‘วินฟาสต์’ เตรียมตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดีย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของเวียดนาม เตรียมดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในเมืองทุติโคริน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย โดยจากการลงทุนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างวินฟาสต์และรัฐทมิฬนาฑู ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเส้นทางการขนส่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของอินเดียและภูมิภาค ทั้งนี้ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในวันที่ 6 ม.ค. ความร่วมมือดังกล่าวมุ่งไปที่การก่อสร้างโรงงาน EV ในเฟสแรกกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทที่จะขยายกิจการไปยังทั่วโลกและทิศทางของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร จะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 3,000-3,500 ตำแหน่ง ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในอินเดีย แต่ยังรองรับในการส่งออกไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vinfast-to-break-ground-on-integrated-electric-vehicle-facility-in-india-post1078214.vov