อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มเมียนมามุ่งผลิต-ส่งออกที่หลากหลายขึ้น

อุตสาหกรรมเสื้อผ้าของเมียนมาจำเป็นต้องเน้นความหลากหลายโดยการกระจายตลาดเนื่องจากคำสั่งซื้อที่ลดน้อยลงอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ COVID-19  ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเมียนมาต้องเอาชนะความท้าทายที่เกิดจากการระบาดในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความไม่แน่นอนว่าจะมีวัคซีนป้องกัน COVID-19 เมื่อใด ปัจจุบันตลาดเครื่องนุ่งห่มของเมียนมา ได้แก่ สหภาพยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และเยอรมนี และอีกเล็กน้อยในตลาดสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของหลายประเทศเหล่านี้กำลังได้รับผลกระทบส่งผลให้มีคำสั่งซื้อน้อยลง ทั้งนี้ประเทศที่นำเข้าผ้าดิบจากจีนและเมียนมาอาจพิจารณาหันมานำเข้าจากอินเดียหรือปากีสถานแทน การระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลให้อัตราการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมนี้สูงขึ้น และการยกเลิกคำสั่งซื้อซึ่งส่งผลให้งานหายากขึ้นและการปลดแรงงานออกเนื่องจากนักการถอนการลงทุนของต่างชาติ ขณะนี้โรงงาน CMP (Cut-Make-Pack) ปิดตัวลงมากถึง 64 แห่งส่งผลให้มีผู้ตกงานมากกว่า 25,000 คน ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติจึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนจาก CMP ไปเป็นแบบ FOB (Free on Board) เพื่อะเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานและการขยายตลาด ทั้งนี้ภายใต้โครงการที่ริเริ่มโดยสหราชอาณาจักรซึ่งสนับสนุนให้โรงงานเสื้อผ้า 5 แห่งในย่างกุ้งและพะโคเริ่มผลิต อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) แทน เมียนมามีรายได้เกือบ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกเสื้อผ้าในปีงบประมาณ 62-63 ซึ่งลดลงกว่า 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmars-garment-sector-told-diversify.html

การลดหย่อนภาษีของรัฐบาลสปป.ลาวมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการลงทุนในแขวงไชยสมบูรณ์

รัฐบาลสปป.ลาวได้ออกนโยบายลดหย่อนภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้นในแขวงไชยสมบูรณ์นายอุ่นดวง ขาวพันธุ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการที่ริเริ่มนี้ เพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจในแขวงไชยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายนี้ธุรกิจที่ลงทุนในการพัฒนาการท่องเที่ยวและโรงแรมจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีกำไรเป็นระยะเวลาห้าปีและหากพวกเขาเพิ่มการลงทุนในการท่องเที่ยวมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่ลงทุนเดิมพวกเขาจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีกำไรอีกสองปี นอกจากนี้นักลงทุนจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสัมปทานที่ดินและจำนวนเงินที่พวกเขาใช้จ่ายในการฝึกอบรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยสามารถนำมาหักออกจากใบเรียกเก็บภาษีโดยรวมของพวกเขาได้ การส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวรัฐบาลมีความต้องการเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวซึ่งแขวงไชยบูรณ์ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาเพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและความพยายามในการลดความยากจนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_244.php

การท่องเที่ยวภายในประเทศถือเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของกัมพูชา

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชา โดยรายงานขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่ามีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาภายในประเทศมีมากถึง 11.2 ล้านคน ในกัมพูชา ถือเป็นเกือบสองเท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่มีการลงทะเบียนที่ 6.2 ล้านคน ในปีที่แล้ว และในขณะที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดลงอย่างรวดเร็วทั่วโลกผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างมองหาโอกาสจากการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นในการมีส่วนช่วยฟื้นตัวของภาคส่วนในระยะถัดไป ทั้งองค์การการท่องเที่ยวเพื่อสังคมระหว่างประเทศ (ISTO) กล่าวว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นทางออกที่แท้จริง สำหรับภาคส่วนนี้เนื่องจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียวนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าและการท่องเที่ยวในประเทศให้ประโยชน์เป็นวงกว้างมากกว่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50793199/domestic-tourism-is-key-to-sector-recovery-experts/

PPSP ว่างแผนทำการซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา

ผู้อำนวยการสวนอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (CSX: PPSP) เชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงในขณะนี้ถือเป็นการดีที่ทางคณะกรรมการจะเสนอแผนการซื้อหุ้นคืนต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ เนื่องจากราคาซื้อขายหลักทรัพย์ในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้สะท้อนเฉพาะในหุ้น PPSP เท่านั้น โดยยังสะท้อนไปถึงหุ้นส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนใน CSX ก็มีการลดลงของมูลค่าหุ้นเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นในดัชนี CSX ที่ลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดย PPSP ได้ประชุมกับหน่วยงานกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์ คือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (SECC) เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการซื้อคืนหุ้นที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งตั้งใจที่จะรักษาแผนการซื้อคืนหุ้นตามแผนที่วางไว้ แต่จะต้องได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อน ตามรายงานของ PPSP ไตรมาสที่ 3 ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 PPSP ทำเงินได้ 537,246 ดอลลาร์ ลดลงกว่าร้อยละ 93 เมื่อเทียบกับ 8,615,848 ดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50793013/ppsp-says-shares-are-undervalued-in-buyback/

Vietnam Economic Factsheet : November.2563

เศรษฐกิจเวียดนาม ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563

หัวข้อสำคัญ ดังต่อไปนี้

ด้านการผลิต

  • พื้นที่การเกษตรกรรม
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IPI)
  • ยอดการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ
  • จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ด้านการใช้จ่าย

  • ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคล
  • การใช้จ่ายภาครัฐบาลรวม
  • การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่, ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์
  • การค้าระหว่างประเทศ

เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
  • อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
  • ทุนสำรองระหว่างประเทศ
  • ดุลบัญชีเดินสะพัด

ภาคการเงิน

  • ปริมาณเงินความหมายกว้าง (M2)
  • อัตราแลกเปลี่ยน
  • อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • สินเชื่อในประเทศ

ที่มา : General Statistics Office of Vietnam, CEIC Data

สปป.ลาวเสี่ยงต่อการเกิดโควิด -19 ระลอกสอง

คณะทำงานด้านการป้องกันและควบคุม COVID -19 แห่งชาติสปป.ลาวระบุว่าสปป.ลาวมีความเสี่ยงที่จะเกิด COVID -19 ระลอกที่สอง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านต่อสู้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อภายใต้กระทรวงสาธารณสุขกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่าสปป.ลาวยังคงเสี่ยงต่อการเกิด COVID -19 ระลอกสองแม้ว่าประเทศจะมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดก็ตาม สถานการณ์เลวร้ายในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมามากกว่า 100,000 รายโดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย ทางการสปป.ลาวได้สั่งปิดเขตต้นผึ้งในแขวงบ่อแก้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID -19  หลังจากชาวจีน 2 คนที่ติดเชื้อโควิด -19 เข้ามาในเขตนี้อย่างผิดกฎหมายผ่านเมียนมาร์ สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID -19 ในปัจจุบันของสปป.ลาวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดีแต่ถึงอย่างไรรัฐบาลยังคงเข้มงวดต่อเนื่องในการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID -19 ของประเทศเพื่อนบ้าน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Farmers_243.php

ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามมีทิศทางดีขึ้น หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ตามรายงานของบริษัท KIS Vietnam Securities Corporation (KIS) เปิดเผยว่าดัชนี VN ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีแรก เป็นผลมาจากการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ไม่ได้คำนึงถึงว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้หรือแนวโน้มตลาด ก่อนจะทราบผลการเลือกตั้งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผลการวิเคราะห์ตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 ครั้งที่ผ่านมา พบว่าการเลือกตั้งในปีนี้ ดัชนีหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มลดลงหรือเคลื่อนไหวไปด้านข้างมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและความไม่แน่นอนของนโยบายใหม่ ทั้งนี้ เมื่อนายโจ ไบเดน ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ส่งผลเกิดการเคลื่อนย้ายห่วงโซ่อุปทานจากจีนไปยังเวียดนาม เนื่องจาก พรรคเดโมแครตสนับสนุนนโยบายการคุ้มกัน รวมถึงตลาดหุ้นเวียดนามจะได้รับการส่งเสริมจากสหรัฐฯ จากการรับมือกับการระบาดของไวรัส ทำให้ไบเดนดำเนินขยายเงินกู้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและการให้เงินกับครอบครัว นอกจากนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่ดึงดูดกองทุนจากจากต่างชาติมากที่สุด อันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดัชนี VN-Index เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.46 แตะระดับ 1,045 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้กิจขนาดเลือกับการระบาดของไวรัส ทำให้ไบเดนดำเนินขยายเงินก

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vn-index-tends-to-rise-after-us-elections-report-4205772.html