รัฐบาลสปป.ลาวช่วยเหลือภาระหนี้แก่เอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะชำระหนี้ให้กับองค์กรเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทต่างๆ เพื่อบรรเทาอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเงินจะถูกระดมจากการออกพันธบัตรและสถานบันการเงิน รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ ในขณะเดียวกันก็ผลักดันให้มีการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการช่วย บริษัท ในท้องถิ่นลดผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 แม้ว่าประเทศจะมีความตึงเครียดด้านงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2018 ถึงต้นปี 2019 หนี้ของรัฐบาลที่เกิดขึ้นกับองค์กรเอกชนกว่า 3,000 พันล้านกีบ โดยรัฐบาลมีโครงการที่จะนำหนี้ดังกล่าวเข้าสู่ธนาคารพาณิชย์เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและลดภาระของรัฐบาลเอง เนื่องจากรายได้ของประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 78 ของแผนประจำปีในปี 2563 จึงจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายในโครงการที่ไม่จำเป็นรวมถึงบริหารจัดการหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดภาระของรัฐบาล รัฐบาลจะไม่เพียง แต่ตั้งใจที่จะลดการใช้จ่ายด้านการบริหารเท่านั้น แต่ยังเลื่อนงบประมาณการลงทุนของลงร้อยละ 50 สำหรับโครงการที่ลดลงจะไม่ส่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากนัก

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Mekong_164.php

ประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง-จีน ยกย่องผลสำเร็จของความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (MLC)

ผู้นำของประเทศลุ่มน้ำโขงและจีนกล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความสำเร็จของความร่วมมือในช่วงสองปีที่ผ่านมาซึ่งช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของคนในภูมิภาค การประเมินดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมสุดยอดความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่สามซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการภายในกรอบ MLC (2018-2022) ตลอดจนการดำเนินโครงการผ่านกองทุนพิเศษ MLC ที่จีนสนับสนุนด้วยเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่ง ซึ่งมีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สปป.ลาวถือเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้อย่างมากจากการเกิดขึ้นของหลายโครงการในสปป.ลาวที่ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาชนบทและการลดความยากจน ในการประชุมผู้นำยังได้มีการหารือในหัวข้อที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปราม COVID-19 และแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการระบาดใหญ่ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Mekong_164.php

การพัฒนาท่าเรือสีหนุวิลล์สู่การเชื่อมต่อทางการค้าโลกของกัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวถึงการพัฒนาท่าเรือสีหนุวิลล์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มการเชื่อมต่อภายในระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ รวมถึงส่งเสริม อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง โดยกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชากล่าวว่าความคืบหน้าของโครงการสำคัญในกัมพูชาได้มีการอัพเดทและหารือกันในที่ประชุม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายกิจกรรมการลงทุนบนโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มการค้าระหว่างประเทศให้มากขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้วองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือว่าด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านท่าเรือ ซึ่ง JICA กล่าวในแถลงการณ์เมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมากในกัมพูชาทำให้ท่าเรือสีหนุวิลล์กลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในประเทศและในภูมิภาคที่สำคัญมากขึ้น ปริมาณการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ประจำปีที่ท่าเรือเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 540,000 ตู้สินค้า (TEU) ในปี 2018 จาก 290,000 TEU ในปี 2013 ซึ่ง JICA จะยังคงจัดหาเงินทุนและความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ เช่น โครงการเงินกู้อย่างเป็นทางการเพื่อให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา (ODA) ที่เรียกว่า “โครงการพัฒนาท่าเรือคอนเทนเนอร์ใหม่สีหนุวิลล์” และโครงการให้ความช่วยเหลือที่เรียกว่า “The Project for Port electronic data interchange (EDI) for Port Modernization” เพื่อพัฒนาท่าเรือสีหนุวิลล์ต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756097/development-of-sihanoukville-port-key-to-more-connectivity/

การเติบโตด้านการผลิตเกลือในจังหวัดกัมปอตของกัมพูชา

จังหวัดกัมปอตผลิตเกลือได้ประมาณ 84,000 ตันในปีนี้ เพื่อป้อนตลาดภายในประเทศตามรายงานของสำนักฟาร์มเกลือกรมอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมประจำจังหวัดกัมปอต โดยกัมพูชามีกลุ่มผู้ผลิตเกลือประมาณ 179 กลุ่ม (คิดเป็นเกษตรกร 1,650 ราย) ซึ่งมีฟาร์มเกลืออยู่จำนวน 3,726 เฮกตาร์ ในกัมปอต ซึ่งในจำนวน 83,969 ตัน มีการขายและกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ 44,822 ตัน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 39,000 ตัน ถูกเก็บไว้ในสต็อกเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต โดย ณ ตอนนี้เกลือ 1 กระสอบ (ประมาณ 50 กิโลกรัม) ขายได้ในราคา 2 ถึง 2.50 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปี 2561 กัมพูชานำเข้าเกลือประมาณ 30,000 ตัน เพื่อรองรับความต้องการในท้องถิ่น โดยทำการนำเข้าจากจีนมากถึง 10,000 ตัน และอินเดีย 20,000 ตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756098/good-weather-proves-savoury-for-salt-farmers-in-kampot/

‘ไทย-เวียดนาม’ เปิดตัวศูนย์แสดงสินค้าเวียดนามที่ประเทศไทย

สมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนาม (BAOTV) เปิดศูนย์การแสดงสินค้าเวียดนามที่ห้างสรรพสินค้า “VT แหนมเมือง” จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 23 สิ.ค. โดยมีคุณ Ho Van Lam ประธานสมาคม BAOTV กล่าวเปิดศูนย์การแสดงสินค้าเวียดนามและเล่าถึงการส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเวียดนามในประเทศไทย เพื่อให้เป็นที่นิยมในประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะที่ นายนายเหงียน ง๊อก เซิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าการเปิดศูนย์การแสดงสินค้าในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้บริโภคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถเข้าถึงสินค้าเวียดนามที่มีคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้นแล้ว แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศสามารถเข้าถึงการค้าและเจาะหาโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามมากกว่า 70,000 คน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-goods-exhibition-centre-inaugurated-in-thailand/181755.vnp