ศูนย์ค้าส่งมัณฑะเลย์พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง

ศูนย์ค้าส่งมัณฑะเลย์ของ Brokers Traders & Millers Ma Har Ka Htain Taw Association พร้อมเปิดบริการอีกครั้งในวันที่ 21 มกราคม 63 นี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎและข้อบังคับของ COVID-19 ในปัจจุบันของเมียนมาหลังจากถูกปิดตัวลงไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีเวลาปิด-เปิดตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 00.00 น. แต่ยังมีคำแนะนำให้ขยายเวลาทำการเพื่อลดการหนาแน่นของผู้คนและจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ เช่น การสแกนอุณหภูมิ การล้างมือ การสวมถุงมือ และสวมหน้ากาก หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกแจ้งเตือนสำหรับครั้งแรก หากละเมิดกฎเป็นครั้งที่สองจะห้ามไม่ให้เข้าเป็นเวลาเจ็ดวัน และจะเพิ่มเป็น 15 วันหากไม่ปฏิบัติตามเป็นครั้งที่สาม ซึ่งในการเปิดศูนย์ฯ ครั้งนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือเกษตรกรเนื่องจากตรงกับช่วงเวลาเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/mandalay-wholesale-centre-reopen.html

แผนพัฒนาใหม่ของรัฐบาลสปป.ลาว มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงด้านการศึกษา

รัฐบาลสปป.ลาวได้ประกาศโครงการการศึกษาที่สำคัญและมีลำดับความสำคัญอย่างน้อย 20 โครงการภายใต้ร่างใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปีตั้งแต่ปี 64-68 ซึ่งมี 4 โครงการที่จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลและโครงการก่อสร้างหอพักสำหรับนักเรียน มัธยมศึกษา การสร้างห้องปฏิบัติการ การปรับปรุงและการก่อสร้างโรงเรียนและมาตรฐานด้านสุขอนามัยในโรงเรียนที่ดีขึ้น โครงการอื่น ๆ อีก 12 โครงการจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินผ่านความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอร่างแผนดังกล่าวซึ่งได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ได้สรุปเป้าหมายหลัก 6 ประการภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 64-68 รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคการศึกษา เป้าหมายแรกคือรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน 2.การฝึกอบรมจะเพิ่มขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น 3.ต้องปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน 4.ด้านสิ่งแวดล้อมโดยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ 5.เสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานและใช้ประโยชน์จากศักยภาพโอกาสและสถานที่เชิงกลยุทธ์ของประเทศ และ 6.การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเพื่อให้ความเสมอภาคความยุติธรรมและความสงบ มีอยู่ในสังคมและประชาชนได้รับความคุ้มครองผ่านการบังคับใช้กฎหมาย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_new_12.php

โครงการรถไฟ สปป.ลาวเชื่อมจีนสร้างรางเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว 242 กม

ตามรายงานของ Lao Security News ระบุว่าขณะนี้โครงการรถไฟสปป.ลาว – จีนได้ดำเนินการไปแล้ว 242 กิโลเมตรซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของโครงการทั้งทั้งหมด โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท China Railway International Co, Ltd กับรัฐบาลสปป.ลาว โดยไม่ได้มีเพียงการลงทุนในรางรถไฟฟ้าอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงอุโมงค์รถไฟ สะพานและส่วนย่อยซึ่งแล้วเสร็จไปแล้วร้อยละ 95  โครงการทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในกลางเดือนพฤษภาคมปีนี้ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะล่าช้าเนื่องจากปัญหาต่างๆ เมื่อโครงการเปิดให้บริการจะทำให้การเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ในสปป.ลาวสะดวกสบายมากขึ้นรวมถึงการขนส่งสินค้าไปยังจีนก็สามารถทำได้สะดวกมากขึ้นเป็นส่วนช่วยส่งเสริมการค้าให้สปป.ลาวได้เป็นอย่างดี

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/18/engineering-marvel-laos-china-railway-sees-242km-of-track-complete

กระทรวงการคลังกัมพูชาวางแผนปรับปรุงการจัดประเภทผู้เสียภาษีใหม่

กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังได้ออกคำสั่ง สำหรับการแบ่งประเภทของผู้เสียภาษีภาคธุรกิจในกัมพูชา โดยคำสั่งดังกล่าวลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการและการจัดเก็บภาษีทุกประเภทให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเท่าเทียมกัน ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งการมีสิทธิ์ได้รับระบบการประเมินจัดกลุ่มจะขึ้นอยู่กับรายได้ต่อปีของธุรกิจ ในภาคหลัก เช่น ภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการและการพาณิชย์ ตามคำสั่งจะแบ่งผู้เสียภาษีประเมินตนเองออกเป็น 3 ประเภท แตกต่างกัน คือ ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804495/ministry-revamps-self-assessment-tax-regime-classifications/

ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือในการดำเนินพิธีการศุลกากรของกัมพูชา

รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา (GDCE) ในการจัดทำระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่ทำให้กระบวนการชำระภาษีช้าลง โดย GDCE ได้ประชุมกับตัวแทนนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในกัมพูชา เพื่อหารือและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าและพิธีการทางศุลกากร ซึ่งผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ ผู้อำนวยการกรมศุลกากร ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นแห่งกัมพูชา (JBAC) สถานทูตญี่ปุ่นในกัมพูชา และผู้อำนวยการองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ในกัมพูชาเปิดเผยว่าฝ่ายญี่ปุ่นกำลังศึกษาวิธีบรรเทาปัญหาความแออัดที่จุดผ่านแดนระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม โดยจะทดสอบระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติใหม่ที่ท่าเรือและด่านศุลกากรหลักของกัมพูชา รวมถึงการติดตั้งระบบกล้องตรวจทางศุลกากรเพื่อเร่งเวลาในการดำเนินพิธีการศุลกากร ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งระบบ “National Single Window” ที่อนุญาตให้สมัครทางออนไลน์สำหรับเอกสารทางการนำเข้า / ส่งออก วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่จะเชื่อมโยงหน่วยงานของรัฐ 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา สภาพัฒนากัมพูชา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงและกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804464/japan-to-assist-in-cambodian-customs-clearance-automation/